ReadyPlanet.com
dot dot dot
dot
สำหรับสมาชิก
ชื่อผู้ใช้ :
รหัสผ่าน :
เข้าสู่ระบบอัตโนมัติ :
bullet ลืมรหัสผ่าน
dot
dot
dot
bulletหลักโหรโดนใจ
bulletหลักโหร-ศิวเมษ
bulletโหรา-ประวัติศาสตร์
bulletโหรา-ไอที
bulletโหรา-โปรแกรม
bulletDemo/Freeware
bulletโปรแกรม Virgo07
bulletDelphi กับ Swiss Ephemeris
bulletผูกดวงออนไลน์กับ Astrotheme.com
bulletพิกัดภูมิศาสตร์ ประเทศไทย
bulletwebboard ผลัดกันเขียนเวียนกันอ่าน
dot
dot
bulletกำพล ภาระโภชน์ (Astroman) - ยูเรเนียน
bulletโรงเรียนโหราศาสตร์ไทยมาตรฐาน
bulletอดิเทพ ศรีรัตนไพฑูรย์ - ยูเรเนียน
bulletอาคม ชูจันทร์ - ยูเรเนียน, ลายมือ
bulletชาญชัย เดชะเสฏฐดี (ผู้ร่วมเขียนบทความ)
bulletอาจารย์ ธนกร ตันติถาวร - ยูเรเนียน
dot
dot
bulletประวัติ
bulletการติดต่อ
bulletภาพยนตร์ประวัติศาสตร์
bulletRojnChin's Channel (YouTube)
bulletRojnChin's Blog
bulletร้านค้าออนไลน์
dot
dot
bulletโรงเรียน โหราศาสตร์ ฮัมบูร์ก ประเทศเยอรมัน
bulletAstro.com
bulletพยากรณ์ดอทคอม
bulletมูลนิธิสมาคมโหรแห่งประเทศไทยฯ
bulletโหราศาสตร์แนวอาจารย์จรัญ พิกุล
bulletโหรายูเรเนียนดอทคอม
bulletบ้านฮวงจุ้ย
bulletวารสารโหราเวสม์
bulletUranianSoft.com
bulletดูดวงกับ GooSiam.com
bulletMyHora.com: ดูดวงยูเรเนียนออนไลน์
bulletAstro-Seek.com: Full Moons & New Moons
bulletAstro-Seek.com: Aspect Search Engine
bulletLatitude&Longitude เมืองต่างๆ ทั่วโลก
bulletIELTS British Council
bulletIELTS IDP
bulletMUIC
bulletรวม Link เว็บอื่นๆ ที่น่าสนใจ
bulletแผนผังเว็บไซต์ (Site Map)






ภาพยนตร์ประวัติศาสตร์


CURRENT MOON


dot
วงรอบพฤหัสกุมเสาร์ในศตวรรษที่ 20 - 21 article
วันที่ 21/12/2020   20:46:16

วงรอบพฤหัสกุมเสาร์ในศตวรรษที่ 20 - 21

webmaster@rojn-info.com

จากบทความที่แล้วที่ผมเริ่มเผยแพร่เมื่อราวต้นปี 2020/พ.ศ. 2563 เรื่อง “พฤหัส เสาร์ และพลูโต ในราศีมกร ปี 2020 (พ.ศ.2563) การแปลความหมายเบื้องต้น” ได้กล่าวถึงเรื่องการกุมกันของดาวใหญ่ ๆ ในราศีมกร (จักรราศีสายนะ) คือ เสาร์กุมพลูโต 1 ครั้ง พฤหัสกุมพลูโต 3 ครั้ง และการที่พฤหัสจะไปกุมเสาร์อีก 1 ครั้งในรอบประมาณ 20 ปี ณ ต้นราศีกุมภ์ ในบทความดังกล่าวจะเน้นไปที่การให้ความหมายกว้าง ๆ ของดาวแต่ละดวงและราศีมกร-กุมภ์ที่ดาวนั้น ๆ สถิตอยู่โดยไม่ได้ฟันธงว่าจะเกิดเหตุการณ์ใดแน่  ผลปรากฏว่าปี 2020/พ.ศ. 2563 กลายเป็นปีสำคัญของศตวรรษที่ 21 และของประวัติศาสตร์โลกอันเนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ซึ่งก่อให้เกิดผลกระทบทั้งทางสาธารณสุข สังคม เศรษฐกิจ การเมือง และขวัญกำลังใจของประชาชนไปทั่วโลกอย่างไม่เคยมีมาก่อน  ซึ่งเรื่องราวส่วนใหญ่ก็สอดคล้องกับความหมายของราศีมกรอย่างมาก

ขณะที่เริ่มเขียนบทความนี้เป็นเดือนพฤศจิกายน 2020/พ.ศ. 2563 ซึ่งผ่านพ้นการกุมกันของเสาร์กับพลูโต และพฤหัสกับพลูโตในราศีมกรมาแล้ว  กว่าจะเขียนเสร็จและเริ่มเผยแพร่ก็คงใกล้เคียงกับวันเวลาที่พฤหัสจะโคจรไปกุมกับเสาร์ ณ ต้นราศีกุมภ์ ในวันที่ 22 ธันวาคม 2563 เวลา 01.20 น. ตามเวลาประเทศไทย หลังจากวันเห-มายันหรืออาทิตย์ยกเข้าราศีมกรเพียงไม่กี่ชั่วโมง คือวันที่ 21 ธันวาคม 2563 ณ เวลา 17.03 น.  ซึ่งตามปกติ พฤหัสกับเสาร์มีวงรอบที่จะโคจรมากุมกันทุก ๆ 20 ปีโดยประมาณอยู่แล้ว  ทั้งนี้ เคยมีผู้รู้ท่านหนึ่งเคยให้ข้อสังเกตทาง Facebook ไว้ว่า ในแต่ละรอบการกุมกันของดาวทั้งสองย่อมจะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในระดับผู้นำมาตลอด  จากการตรวจสอบของผมเองก็ได้เห็นแนวโน้มที่มีความสอดคล้องกับความเห็นดังกล่าว  นับตั้งแต่เริ่มศตวรรษที่ 20 เป็นต้นมาจนสิ้นสุดศตวรรษที่ 21  มีการกุมกันของพฤหัสและเสาร์ ดังนี้ 

ครั้งที่ พ.ศ. ค.ศ., เดือน วัน (เวลา) สมผุสสายนะ
ธาตุ  สมผุสไทย
ธาตุ
 1  2444  1901, Nov 28 (16:29)  13 มก 59 ดิน  21 ธน 30 ไฟ
 2  2464  1921, Sep 10 (11:13)  26 กย 35 ดิน  03 กย 49 ดิน
 3  2483  1940, Aug 8 (08:23)  14 พภ 27 ดิน  21 มษ 25 ไฟ
     1940, Oct 20 (11:36)  12 พภ 27 ดิน  19 มษ 26 ไฟ
   2484  1941, Feb 15 (13:36)  09 พภ 07 ดิน  16 มษ 05 ไฟ
 4  2504  1961, Feb 19 (07:02)  25 มก 12 ดิน  01 มก 53 ดิน
 5  2524  1981, Jan 1 (04:23)  09 ตล 29 ลม  15 กย 54 ดิน
     1981, Mar 5 (02:07)  08 ตล 06 ลม  14 กย 30 ดิน
     1981, Jul 24 (11:15)  04 ตล 56 ลม  11 กย 20 ดิน
 6  2543  2000, May 28 (23:03)  22 พภ 43 ดิน  28 มษ 51 ไฟ
 7  2563  2020, Dec 22 (01:20  00 กภ 29 ลม  06 มก 20 ดิน
 8  2583  2040, Oct 31 (18:46)  17 ตล 55 ลม  23 กย 30 ดิน
 9  2603  2060, Apr 8 (05:29)  00 มถ 46 ลม  06 พภ 04 ดิน
 10  2623  2080, Mar 15 (08:31)  11 กภ 52 ลม  16 มก 53 ดิน

 หมายเหตุ 

  • วันที่และเวลาตามเวลามาตรฐานประเทศไทยปัจจุบัน
  • ปรากฏการณ์พฤหัสกุมเสาร์ย่อมเกิดขึ้นมาหลายครั้งนับตั้งแต่โลกและดาวเคราะห์ทั้งสองกำเนิดขึ้นมาในจักรวาล  แต่ในบทความนี้จะทดลองเสนอเฉพาะการกุมกันของดาวทั้งสองที่สัมพันธ์กับเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ไทยนับตั้งแต่ศตวรรษที่ 20 เป็นต้นมา 
  • สมผุสดวงไทยเป็นสมผุสจากการคำนวณโดยตัดอยนางศลาหิรี ซึ่งในบทความนี้จะใช้สมผุสระบบสายนะเป็นหลักในการวิเคราะห์ 

หากนำข้อมูลการกุมกันของพฤหัสและเสาร์ในแต่ละครั้งมาระบุตำแหน่งในจักรราศีระบบสายนะ จะได้แผนภูมิดังภาพต่อไปนี้

 

 จากแผนภูมิข้างต้น ขอให้สังเกตตัวเลขในวงกลมและเส้นลูกศรที่ผมทำโยงไว้ จะเห็นว่าตำแหน่งของการกุมกันระหว่างพฤหัสกับเสาร์ในแต่ละรอบ จะเปลี่ยนตำแหน่งในทิศทางที่ตามเข็มนาฬิกาหรือย้อนจักรราศีไปประมาณ 5 ราศี หรือถอยไปยังราศีที่ทำมุมตรีโกณกัน (120 องศา) แต่มีองศาที่เพิ่มขึ้นหรือลดลงถึง 10 องศากว่า ๆ  ซึ่งตามหลักโหราศาสตร์นั้น ราศีที่เป็น 5 เป็น 9 ต่อกันนั้น จะเป็นราศีในธาตุเดียวกัน  แต่จากการที่ตำแหน่งที่พฤหัสกุมเสาร์แต่ละครั้งมีการคลาดเคลื่อนออกไปครั้งละ 10 กว่าองศา ทำให้การกุมกันของดาวทั้งสองไม่ได้อยู่ในราศีที่จัดอยู่ในธาตุเดียวกันตลอดไป  ดังที่ปรากฏในตารางว่า การกุมกันครั้งที่ 1 จนถึงครั้งที่ 4 นั้น เกิดขึ้นในราศีธาตุดิน (สายนะ) จนถึงครั้งที่ 5 จึงขยับมาเกิดในราศีธาตุลม 1 ครั้ง  แล้วครั้งที่ 6 ย้อนกลับมาในราศีธาตุดินอีก 1 ครั้ง จากนั้นตั้งแต่ครั้งที่ 7 เป็นต้นไปจึงจะมากุมกันในราศีธาตุลมสืบต่อไป  ซึ่งในระยะยาวอาจขยับไปกุมกันในราศีธาตุอื่นได้อีก แต่นั่นคงเป็นเรื่องของอนาคตที่เกินกว่าขอบเขตของบทความนี้

แล้วการกุมกันของพฤหัสกับเสาร์ในแต่ละครั้งมีผลต่อประวัติศาสตร์หรือไม่อย่างไร? ในเชิงวิชาการประวัติศาสตร์ล้วน ๆ อาจจะไม่เห็นความสำคัญใด ๆ เลย  เพราะถือว่าประวัติศาสตร์เป็นเรื่องของพฤติกรรมของมนุษย์และพัฒนาการทางสังคมในช่วงเวลาต่าง ๆ  แต่สำหรับการศึกษาโหราศาสตร์ของเหตุการณ์บ้านเมือง ที่ในภาษาอังกฤษใช้คำว่า Mundane Astrology นั้น  วิชาประวัติศาสตร์น่าจะเข้ามาช่วยให้โหราศาสตร์แขนงนี้มีความกว้างขวางและลึกซึ้งขึ้นอีกมาก จากเดิมที่อาจจะดูกันแค่ดวงชะตาของบุคคสำคัญกับดวงเหตุการณ์สำคัญ ๆ  ก็ควรที่จะศึกษาถึงการแบ่งยุคสมัยและความเป็นเหตุผลต่อเนื่องกันของเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์เข้ามาเสริมด้วย  แต่ทั้งนี้คงต้องทำใจกันนะครับว่าการที่นักโหราศาสตร์จะนำวิชาประวัติศาสตร์มาใช้ประกอบการศึกษา Mundane Astrology กันมากขึ้นนั้นคงจะไม่ทำให้วงการประวัติศาสตร์ยอมรับโหราศาสตร์มากขึ้น  คล้าย ๆ กับที่วงการโหราศาสตร์นั้นต้องผูกดวงโดยอาศัยการคำนวณตามหลักดาราศาสตร์ แต่วงการดาราศาสตร์นั้นแยกทางจากโหราศาสตร์มานานแล้ว

ในการที่จะนำเอาช่วงเวลาของวงรอบการกุมกันของดาวทั้งสองมาใช้ในการกำหนดแบ่งยุคหรือช่วงเวลาในประวัติศาสตร์ก็ไม่อาจะที่จะทำได้อย่างลงตัวโดยสิ้นเชิง  เนื่องจากตำแหน่งดาวเคราะห์ต่าง ๆ แต่ละดวงในจักรราศีเองนั้น  ต่างก็มีระยะเวลาที่สถิตในแต่ละราศี วงรอบการโคจรโดยรอบจักรราศี และวงรอบการทำมุมกับดาวเคราะห์อื่น ๆ ที่แตกต่างกันหลากหลายและเหลื่อมทับกันเกินกว่าจะกล่าวในที่นี้ได้ทั้งหมด ขณะที่เหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ก็ยังมีตัวแปรต่าง ๆ ทั้งทางการเมือง เศรษฐกิจ สังคม จิตวิทยา เทคโนโลยี สถานการณ์โลกและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ฯลฯ จนทำให้การแบ่งยุคสมัยทางประวัติศาสตร์เองนั้นก็ยังมีความหลากหลายและเป็นที่ถกเถียงกันมาตลอด ความสัมพันธ์ระหว่างวงรอบการกุมกันของพฤหัสและเสาร์กับความเปลี่ยนแปลงทางประวัติศาสตร์การเมืองไทยในที่นี้จึงเป็นเพียงบททดลองเสนอในเบื้องต้นให้เห็นว่า ในแต่ละช่วงเวลาในอดีตจนถึงปัจจุบันทั้ง 6 ช่วงเวลานั้น มีภาพรวมอย่างไร และในยุคต่อ ๆ ไปนั้นน่าจะมีแนวโน้มอย่างไร  ซึ่งยังจะต้องอาศัยการศึกษาต่อยอดกันอีกมาก  ความสัมพันธ์ระหว่างการกุมกันของพฤหัสกับเสาร์กับเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ในแต่ละช่วงตามทัศนะของผมมีดังต่อไปนี้ครับ

1. ช่วงปี พ.ศ. 2444 – 2464 (ค.ศ. 1901 - 1921) พฤหัสกุมเสาร์ เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2444 เวลา 16.29 น. ที่ 13 องศา 59 ลิปดา ราศีมกร ธาตุดิน 

ราศีมกรก็เช่นเดียวกับราศีอื่น ๆ ที่มีความหมายกว้างขวางหลากหลาย แล้วแต่จะเลือกใช้ในบริบทใด สำหรับไทยหรือสยามในเวลานั้น การกุมกันของพฤหัสกับเสาร์ในราศีนี้ดูเหมือนจะเป็นการประสบความสำเร็จในการปกครองของชนชั้นนำ  ประวัติศาสตร์ไทยช่วงนี้ตรงกับปลายรัชกาลที่ 5 ต่อมาจนถึงรัชกาลที่ 6 เกือบจะครึ่งต่อครึ่ง  ก่อนจะถึงช่วงนี้ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้ทรงปฏิรูประบบราชการไทยและทำให้ประเทศมีความทันสมัยตามแบบตะวันตกในหลายประการ เช่น การจัดตั้งกระทรวง ทบวง กรม ต่าง ๆ การตัดถนนและสร้างทางรถไฟ การปฏิรูปการศึกษา เป็นต้น  เมื่อถึงช่วงเวลานี้ก็นับว่าระบบต่าง ๆ ของประเทศที่ทรงวางรากฐานไว้ก็เริ่มเข้าที่เข้าทาง  เมื่อสิ้นรัชกาลในวันที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2453/ค.ศ. 1910 สยามโดยการนำของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวต้องเผชิญสถานการณ์ทั้งจากภายในประเทศที่ปัญญาชนบางกลุ่มยังคงเรียกร้องที่จะให้มีการเปลี่ยนแปลงประเทศให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้น ดังเช่นกรณีกบฏ ร.ศ. 130 และสถานการณ์ภายนอกประเทศที่มหาอำนาจในยุโรปมีการแข่งขันและขัดแย้งทางการเมืองจนประทุเป็นสงครามโลกครั้งที่ 1  จากการที่ทรงนำสยามเข้าร่วมในสงครามโลกครั้งนั้น ทำให้สยามได้เข้าร่วมในสันนิบาตชาติ ได้มีสถานะเคียงบ่าเคียงไหล่อารยะประเทศ และเริ่มปูทางไปสู่การแก้ไขสนธิสัญญาต่าง ๆ ที่เราเสียเปรียบชาติตะวันตกมานาน  ซึ่งความสำเร็จในเวทีโลกนี้ย่อมส่งผลต่อความมั่นคงในประเทศไปด้วย 

2. ช่วงปี พ.ศ. 2464 – 2483 (ค.ศ. 1921 - 1940) พฤหัสกุมเสาร์ เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2464 เวลา 11.13 น. ที่ 26 องศา 35 ลิปดา ราศีกันย์ ธาตุดิน

ความหมายหนึ่งของราศีกันย์คือเรื่องของระเบียบกฎเกณฑ์ต่าง ๆ  ในประวัติศาสตร์ไทยตรงกับช่วงปลายรัชกาลที่ 6 ที่สยามต้องเผชิญปัญหาเศรษฐกิจหลังสงครามโลกเรื่อยมาจนตลอดรัชกาลที่ 7 ผ่านการเปลี่ยนแปลงการปกครองในปี 2475 มาจนถึงตอนต้นรัชกาลที่ 8 ที่ความรับผิดชอบทางการเมืองทั้งหลายได้ถูกโอนย้ายจากสถาบันพระมหากษัตริย์มายังรัฐบาลตามระบอบที่เกิดขึ้นใหม่  นับเป็นช่วงเวลาแห่งความขัดแย้งที่กลุ่มการเมืองทั้งสองขั้วในปัจจุบันต่างก็นำมาตีความอย่างฉาบฉวยเพียงเพื่อจะนำมาสนับสนุนความเชื่อของตัวเอง  ไอ้ฝ่ายหนึ่งก็ช่างสรรหาถ้อยคำมาด่าคณะราษฎรอย่างสาดเสียเทเสีย แล้วก็เที่ยวตามล้างตามเช็ดสิ่งที่จะเป็นอนุสรณ์คณะราษฎร ทั้งหมุดที่ปักไว้ ทั้งอนุสาวรีย์ที่หลักสี่ แถมยังเปรยว่าอยากจะรื้ออนุสาวรีย์ประชาธิปไตยอีกต่างหาก อีกฝ่ายหนึ่งก็เอาแต่อ้างจะสานต่ออุดมการณ์คณะราษฎรลอย ๆ จนถึงขนาดเอาชื่อเขามาใช้หน้าตาเฉย แล้วจะยังไงต่อก็ไม่บอกปล่อยให้งง ถ้าเป็นเรื่องหลักการแท้ ๆ ของคณะราษฎรดั้งเดิมอย่างหลัก 6 ประการนี่ไม่เห็นเคยอธิบายเป็นเรื่องเป็นราว  กลับมาเรื่องโหราศาสตร์ดีกว่า โดยส่วนตัวผมเองมองว่ายุคที่เริ่มจากพฤหัสกุมเสาร์ในราศีกันย์นี้เป็นยุคแห่งความพยายามที่จะวางหลักเกณฑ์การปกครองใหม่ให้ลงตัว  จากระบอบเดิมที่มีศูนย์กลางอยู่ที่องค์พระมหากษัตริย์โดยไม่มีกฎหมายแม่บทในการปกครองนั่นไม่เอาแล้ว แต่ก็ไม่เลยเถิดไปถึงขั้นยกเลิกสถาบันอย่างที่เคยเกิดขึ้นในบางประเทศ  ขอเป็นแบบที่สมัยนั้นใช้คำว่าให้พระมหากษัตริย์ทรงอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญอันจะพัฒนาต่อมาเป็น “ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข” อย่างที่เราใช้กันในปัจจุบัน  แต่ในช่วงเวลานั้นยังไม่ได้ลงตัวอันเนื่องจากการสละราชสมบัติของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดลยังทรงพระเยาว์ และยังทรงประทับอยู่ในต่างประเทศเพื่อทรงศึกษา ทำให้หน้าประวัติศาสตร์การเมืองไทยต่อจากนี้กลายมาเป็นเรื่องการแย่งชิงอำนาจกันเองของกลุ่มคนที่ถูกเหมารวมว่า “คณะราษฎร” ทั้งที่บุคคลระดับแกนนำที่ทำให้การเปลี่ยนแปลงการปกครองสำเร็จลงได้จริงนั้นแทบจะไม่ได้มีอำนาจหรือได้รับผลประโยชน์อะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลยด้วยซ้ำ

3. ช่วงปี พ.ศ. 2483 – 2504 (ค.ศ. 1940 - 1961) ช่วงนี้พฤหัสกุมเสาร์ถึง 3 ครั้ง ด้วยกัน เนื่องจากภายหลังการกุมกันครั้งแรกได้ไม่นาน ทั้งพฤหัสและเสาร์ได้เกิดการพักร์ กลับมาระยะหนึ่ง พฤหัสซึ่งโคจรเร็วกว่าก็จะถอยมาทับเสาร์แล้วเลยกลับเดินหน้ามากุมกันอีกครั้ง ครั้งที่ 1 วันที่ 8 สิงหาคม 2484 เวลา 8.23 น. ครั้งที่ 2 วันที่ 20 ตุลาคม 2484 เวลา 11.36 น. และครั้งที่ 3 วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2485 ณ สมผุส 14 องศา 27 ลิปดา 12 องศา 27 ลิปดา และ 9 องศา 07 ลิปดา ตามลำดับ ในราศีพฤษภ ธาตุดิน 

ราศีพฤษภเป็นราศีธาตุดินกลางธาตุหรือที่เรียกว่า สถิรราศี ให้ความหมายเกี่ยวกับการยึดมั่นถือมั่น ความดื้อดึง ไม่ค่อยยอมเปลี่ยนแปลง อนุรักษ์นิยม และหมายรวมถึงการกินหรือในทางโหราศาสตร์เหตุการณ์บ้านเมืองคือเรื่องทางเศรษฐกิจ ในทางประวัติศาสตร์การเมืองไทยนั้น ก่อนหน้านี้จอมพล ป. พิบูลสงครามได้ไต่เต้าขึ้นมามีอำนาจจนเริ่มเป็นนายกรัฐมนตรีตั้งแต่ปลายปีพ.ศ. 2481/ค.ศ. 1938  และดำรงตำแหน่งนี้เรื่อยมาจนถึง 1 สิงหาคม 2487/ค.ศ. 1944 แล้วกลับมาดำรงตำแหน่งอีกช่วง ระหว่างปี 2491 – 2500/ค.ศ. 1948 – 1957 หรือถ้านับกันจริง ๆ ท่านดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีถึง 8 สมัย รวมระยะเวลาได้ถึง 15 ปี 25 วัน  นับว่ายาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์การเมืองไทย และแน่นอนว่าเต็มไปด้วยความขัดแย้งกับกลุ่มต่าง ๆ อย่างรุนแรงตลอดเวลา หลังจากจอมพล ป. หมดอำนาจลงไปแล้วราว 2 ปี จอมเผด็จการในตำนานรายที่ 2 คือจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ก็ได้ก้าวเข้าสู่อำนาจอย่างเต็มตัว นับเป็นการเปลี่ยนผ่านจากระบอบเผด็จการในแนวของประเทศกลุ่มอักษะในยุคสงครามโลกมาเป็นเผด็จการในยุคสงครามเย็นที่สหรัฐอเมริกาหนุนหลังขึ้นมาต่อต้านลัทธิคอมมิวนิสต์

4. ช่วงปี พ.ศ. 2504 – 2524 (ค.ศ. 1961 - 1981) พฤหัสกุมเสาร์ เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2504 เวลา 7.02 น. ที่ 25 องศา 12 ลิปดา ราศีมกร ธาตุดิน

การที่พฤหัสและเสาร์กลับมากุมกันในราศีมกรครั้งนี้ น่าจะทำให้การปกครองแบบเผด็จการยุคสงครามเย็นมีความมั่นคงคล้ายกับระบอบราชาธิปไตยในช่วงต้นศตวรรษ  แต่ลักษณะความหวาดระแวงของดาวเสาร์เจ้าเรือนราศีมกรได้แสดงออกผ่านความชิงชังลัทธิคอมมิวนิสต์  หลังจากจอมพลสฤษดิ์ถึงแก่อสัญกรรมในปี 2506/ค.ศ. 1963 จอมพลถนอม กิตติขจร ได้ดำรงตำแหน่งต่อมาอีกประมาณ 9 ปีเศษ  จึงได้เกิดเหตุการณ์เรียกร้องประชาธิปไตยในช่วงวันที่ 14 – 16 ตุลาคม 2516 (ค.ศ. 1973)  ประชาธิปไตยเบ่งเบนอยู่ได้ประมาณ 3 ปี ท่ามกลางบรรยากาศการกล่าวหาโจมตีกันระหว่างฝ่ายซ้ายและฝ่ายขวา  จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์การสังหารหมู่ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และการทำรัฐประหารในวันที่ 6 ตุลาคม 2519 (ค.ศ. 1976)  แต่รัฐบาลที่ขวาจัดเกินไปก็ไม่สามารถดำรงอยู่ได้นานจนต้องเกิดการผ่อนคลายด้วยการเลือกตั้งในปี 2522 (ค.ศ. 1979) พลเอกเกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ ดำรงตำแหน่งได้ไม่นานก็ต้องลาออกเนื่องจากวิกฤตการน้ำมันแพงในวันที่ 3 มีนาคม 2523 (ค.ศ. 1980) แล้วได้พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ขึ้นดำรงตำแหน่งแทน

5. ช่วงปี พ.ศ. 2524 – 2543 (ค.ศ. 1981 - 2000) เป็นอีกครั้งที่พฤหัสกุมเสาร์ถึง 3 ครั้ง ด้วยเหตุผลเดียวกับในช่วงที่ 3 แต่เปลี่ยนจากราศีธาตุดินมายังราศีธาตุลม โดยครั้งแรก วันที่ 1 มกราคม 2524 เวลา 4.23 น. ครั้งที่ 2 วันที่ 5 มีนาคม 2524 เวลา 2.07 น. และครั้งที่สาม 24 กรกฎาคม 2524 เวลา 11.15 น. ณ สมผุส 9 องศา 29 ลิปดา 8 องศา 06 ลิปดา และ 4 องศา 56 ลิปดา ตามลำดับ ในราศีตุลย์ ธาตุลม

หลังจากที่ความหวาดระแวงลัทธิคอมมิวนิสต์ในช่วงที่แล้วได้ทำให้เกิดการปะทะกันระหว่างฝ่ายซ้ายกับฝ่ายขวาจนต่างฝ่ายต่างเจ็บกันไปทั้งคู่แล้ว  การเมืองในช่วงนี้ได้คลี่คลายมาเป็นความพยายามที่จะรักษาสมดุลและประนีประนอมตามแบบราศีตุลย์  ในช่วงที่พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ เป็นนายกรัฐมนตรีนั้น มีผู้เรียกการเมืองในช่วงนี้แบบล้อ ๆ ว่า “ประชาธิปไตยครึ่งใบ”  ที่พวกอำนาจนิยมฝ่ายขวาได้ยอมผ่อนคลายให้มีการเลือกตั้งได้ แต่ลงท้ายก็ยังคงได้พลเอกเปรมขึ้นมาเป็นนายกฯ  นอกจากนี้ ยังมีนโยบายการดึงสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์ออกจากป่ามาเป็นผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย และนโยบายใต้ร่มเย็นที่เกิดขึ้นเพื่อสร้างสันติสุขขึ้นในสังคม  แต่การประนีประนอมนี้ก็ใช่ว่าจะเป็นที่ชื่นชอบของทุกฝ่าย ขณะที่ฝ่ายซ้ายมองว่าอำนาจยังอยู่ในมือฝ่ายขวา  ทางฝ่ายขวาเองก็มีแรงกดดันจนถึงขั้นพยายามกระทำรัฐประหาร  แต่ไม่สำเร็จจนกระทั่งเมื่อพลเอกเปรมยอมลงจากหลังเสือในปี 2531 (ค.ศ. 1988) พลเอกชาติชาย ชุณหะวัณ ถูกกระทำรัฐประหารโดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (รสช.) เมื่อ 23 กุมภาพันธ์ 2534 (ค.ศ. 1991)  แล้วเปิดให้มีการเลือกตั้งในเดือนเมษายนปีถัดมา คณะรัฐประหารที่พยายามสืบทอดอำนาจก็ต้องแพ้ภัยตนเองในเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ ในเดือนพฤษภาคม 2535 (ค.ศ. 1992)  ทำให้การเมืองไทยเว้นว่างจากการรัฐประหารไปอีกหลายปี  สรุปคือตลอดช่วงเวลานี้แม้จะถูกมองว่าฝ่ายอำนาจนิยมยังคงมีอำนาจอยู่เบื้องหลัง แต่ก็เป็นช่วงที่มีสภาผู้แทนราษฎรที่มาจากการเลือกตั้งเกือบตลอด โดยเว้นว่างไปเพียงปีเศษ ๆ ที่ รสช. ยึดอำนาจเท่านั้น

6. ช่วงปี พ.ศ. 2543 – 2563 (ค.ศ. 2000 - 2020) พฤหัสกุมเสาร์ เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2543 เวลา 23.03 น. ที่ 22 องศา 43 ลิปดา ราศีพฤษภ ธาตุดิน 

ครั้งนี้ จุดพฤหัสกุมเสาร์ย้อนกลับมาที่ราศีธาตุดิน ปัญหาการเมืองช่วงนี้สืบเนื่องจากปัญหาเศรษฐกิจในปลายช่วงที่แล้ว ประกอบกับช่องโหว่ของรัฐธรรมนูญ ทำให้ทักษิณ ชินวัตร สามารถชนะการเลือกตั้งเข้ามาได้โดยการประกาศนโยบายประชานิยม  ที่นำงบประมาณของแผ่นดินมาให้ประโยชน์ต่าง ๆ แก่ประชาชนโดยมิได้คำนึงถึงการหาเงินเข้าประเทศและวินัยการคลัง  ไม่นานนัก สิ่งที่ดูเหมือนเป็นมิติใหม่ทางการเมืองและความหวังของประชาชนผู้ยากไร้กลับกลายเป็นการทุจริตอย่างขนานใหญ่ จนกลายเป็นความขัดแย้งทางการเมืองที่ในที่สุดได้ดึงทหารกลับมาทำรัฐประหารอีกครั้งในปี 2549 (ค.ศ. 2006)  ขณะที่ทักษิณไปเยือนต่างประเทศ คณะรัฐประหารยึดอำนาจอยู่ราวปีเศษก็จัดให้มีการเลือกตั้งในปลายปี 2550  ทักษิณกลับมาเมืองไทยในเดือนกุมภาพันธ์ 2551 และอยู่ได้ไม่ถึงปีก็ต้องหลบหนีออกนอกประเทศโดยอ้างว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมจากระบวนการยุติธรรมและยังไม่สามารถกลับมาไทยได้อีกจนถึงทุกวันนี้  อย่างไรก็ตาม กลุ่มการเมืองของเขาที่แม้จะถูกยุบพรรคและมีบุคคลสำคัญถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองก็ยังคงได้รับชัยชนะในสนามเลือกตั้งมาตลอด  ท่ามกลางการชุมนุมทางการเมืองของกลุ่มเสื้อแดงที่เขาสนับสนุนกับฝ่ายที่ต่อต้านเขาอันได้แก่ กลุ่มเสื้อเหลือง และ กปปส. ทำให้เกิดความวุ่นวายทางการเมืองต่อมาอีกหลายปี จนในที่สุดได้เกิดการรัฐประหารล้มรัฐบาลของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในปี 2557 (ค.ศ. 2014) โดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่มีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบกขณะนั้นเป็นหัวหน้า  และต่อมาได้รับเลือกให้เป็นนายกรัฐมนตรี ทำให้การเมืองสงบลงได้ชั่วคราว  แต่จากการที่ คสช. ยึดอำนาจไว้นานกว่าจะได้จัดการเลือกตั้งในปี 2562 (ค.ศ. 2019) ท่ามกลางข้อกล่าวหาว่าสืบทอดอำนาจจากการร่างรัฐธรรมนูญ และสร้างกลไกต่าง ๆ จนทำให้พลเอกประยุทธ์กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง  เมื่อเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ไปทั่วโลกในปี 2563 (ค.ศ. 2020) แม้ประเทศไทยที่มีรัฐบาลพลเอกประยุทธ์บริหารจะสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ดีจนติดอันดับต้น ๆ ของโลก  แต่นั่นกลับทำให้การเมืองไทยต้องเผชิญกับการชุมนุมประท้วงต่าง ๆ อีกครั้ง และขณะที่กำลังจะนำบทความขึ้นสู่เว็บไซต์ก็พอดีกับจังหวะเวลาที่กำลังลุ้นว่าการที่โควิด-19 กลับมาเริ่มแพร่ระบาดอีกครั้งที่จังหวัดสมุทรสาครและจังหวัดใกล้เคียงรวมทั้งกรุงเทพมหานคร เหตุการณ์ต่อไปจะเป็นอย่างไรยังไม่ทราบ อาจกล่าวได้ว่า ปัญหาหลักของช่วงเวลานี้คือ นโยบายเศรษฐกิจแบบประชานิยมที่ทักษิณ ชินวัตร นำมาใช้ที่แม้กลุ่มการเมืองอื่นที่เข้ามาเป็นรัฐบาลแทนในบางช่วงเวลาก็จำต้องสานต่อ และการเมืองบนท้องถนนของกลุ่มการเมืองต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นจากความแตกแยกความคิดทางการเมือง แล้วมาตบท้ายด้วยการแก้ปัญหาโรคระบาดที่ควบคู่กับปัญหาเศรษฐกิจ

7. ช่วงปี พ.ศ. 2563 – 2583 (ค.ศ. 2020 - 2040) พฤหัสกุมเสาร์ ในวันที่ 22 ธันวาคม 2563 เวลา 1.20 น. ที่ 0 องศา 29 ลิปดา ราศีกุมภ์ ธาตุลม 

นับเป็นอีกครั้งที่จุดพฤหัสกุมเสาร์ได้กลับมาที่ราศีธาตุลมอีกครั้ง  ครั้งนี้เป็นราศีกุมภ์ ที่ต้นราศีเพียง 0 องศาเศษ ๆ เท่านั้น  โดยราศีกุมภ์นั้นมีความหมายเกี่ยวกับความก้าวหน้า ความฉับพลัน ความทันสมัย ความร่วมมือ เสรีภาพ ฯลฯ โบราณกำหนดให้เสาร์ดาวเจ้าเรือนเช่นเดียวกับราศีมกร  ในโหราศาสตร์สมัยใหม่จะให้ดาวมฤตยู (Uranus) เป็นดาวเจ้าเรือนอีกดวงหนึ่งด้วย  บางสำนักคิดไปไกลถึงขนาดตัดดาวเสาร์ออกไปเพื่อจะพยายามให้เกิดระบบเกษตรเรือนเดียว  แต่ก็ยังไม่เป็นที่ยอมรับมากนัก  ขอให้สังเกตว่าความหมายของราศีกุมภ์นี้ก็จะคล้าย ๆ กับควาหมายของมฤตยู และเรือนชะตาที่ 11 ด้วย  ในเบื้องต้นจึงอาจคาดการณ์ได้ว่าการเมืองหรือสถานการณ์ทั่วไปในช่วงเวลาประมาณ 20 ปีต่อจากนี้น่าจะเป็นไปตามความหมายของราศีกุมภ์โดยเฉพาะด้านที่ดี ๆ อย่างเช่น การมีสิทธิเสรีภาพมากขึ้น ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีต่าง ๆ  แต่การกุมกัน ณ จุดต้นราศีนั้น จะมีความแรงดังที่บางตำราว่าไว้หรือไม่  ดาวมฤตยูที่เป็นเจ้าเรือนราศีกุมภ์กำลังอยู่ในราศีพฤษภที่เป็นความยึดมั่นถือมั่นซึ่งขัดกับควาหมายของมฤตยูและราศีกุมภ์อย่างมาก  เสรีภาพในยุคเทคโนโลยีจะเป็นจริงได้เพียงใดในเมื่อเจ้าของเทคโนโลยีก็คือนายทุนที่ย่อมจะแสวงหาผลกำไรเป็นอันดับแรก ฯลฯ โฉมหน้าที่แท้จริงของยุคนี้จะเป็นอย่างไรแน่  เวลาจะเป็นผู้เฉลยครับ  หรือผู้รู้ทางโหราศาสตร์ท่านใดใช้หลักวิชาที่แตกต่างไปจากนี้ก็ลองใช้ตำราและวิธีการของท่านค้นหาคำตอบดูครับ

 ข้อมูลประกอบที่น่าสนใจ




หลักโหรโดนใจ

ไพ่กับดวงเมืองและดวง 12 ราศี? เก็บไพ่เอาไว้ทายให้คนที่เขาไว้ใจคุณดีกว่า วันที่ 21/12/2020   20:08:52 article
พฤหัส เสาร์ และพลูโต ในราศีมกร ปี 2020 (พ.ศ.2563) การแปลความหมายเบื้องต้น วันที่ 21/12/2020   20:09:22 article
เมื่อต้องทดลองใช้จานคำนวณ 45 องศา วันที่ 27/06/2011   18:16:18
ดาวฤกษ์ที่สำคัญในแต่ละราศี (Important Fixed Stars) วันที่ 12/03/2011   08:08:39 article
พิกัดภูมิศาสตร์เมืองหลวงของทีมต่างๆ ในฟุตบอลโลก 2010 วันที่ 05/06/2010   08:24:06 article
เรื่องของ Sabian Symbols โดยย่อ วันที่ 10/06/2010   16:58:16
ใช้โหราศาสตร์เท่าที่จำเป็น วันที่ 18/07/2009   17:19:10 article
อะไรกันนักกันหนากับ "มุม" ใน โหราศาสตร์ยูเรเนียน วันที่ 18/07/2009   16:57:20 article
เวลาที่ผูกดวง เชื่อที่ได้แค่ไหน? วันที่ 18/07/2009   16:43:02 article
เรือนชะตาแบบยูเรเนียนกับระบบเจ้าเรือนแบบไทยๆ วันที่ 16/05/2009   12:38:41
มฤตยู/อาพอลลอน = เนปจูน นานกว่าที่คิด แต่อย่าคิดมาก วันที่ 00/00/0000   00:00:00
แนวทางการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า เมื่อไม่รู้เวลาเกิด วันที่ 00/00/0000   00:00:00
จุดชะตากรรมรังแก หรือ ดื้อสุดๆ มรดกทางวิชา ยูเรเนียน จากท่านอาจารย์ จรัญ พิกุล วันที่ 26/07/2009   22:51:31 article
รู้อนาคตเพื่อการบริหารจัดการอนาคต วันที่ 00/00/0000   00:00:00 article
การพยากรณ์โชครายวัน (จากบทความเก่าของ “ศิวเมษ”) วันที่ 00/00/0000   00:00:00 article
พื้นฐานและแนวทางการใช้ โหราศาสตร์ ติดตาม เหตุการณ์บ้านเมือง วันที่ 09/07/2017   21:06:10 article
โหราศาสตร์ สามมิติ วันที่ 00/00/0000   00:00:00 article
ดวงความสัมพันธ์-ดวงสมพงศ์ ใน โหราศาสตร์สากล-ยูเรเนียน วันที่ 00/00/0000   00:00:00 article
แบบวิเคราะห์ ประวัติ เจ้าชะตา ตาม ดาวเคราะห์ประจำวัย และ วงรอบดาวเคราะห์ วันที่ 03/12/2017   20:21:59 article
ข้อสังเกตบางประการเกี่ยวกับ “จุดเจ้าชะตา” วันที่ 00/00/0000   00:00:00 article
การใช้ เรือนชะตา แบบ ยูเรเนียน วันที่ 00/00/0000   00:00:00 article
จุดสะท้อน : ต้นกำเนิด ศูนย์รังสี และ จุดอิทธิพล วันที่ 00/00/0000   00:00:00
Secondary Progress กับ โค้งสุริยยาตร์ วันที่ 26/07/2009   22:53:45 article
ดวงวันเกิด (Solar Return) วันที่ 26/07/2009   22:54:11 article
สัญลักษณ์ ราศี และ ปัจจัยที่ใช้ใน โหราศาสตร์ ยูเรเนียน วันที่ 26/07/2009   22:54:54 article
จักรราศี วันที่ 03/03/2011   16:35:28 article
วงรอบดาว กับ คนวัยหลักสี่ วันที่ 26/07/2009   22:55:46 article
ดูดวง แบบ SWOT วันที่ 27/06/2009   08:39:57 article
กองทัพ "จุด" ในยูเรเนียน วันที่ 00/00/0000   00:00:00 article
แนะนำหนังสือ หลักโหร วันที่ 19/08/2009   09:26:44 article
พื้นฐานการใช้ จานคำนวณ 360 องศา วันที่ 03/03/2011   16:36:32 article
ความเป็นมา ของ โหราศาสตร์ ยูเรเนียน วันที่ 26/07/2009   22:57:12 article
เว็บนี้เปิดเมื่อจันทร์จรเข้าหาพฤหัสกำเนิด วันที่ 26/07/2009   22:57:37 article
ก่อนจะเรียน เคล็ดลับ วันที่ 26/07/2009   22:57:58 article
ข้อสังเกตบางประการเกี่ยวกับผู้ศึกษา โหราศาสตร์ วันที่ 26/07/2009   22:58:36 article
โหราศาสตร์ มีวิชาเดียว วันที่ 26/07/2009   22:58:52 article



Copyright © 2010 All Rights Reserved.
| โหรา-ประวัติศาสตร์ | โหรา-ไอที | หลักโหรโดนใจ | บทความสมทบ | โหรา-โปรแกรม | ผู้จัดทำ/ผู้สนับสนุน | Site Map |

Custom Search


ติดต่อนายโรจน์ E-mail: webmaster@rojn-info.com
หรือ Mobile: 08-1697-3098
(อาจไม่สะดวกรับสายในบางเวลา)
ยังไม่เปิดสอนและไม่รับพยากรณ์เป็นส่วนตัว
กรุณาอย่าใช้โทรศัพท์หรือส่งอีเมล์มาขอดูดวง เพราะไม่มีเวลาตอบ



มูลนิธิสมาคมโหรแห่งประเทศไทยในพระสังฆราชูปถัมภ์ โหราศาสตร์แนว อ.จรัญ พิกุล - AstroClassical.com HoraUranian.com ดูดวง
โหราศาสตร์กับเครื่องประดับ บ้านฮวงจุ้ย (fengshuihut.com) ตลาดวิชาฮวงจุ้ยและดวงจีน ผูกดวง/ยูเรเนียนออนไลน์ (MyHora.com)

รวมลิงค์ : เว็บอื่นๆ ที่น่าสนใจ
eXTReMe Tracker