คำแปลหรือคำพยากรณ์ที่ปรากฏในตำราต่างๆ ไม่ว่า "หลักโหร" ของ "ศิวะเมษ" "คัมภีร์สูตรพระเคราะห์สนธิ" หรือ "คัมภีร์สูตรเรือนชะตา" ของ อาจารย์ พลตรี ประยูร พลอารีย์ หรือตำราอื่นใดก็ตาม ย่อมจะมีความหมายต่างๆปรากฏอยู่หลายประการจนผู้ที่ศึกษาใหม่ๆ จะรู้สึกงุนงงสงสัยว่า คำแปลเหล่านี้จะเป็นจริงทุกประการหรือไม่อย่างไร หรือจะเลือกใช้ประยุกต์ใช้อย่างไร ขอเชิญศึกษา "เทคนิคการเลือกคำแปล" จากตำรา "หลักโหร" ของ "ศิวะเมษ" เพื่อเป็นแนวทางในการเลือกคำแปลจากตำราให้เหมาะสมครับ
---------------
คำแปลหรือคำพยากรณ์ทุกๆเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นคำแปลเกี่ยวกับความหมายของดาวพระเคราะห์ในราศีต่างๆ หรือว่าจะเป็นคำแปลเกี่ยวกับความหมายของเรือนชะตาต่างๆ หรือว่าคำแปลการผสมความหมายของดาวพระเคราะห์ที่ทำมุมกัน หรือว่า ฯลฯ ที่ปรากฏอยู่ในหนังสือนี้ ล้วนแต่เป็นคำแปลหรือคำพยากณ์ที่มีความหมายหลายอย่างทั้งสิ้น ดังนั้น ในการใช้คำแปลเหล่านี้ออกเป็นคำพยากรณ์ที่แท้จริง ท่านจะต้องเลือกเอาเฉพาะคำแปลใดคำแปลหนึ่งไปเป็นความหมายเชิงพยากรณ์เท่านั้น - อย่าได้เอาคำแปลทั้งหมดไปเป็นคำพยากรณ์ดวงชะตาให้เขาเป็นอันขาด
การเลือกคำแปลที่เหมาะสม จัดเป็นเทคนิคอย่างหนึ่งสำหรับการพยากรณ์ เพราะจะทำให้ผลการพยากรณ์ถูกเป้าหมายได้ถึง 80 เปอร์เซนต์ และการถอดความหมายของคำแปลที่ถูกต้องก็จะทำให้ผลการพยากรณ์ถูกเป้าหมายได้อีก 20 เปอร์เซนต์ เพราะฉะนั้น การเลือกคำแปลที่เหมาะสมกับดวงชะตานั้นๆ จึงเป็นเรื่องที่สำคัญมาก
เทคนิคในการเลือกคำแปลที่เหมาะกับดวงชะตาแต่ละดวงนั้น ให้ท่านยึดหลักดังนี้
1. ความเป็นไปได้และความเป็นไปไม่ได้
คำแปลบางอย่างอาจจะเป็นไปได้สำหรับบางดวงชะตา และอาจจะเป็นไปไม่ได้สำหรับบางดวงชะตา เช่น ในการตรวจพื้นดวงชะตาของดวงชะตาดวงหนึ่ง พบว่ามีอาทิตย์อยู่ในราศีเมษ คำพยากรณ์หรือคำแปลแบบทั่วๆไปของอาทิตย์ในราศีเมษ มีดังนี้
"ความพยายามหรือต่อสู้เพื่อความสำเร็จ การก่อร่างสร้างตัว ความก้าวหน้าอย่างกระทันหัน ความแข็งแรง ผู้ชาย สามี ทหาร"
จากการยึดถือหลักความเป็นไปได้และความเป็นไปไม่ได้นี้ ในคำแปลนี้ท่านอาจจะใช้สามัญสำนึกกลั่นกรองคำแปลเหล่านี้ได้ว่า ถ้าดวงชะตานี้เจ้าชะตาเป็นหญิง ความหมายของคำแปลที่ว่า "ผู้ชาย สามี ทหาร ..." เหล่านี้ก็คงมิได้หมายถึงเจ้าชะตา อาจจะหมายถึงคนอื่นที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับเจ้าชะตา
2. ข้ออุปมาอุปมัย
คำแปลบางความหมายจำเป็นจะต้องมีการวินิจฉัยเพื่อศึกษาสิ่งที่ยังไม่ทราบหรือทราบแต่ไม่ชัดโดยการนำมาเปรียบเทียบกับสิ่งที่เราทราบแล้ว เช่น ในการตรวจดวงชะตาดวงหนึ่ง พบว่า ดวงชะตานั้น มีพฤหัสอยู่ในราศีพฤศจิก คำพยากรณ์หรือคำแปลโดยทั่วๆไปของพฤหัสในราศีพฤศจิก มีดังนี้
"ความสำเร็จในกิจกรรมที่เป็นความลับ ความสำเร็จในวิชาลี้ลับ ผู้สำเร็จทางจิต"
ในการเลือกคำแปล ท่านจะต้องทราบอะไรบางอย่างของเจ้าชะตา ซึ่งจะเป็นด้วยการซักถามเจ้าชะตาหรือว่าเจ้าชะตาบอกเองก็ตาม เพื่อที่จะนำมาเปรียบเทียบกับสิ่งที่เรายังไม่ทราบ เช่น สมมติว่า เราทราบแล้วว่า เจ้าชะตาผู้นี้เป็นนักการเมืองระดับหัวหน้า เราก็อาจตั้งข้อเปรียบเทียบได้ว่า
- เจ้าชะตาเป็นนักการเมือง
- นักการเมือง(ส่วนมาก)ต้องมีเล่ห์เหลี่ยม
- เจ้าชะตาเป็นบุคคลมีเล่ห์เหลี่ยม
เมื่อทราบว่าเจ้าชะตาเป็นนักการเมือง และเป็นคนมีเล่ห์เหลี่ยม เพราะฉะนั้น คำพยากรณ์หรือคำแปลพฤหัสในราศีพฤศจิกที่ว่า "ความสำเร็จในกิจกรรมที่เร้นลับ" จึงเหมาะสมที่สุดสำหรับเจ้าชะตา เพราะเจ้าชะตาอาจจะมีแผนการลับอะไรบางอย่างก็ได้ในการต่อสู้เพื่อวิถีทางการเมืองของเขา และเมื่อเลือกคำแปลนี้แล้ว คำแปลอื่นๆก็ตัดทิ้งไปได้เลย
3. เรื่องที่ต้องการพยากรณ์
คำแปลแต่ละปัจจัยมีความหมายหลายนัยหลายอย่างด้วยกัน แต่เมื่อเราต้องการจะจับจุดพยากรณ์ในเรื่องใด ก็ต้องจับเอาเฉพาะจุดเรื่องนั้นเพียงเรื่องเดียวขึ้นมาใช้ เช่น สมมติว่า ในการตรวจดวงชะตาดวงหนึ่ง ท่านพบว่า มีดาวเจ้าเรือนปัตนิอยู่ในราศีเมษ คำพยากรณ์หรือคำแปลโดยทั่วๆไปของเรือนที่ 7 ในราศีเมษมีดังนี้
"รีบร้อนในการมีคู่ อยากแต่งงาน การขัดแย้งที่บานปลาย คู่ความที่เข้มแข็ง หุ้นส่วนที่มีแต่ความเปลี่ยนแปลง"
เรื่องที่ท่านต้องการพยากรณ์เป็นเรื่องใด ท่านก็ต้องจับเอาเฉพาะเรื่องนั้นขึ้นมาใช้ เช่น ท่านต้องการจะพยากรณ์เพียงเรื่องคู่ครองเท่านั้น ท่านก็จะได้คำพยากรณ์ออกมาว่า เจ้าชะตาผู้นี้แต่งงานเร็ว คือแต่งงานตั้งแต่ยังเริ่มๆหนุ่มสาว แล้วก็ตัดคำแปลอื่นๆ ทิ้งไปได้เลย
4. กาลเวลา
คำพยากรณ์บางคำในปัจจัยเดียวกัน แต่มีคำแปลอยู่หลายชนิด เช่น บุคคล สถานที่ คำนาม ฯลฯ และมีบางคำที่ให้ความหมายสำหรับพยากรณ์ดวงชะตากำเนิดโดยเฉพาะ และบางคำก็ให้ความหมายสำหรับพยากรณ์ดวงชะตาจรโดยเฉพาะ ดังนั้น ในการพยากรณ์ท่านต้องเลือกให้ถูกกับกาลเวลา