ชาญชัย เดชะเสฏฐดี

“นางใช้ความงามและเสน่ห์ของตนเข้าครอบครองหัวใจและสยบยอดวีรบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดของชาวโรมันไว้ได้ทั้งสองคน แต่ยอดวีรบุรุษคนที่สามทำให้นางต้องฆ่าตัวตาย”

คัสเซียส ไดโอ

นักประวัติศาสตร์ผู้มีชื่อเสียงชาวโรมัน

 

1. บทนำ

จากการที่ผู้เขียนได้เขียนบทความเกี่ยวกับ “คลีโอพัตรา” ราชินีชื่อก้องโลกลงในเว็บ www.Iseehistory.com  ติดต่อกัน 4 ตอน ใช้เวลาค้นคว้าและเขียนรวมกัน 3 ปีนั้น  ได้พบคำถามเกี่ยวกับวันเกิด/ราศีเกิดของคลีโอพัตราปรากฏอยู่ในอินเตอร์เน็ทหลายแห่งด้วยกัน และก็มีคนเสนอความเห็นหลายต่อหลายความเห็นว่าคลีโอพัตราควรจะเกิดในราศีอะไร ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นราศีมีน, พิจิก และมังกร โดยอ้างเหตุผลจากคุณลักษณะต่างๆเกี่ยวกับคลีโอพัตราที่ทราบกันอยู่ทั่วไป ผู้เขียนเองก็อยากทราบเพื่อนำมาลงไว้ในบทความชุดนี้ตั้งแต่ตอนที่ 1 และก็เคยลองหาดูแล้วจึงได้รู้ว่ามีคนสนใจอยากรู้กันมากทั้งในวงการและนอกวงการโหราศาสตร์ แต่ก็ไม่สามารถหาได้เช่นกัน  หาได้เพียงว่า คลีโอพัตราเกิดในช่วงเวลาประมาณ 68 - 70 ปีก่อนคริสตกาลเท่านั้น การพยายามหาวิธีกำหนดวันเกิดของคลีโอพัตราเป็นเรื่องน่าสนใจ เพราะในบรรดาผู้หญิงที่ได้รับการกล่าวขานว่าเป็น“ผู้หญิงที่สวยที่สุดในประวัติศาสตร์” ทั้ง 8 นาง (ฝรั่ง 4 นาง: เนเฟอตีตี, เฮเลน แห่ง ทรอย, คลีโอพัตรา, กวินิเวียร์;  จีน 4 นาง: ไซซี, เตียวเสี้ยน, หวังเจาจิน, หยางกุ้ยเฟย) นั้น ดูเหมือนว่าคลีโอพัตรามีบันทึกทางประวัติศาสตร์ที่ให้ข้อมูลวันเกิดที่น่าเชื่อถือและชัดเจนกว่าคนอื่นๆ (อาจจะประมาณ เดือนมกราคม 69 ปีก่อนคริสตกาล) ตัวอย่างเช่นเนเฟอตีติก็มีบันทึกบอกเป็นช่วงเวลาที่คาดว่านางมีชีวิตอยู่  เฮเลน แห่ง ทรอย ก็มีเพียงมหากาพย์ที่โฮเมอร์เขียนขึ้นจากตำนานปรัมปราของกรีกโดยเอาความฝันกับความจริงมารวมกัน และทำได้เพียงประมาณการช่วงเวลาที่นางมีชีวิตอยู่เช่นกัน กวินิเวียร์ก็ปรากฏอยู่ในตำนานเรื่องราวของกษัตริย์อาเธอร์  ซึ่งแม้แต่ตัวกษัตริย์อาเธอร์เองนักประวัติศาสตร์/นักโบราณคดีก็ยังเถียงกันไม่จบเลยว่าเคยมีตัวตนจริงๆหรือเปล่า แล้วจะได้เบาะแสที่น่าเชื่อถือเกี่ยวกับวันเกิดของกวินิเวียร์ได้อย่างไร  ทางด้าน 4 หญิงงามของจีนก็คงจะทำนองเดียวกันคือเป็นประมาณการช่วงเวลาที่พวกนางมีชิวิตอยู่โดยเฉพาะกรณีของเตียวเสี้ยนนั้นเช่นเดียวกับกวินิเวียร์ ถึงกับมีหลายคนกล่าวว่านางไม่เคยมีตัวตนอยู่จริงในประวัติศาสตร์เลย ดังนั้นถ้าหากจะทดลองใช้หลักวิชาโหราศาสตร์ในเรื่องโครงสร้างที่ชี้บอกความงามของสตรี เข้าไปกำหนดวันเกิดของผู้หญิงที่สวยที่สุดในประวัติศาสตร์แล้ว จึงน่าจะทดลองนำมาใช้หาวันเกิดของคลีโอพัตราที่สุด เพราะมีบันทึกทางประวัติศาสตร์ที่ค่อนข้างชัดเจนประมาณการช่วงเวลาเกิดของนางไว้

อย่างไรก็ตามคำว่า “ประมาณ เดือนมกราคม 69 ปีก่อนคริสตกาล” นั้น จะคลำทางด้วยวิชาโหราศาสตร์ไปหาวันเกิดของคลีโอพัตราได้อย่างไรนั้น ผู้เขียนยังไม่เคยมองเห็นหนทางเลยว่าจะทำได้อย่างไร  จนกระทั่งเมื่อมาเขียนบทความชุดนี้ในตอนที่ 3 และได้เขียนถึงโครงสร้างที่ชี้บอกความงามของสตรีในระบบนิรายะนะ ที่กล่าวถึงโครงสร้างความงามในระดับสูงสุดถึงขั้น “มหกรรมโกลา ความงามที่พลิกแผ่นดิน” ซึ่งโครงสร้างดาวเคราะห์ดังกล่าวนั้นผู้เขียนเห็นว่าเกิดได้ยากมาก จึงได้เห็นหนทางที่อาจทดลองนำมาวิเคราะห์ในทางทฤษฎีดูว่าเป็นไปได้ไหม ที่จะคาดเดาวันเกิดของคลีโอพัตราจากข้อมูลเท่าที่มีบันทึกอยู่อย่างเลือนรางในประวัติศาสตร์โดยอาศัยการปรับดวงชะตาจากโครงสร้าง “ความงามที่พลิกแผ่นดิน” นี้

2.  ความงามที่พลิกแผ่นดิน

ก่อนจะปรับดวงชะตาจากบันทึกที่เลือนรางในประวัติศาสตร์ดังกล่าว “ประมาณ 68 ปีถึง 70 ปีก่อนคริศตกาล” นั้น เราน่าจะลองมาดูกันก่อนว่าโครงสร้างดาวเคราะห์ที่เรียกว่า “ความงามที่พลิกแผ่นดิน” มีโอกาสเกิดขึ้นได้มากน้อยเพียงใด

โครงสร้างนี้ถ้าว่ากันตามทฤษฎีจริงๆ (รายละเอียดในบทความชุดนี้ ตอนที่ 3) ต้องเป็นจันทร์ในราศีพฤศภ กุมสนิทองศากับศุกร์ที่เป็นเกษตรในราศีพฤศภ  ดาวศุกร์นั้นกำลังเพ็ญเต็มที่ในลักษณะอยู่นำหน้าอาทิตย์ (อสุรสนธยา) และพร้อมกันนั้นดาวจันทร์ก็กำลังบังดาวศุกร์อยู่สนิทองศาด้วย  (มุมบ่ายเบน หรือ Declination เท่ากัน, ถ้ามองไปบนท้องฟ้า ดาวจันทร์และดาวศุกร์จะอยู่ใกล้กันมาก ที่ไทยเราเรียกกันว่า ดาวฮิมเดือน หรือดาวศุกร์เข้าวงพระจันทร์) เงื่อนไขสุดท้ายคือดาวศุกร์กำลังหยุดนิ่งอยู่กับที่ ที่เรียกกันว่า “อสุรสนธยาวิกล” ถ้าได้ครบเงื่อนไขตามนี้ตำราบอกว่าจะเกิดมหกรรมโกลา ความงามที่เกิดขึ้นเป็นความงามในระดับสูงสุดถึงขั้น “ความงามที่พลิกแผ่นดิน”

ความจริงการวิเคราะห์ว่าโครงสร้างนี้มีโอกาสเกิดขึ้นได้มากน้อยเพียงใดนั้น  คงต้องอาศัยนักโหราศาสตร์ที่มีความเชี่ยวชาญภาคการคำนวณ และ/หรือนักดาราศาสตร์ภาคคำนวณเข้ามาทำ  เนื่องจากเป็นงานคำนวณทางดาราศาสตร์ที่ผู้เขียนไม่มีความรู้พอ  จึงขอฝากเรื่องไว้สำหรับนักโหราศาสตร์ภาคคำนวณหรือนักดาราศาสตร์ท่านใดที่พอมีเวลา ลองช่วยใช้หลักวิชาวิเคราะห์ดูว่าโครงสร้างตามที่ตำราบอกไว้นั้นมีโอกาสเกิดมากน้อยเพียงใด กี่ร้อยปี หรือกี่พันปี จึงจะมีโอกาสเกิดปรากฏการณ์ดังกล่าวขึ้นได้บนท้องฟ้า ?  นอกจากนี้การวิเคราะห์ย้อนหลังกลับไปถึง ประมาณ 100 ปีก่อนคริสตกาลก็ทำได้ยากมาก เพราะซอฟท์แวร์ที่ผู้เขียนมีอยู่ ก็มีเพียง 2 โปรแกรมเท่านั้นที่คำนวณย้อนหลังไปได้ และยังให้ตำแหน่งดาวเคราะห์ออกมาต่างกันมากอีกด้วย ซึ่งหลังจากการทดสอบเปรียบเทียบตำแหน่งที่ได้ออกมา ผู้เขียนจึงได้ตัดสินใจเลือกใช้เพียงโปรแกรมซึ่งคิดว่าน่าจะให้ตำแหน่งดาวเคราะห์ที่ถูกต้องมากกว่า บทความตอนนี้จึงเป็นเพียงอีกความพยายามหนึ่งในขั้นเริ่มต้น ที่จะใช้หลักวิชาทางโหราศาสตร์ เข้าไปคลำหาวันเกิดของผู้หญิงคนหนึ่งที่ได้ชื่อว่าสวยที่สุดในประวัติศาสตร์ เพียงคนเดียวที่พอจะมีบันทึกทางประวัติศาสตร์กำหนดช่วงเวลาเกิดที่พอจะเชื่อถือได้

เนื่องจากความรู้ทางโหราศาสตร์ภาคคำนวณ และ softwares ที่มีอยู่ไม่เพียงพอที่จะวิเคราะห์ความยากง่ายของการเกิดปรากฏการณ์ “โครงสร้างความงามที่พลิกแผ่นดินได้” บทความตอนนี้จึงใช้ข้อมูลที่ท่านอาจารย์พันเอก นายแพทย์ประจวบ วัชรปาณ เคยรวบรวมไว้ในบทความเรื่อง “ดาวฮิมเดือน (Occultation of Venus)” ซึ่งตีพิมพ์ในวารสาร “โหราศาสตร์ ภารตะ-ไทย” ติดต่อกันหลายฉบับ   ในบทความดังกล่าวท่านได้ค้นคว้าจากปูมโหรไทยโบราณที่บันทึกไว้ว่ามีปรากฏการณ์ ดาวจันทร์บังดาวศุกร์บนท้องฟ้า (ผู้เขียนเข้าใจว่าเป็นการบันทึกจากการมองเห็นด้วยตาเปล่าว่าดาวจันทร์อยู่ใกล้ แทบจะชิดกับดาวศุกร์บนท้องฟ้า เนื่องจากในยุคนั้นการคำนวณค่ามุมปัดเหนือปัดใต้ น่าจะอยู่พ้นวิสัยที่คัมภีร์สุริยาตร์จะทำได้) จากนั้นท่านก็มาเทียบเคียงกับปฏิทินดาวว่า ณ วันดังกล่าวนั้น ดาวศุกร์เพ็ญหรือไม่ เพ็ญ การเพ็ญนั้นเพ็ญแบบใด อสุรสนธยาหรือเทวะสนธยา  จากการค้นคว้าของท่านพบว่า ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2445 ถึงปีพ.ศ. 2510 (65 ปี) นั้น มีปรากฏการณ์ที่บันทึกไว้ว่าพบการบังกันระหว่างดาวศุกร์กับดาวจันทร์ 86 ครั้ง  ผู้เขียนได้ใช้ซอฟท์แวร์ที่มีอยู่กรองเอา การเพ็ญแบบเทวะสนธยา ออกไป ดาวศุกร์เพ็ญต่ำกว่า 44 องศาออกไป  และการบังกันระหว่างจันทร์กับศุกร์ที่มีระยะวังกะมากกว่า 2 องศาออกไป พบว่า เหลือเพียง 13 ครั้งเท่านั้นที่เป็นการเพ็ญแบบอสุรสนธยา ศุกร์ห่างจากอาทิตย์ตั้งแต่ 44 องศาขึ้นไป และการบังกันระหว่าง ดาวจันทร์กับดาวศุกร์มีระยะวังกะตั้งแต่ 2 องศาลงมา  จึงสามารถสรุปในเบื้องต้นอย่างง่ายๆได้ว่า ปรากฏการณ์บนท้องฟ้าที่ใกล้เคียงกับโครงสร้าง “ความงามที่พลิกแผ่นดิน” เกิดขึ้นประมาณ 5 ปีต่อ ครั้ง  และพบว่าไม่มีครั้งใดเลยที่เกิดขึ้นในราศีพฤศภ และก็ไม่มีครั้งใดเลยที่ดาวศุกร์กำลังโคจรหยุดนิ่งในสถานะ “อสุรสนธยาวิกล”  สรุปได้ว่าในช่วงระยะเวลา 65 ปีที่ท่านอาจารย์นายแพทย์ประจวบ วัชรปาณ เก็บสถิติมานั้น  มีเพียง 13 ครั้งที่มีปรากฏการณ์บนท้องฟ้าใกล้เคียงโครงสร้าง “ความงามที่พลิกแผ่นดิน” ตามที่ตำราบอกไว้  แต่ไม่มีปรากฏการณ์ที่ตรงตามตำราเกิดขึ้นเลยแม้แต่ครั้งเดียว (เกิดขึ้นในราศีพฤศภ ในขณะที่ดาวศุกร์กำลังโคจรหยุดนิ่ง ในสถานะที่เรียกว่า “อสุรสนธยาวิกล)

 

3. โครงสร้างเป้าหมายที่ใช้ในการปรับดวงชะตาเพื่อกำหนดวันเกิดของ”คลีโอพัตรา”

การวิเคราะห์ในบทความนี้กำหนดเป้าหมายโครงสร้างที่เป็นเครื่องชี้บอกว่านี่อาจเป็นวันเกิดของคลีโอพัตราคือ

ก. โครงสร้างตรงตามรูปแบบที่ตำรากำหนดไว้

ข. โครงสร้างตามความเห็นของท่านอาจารย์ พันเอก นายแพทย์ ประจวบ วัชรปาณ ที่ว่า “โครงสร้างที่ดาวจันทร์บังดาวศุกร์สนิทองศา และขณะนั้นดาวศุกร์กำลังเพ็ญเต็มที่ในลักษณะที่เป็นอสุรสนธยา จะทำให้เกิดมหกรรมโกลา ‘ความงามที่พลิกแผ่นดิน’ ”

เป้าหมายดังกล่าวข้างต้นเป็นเป้าหมายโครงสร้างทางโหราศาสตร์ ส่วนเป้าหมายทางกายภาพ “ความงามที่พลิกแผ่นดิน” เป็นอย่างไรนั้นก็คงต้องนำคำบรรยายของนักประวัติศาสตร์ที่กล่าวถึงคลีโอพัตราไว้มาสะท้อน ภาพ “ความงามที่พลิกแผ่นดิน” ดังนี้

ก. คัสเซียส ไดโอ นักประวัติศาสตร์ที่มีชื่อเสียงชาวโรมัน  ผู้ซึ่งเคยเห็นคลีโอพัตราตัวจริงมาด้วยตาของตนเอง เขียนไว้ว่า

ก.1 “การพูดจาด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวล ไพเราะ อ่อนหวานดุจเสียงพิณ  ท่าทางที่แจ่มใสร่าเริง ทำให้นางสามารถสกดคนฟังให้สงบนิ่งได้ ดังนั้นด้วยรูปกายที่งดงาม สมส่วน และน้ำเสียงที่นุ่มนวลไพเราะราวกับเสียงพิณ ที่กล่าวด้วยลีลาคล่องแคล่วเฉลียวฉลาด  จึงเป็นอาวุธที่ร้ายกาจที่สุดของนางยิ่งกว่าอาวุธใดๆ”

ก.  “ใครก็ตามที่ได้พบคลีโอพัตรา จะต้องประหลาดใจเมื่อได้ยินเสียงและได้พบตัวตนของนาง ความงามและเสน่ห์ของนางสามารถทำให้ผู้ชายทุกคนไม่ว่าแก่หรือหนุ่มหลงรักนางได้ เป็นไปได้ที่อาจมีผู้หญิงอื่นที่สวยงามกว่านาง แต่ก็จะไม่มีผู้หญิงคนใดอีกเลยที่จะสวยอย่างประหลาดและมีเสน่หานุภาพดึงดูดใจผู้ชายได้รุนแรงเช่นนาง”

ก.3 “นางใช้ความงามและเสน่ห์ของตนเข้าครอบครองหัวใจและสยบยอดวีรบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดของชาวโรมันไว้ได้ทั้ง 2 คน แต่ยอดวีรบุรุษผู้ยิ่งใหญ่คนที่ 3 ทำให้นางต้องฆ่าตัวตาย”

ข. ซิเซโร  นักประวัติศาสตร์ผู้มีชื่อเสียงชาวโรมัน บันทึกไว้ว่า “คลีโอพัตรา ได้เปรียบกว่าสตรีใดในโลกเนื่องจากมีความสวยและเสน่ห์เป็นอมตะ ที่หาได้ยากยิ่ง นางมีลักษณะเหมือนสตรีที่ไร้เดียงสา มีอารมณ์สนุกสนาน เพ้อฝัน แต่ก็แฝงด้วยความทะเยอทะยานที่ชาญฉลาด และวางตัวได้เหมาะสมกับตำแหน่งอันสูงศักดิ์ของตน”

ค.  พลูต้าช นักประวัติศาสตร์ผู้มีชื่อเสียงชาวกรีกบันทึกเหตุการณ์ขณะที่คลีโอพัตรา เดินทางไปพบ มาร์ค แอนโทนี่ ที่ทาซัส เพื่อเกลี้ยกล่อมให้มาร์ค แอนโทนี่ เลิกคิดที่จะโจมตียึดครองอียิปต์เป็นเมืองขึ้น เพื่อนำไปเป็นผลงานแสดงแก่ชาวโรมันว่าเขาเหนือกว่าคู่แข่งของเขา (อ็อคตาเวี่ยน) และดึงมาร์ค แอนโทนี่มาเป็นพันธมิตรกับอียิปต์ พลูต้าชบันทึกไว้ว่า “นางล่องเรือมาตามแม่น้ำซิดนัส เรือของนางเป็นเรือสำราญหุ้มรอบนอกด้วยแผ่นทองคำ ใบเรือเป็นสีม่วง ใบพายทำด้วยโลหะเงิน ฝีพายพายเรือตามจังหวะเพลงที่เล่นโดยขลุ่ยและพิณ ตัวคลีโอพัตราเองแต่งตัวในชุดเทพเจ้าแห่งความงาม (ดาวพระศุกร์) ความงามของนางเฉิดฉายเปล่งประกายท้าทายแสงอาทิตย์ในเวลากลางวัน และข่มแสงจันทร์ให้ซีดจางลงในเวลาค่ำคืน”

4 ความงามที่เทียบเคียง

“ไม่สวยจริงไม่ได้เล่นบทนี้หรอก” เป็นความคิดของคนทั่วไปที่มีต่อนางเอกภาพยนตร์ที่ได้รับบทแสดงเป็นคลีโอพัตรามาทุกยุคทุกสมัย ดังนั้นก่อนไปถึงการปรับดวงชะตาเพื่อหาวันเวลาเกิดที่ให้โครงสร้างตามเป้าหมายในช่วงเวลาระหว่าง 68 – 70 ปี ก่อนคริสตกาล เพื่อกำหนดวันเกิดของคลีโอพัตรานั้น เราลองมาดูกันก่อนว่า ความงามที่วงการภาพยนตร์เห็นว่าเทียบเคียงกับคลีโอพัตราได้นั้น เป็นใคร สวยงามแค่ไหน และโครงสร้างดาวเคราะห์ที่ชี้บอกความงามเป็นอย่างไร โดยเรียงลำดับตามเวลาที่สร้างภาพยนตร์ดังนี้

1. (ค.ศ. 1908) ชื่อเรื่อง “Antony and Cleopatra” โดยมี Florence Lawrence แสดงเป็นคลีโอพัตรา
2. (ค.ศ. 1912) ชื่อเรื่อง “Cleopatra, Queen of Egypt” โดยมี Helen Gardner รับบทเป็นคลีโอพัตรา
3. (ค.ศ. 1917): Cleopatra: Theda Bara (คลีโอพัตรา), Fritz Leiber (ซีซาร์), Thurston Hall (แอนโทนี) กำกับการแสดงโดย J. Gordon Edwards สร้างจากบทละครเรื่อง Cléopatre ของ Émile Moreau, Cléopatre ของ Sardou และ Antony and Cleopatra ของ วิลเลียม เชคสเปียร์
4. (ค.ศ. 1934): Cleopatra: Claudette Colbert (คลีโอพัตรา), Warren William (ซีซาร์), Henry Wilcoxon (แอนโทนี) Cecil B. DeMille ได้รับรางวัลออสการ์ สาขาผู้กำกับภาพยนตร์ยอดเยี่ยม
5. (ค.ศ. 1946): Caesar and Cleopatra: วิเวียน ลีห์ (คลีโอพัตรา), Claude Rains (ซีซาร์), Stewart Granger, Flora Robson — ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ ดัดแปลงจากบทละครของ George Bernard Shaw วิเวียน ลีห์ ยังได้แสดงเป็นคลีโอพัตราร่วมกับ Laurence Olivier สามีของเธอในสมัยนั้น ผู้รับบทซีซาร์ ในภาคละครเวทีของเรื่องนี้ที่เปิดแสดงในกรุงลอนดอน
6. (ค.ศ. 1953): Serpent of the Nile: Rhonda Fleming (คลีโอพัตรา), Raymond Burr (มาร์ค แอนโทนี), Michael Fox (ออกตาเวียน)
7. (ค.ศ. 1963): Cleopatra: อลิซาเบท เทย์เลอร์ (คลีโอพัตรา), Rex Harrison (ซีซาร์), Richard Burton (แอนโทนี) รางวัลออสการ์สาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และติดอันดับหนังทำเงินแห่งปี และยังเป็นที่จดจำของแฟนๆจากเรื่องราวความรักนอกจอระหว่างอลิซาเบท เทย์เลอร์ กับ ริชาร์ด เบอร์ตัน ซึ่งเป็นเวอร์ชั่นที่ได้รับความนิยมและกล่าวถึงมากที่สุด
8. (ค.ศ. 1964): Carry On Cleo ภาพยนตร์ตลกขบขัน ล้อเลียนภาพยนตร์ที่สร้างในปี ค.ศ. 1963 โดยมี Amanda Barrie รับบทเป็นคลีโอพัตรา, Sid James เป็น มาร์ค แอนโทนี และ Kenneth Williams เป็นซีซาร์
9. (ค.ศ. 1974): Antony & Cleopatra: แสดงโดย London's Royal Shakespeare Company นำแสดงโดย Janet Suzman (คลีโอพัตรา), Richard Johnson (แอนโทนี) และ Patrick Stewart (เอโนบาร์บุส)

10.     (ค.ศ. 1999): Cleopatra: Leonor Varela (คลีโอพัตรา), ทิโมที ดาลตัน (ซีซาร์), Billy Zane (แอนโทนี่) สร้างจากหนังสือ Memoirs of Cleopatra โดย Margaret George

นอกเหนือจากนางเอกทั้ง 10 คนข้างต้นแล้ว ผู้เขียนก็ได้ค้นหาข้อมูลดวงชะตาของ “ผู้หญิงสวย” ที่น่าสนใจบางคนที่พบว่าเคยแสดงบทหรือกำลังจะแสดงบท “คลีโอพัตรา” ซึ่งนำมาเสนอในที่นี้ 3 คนดังนี้

11.        Sophia Loren   นางเอกอมตะตลอดกาลอีกคนหนึ่งของฮอลลีวูด ที่นักวิจารณ์ในวงการภาพยนตร์บางคนชื่นชมว่าเธอเป็น “สิ่งมหัศจรรย์สิ่งที่ 8 ของโลก” ผู้เขียนพบในอินเตอร์เน็ทว่าเธอก็เคยแสดงบท “คลีโอพัตรา” เช่นกันตั้งแต่สมัยที่เธอเพิ่งเข้าสู่วงการใหม่ๆ ในภาพยนตร์ชื่อ Two Nights with Cleopatra (1953)

12.        Angelina Jolie  ว่าที่คลีโอพัตราคนใหม่ล่าสุดของฮอลลีวูด ที่นักวิจารณ์ทั่วโลกหลายต่อหลายคนพากันให้ความเห็นตรงกันว่า ในยุคนี้มีเพียงเธอคนนี้คนเดียวเท่านั้นที่เหมาะสมจะเล่นบท “คลีโอพัตรา” ได้ ซึ่งเธอได้เซ็นสัญญากับ Sony Pictures ตกลงรับบทนี้แล้ว และ Sony Pictures กำลังอยู่ในระหว่างการเจรจากับเจมส์ คาเมล่อน ให้รับเป็นผู้กำกับภาพยนตร์เรื่องนี้ ซึ่งเจมส์ คาเมล่อน ผู้กำกับหนังทำเงินสูงสุดตลอดกาล (ผู้สร้างตำนาน Titanic และ Avatar) ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ The New Yorks Time  ว่า “มันฟังดูร้อนแรงมากว่ามั้ย คิดดูนะ แองเจลีนา โจลี กับคลีโอพัตรา มันต้องเป็นหนังที่สุดยอดมาก ๆ ไม่ว่าผมจะเป็นผู้กำกับหรือไม่ก็ตาม” Cleopatra เวอร์ชั่นใหม่ จะมี สก๊อตต์ รูดิน เป็นผู้อำนวยการสร้าง จากบทหนังที่อ้างอิงเรื่องราวจากหนังสือ Cleopatra: A Life ของ สเตซี ชิฟฟ์ นักเขียนเจ้าของรางวัลพูลิตเซ่อร์ ซึ่งจะเล่าเรื่องขององค์ราชินีแห่งอียิปต์ ทั้งเรื่องการต่อสู้แย่งชิงอำนาจกับพี่น้องร่วมสายเลือด, เรื่องราวความรักระหว่างนาง กับผู้นำแห่งโรม จูเลียส ซีซาร์ และความสัมพันธ์ยาวนาน 9 ปี กับ มาร์ค แอนโทนี่ จนไปถึงการเสียชีวิตที่เป็นตำนานเล่าขานของคนรักทั้งสอง

13.        พัชราภา ไชยเชื้อ                                นางเอกอันดับหนึ่งของไทยในยุคนี้ ที่เคยได้รับการจัดอันดับให้เป็นผู้หญิงที่เซ็กซี่ที่สุดติดต่อกันเป็นเวลาหลายปี เนื่องจากผู้เขียนเห็นว่าผู้หญิงไทยก็สวยไม่แพ้ผู้หญิงชาติใดในโลก จึงได้ลองหาข้อมูลทางอินเตอร์เน็ทดูและพบว่าเธอเคยสวมบทบาท “คลีโอพัตรา” เช่นกัน โดยเธอได้รับบทให้แต่งกายเป็น “คลีโอพัตรา” ในงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์สินค้ายี่ห้อหนึ่ง

ลำดับที่ 1 Florence Lawrence

January 2, 1886 (2429) Hamilton Ontario Canada

รูปที่ 1  Florence Lawrence

นางเอกภาพยนตร์คนแรกที่ได้เล่นบทคลีโอพัตรา  (เป็นหนังใบ้แบบเดียวกับ เก๋ากึ๊กส์ ชาลี แชปปลิ้นส์) หาได้แต่วันเดือนปีเกิด ไม่ทราบเวลาเกิด  หาโครงสร้างตามที่กล่าวถึงในตอนที่ 2 ซึ่งไม่ต้องใช้เวลาเกิดไม่พบโครงสร้างความงามที่โดดเด่นแต่อย่างใด  และไม่สามารถคาดเดาโครงสร้างความงามที่เด่นๆในระบบนิรายะนะได้

ลำดับที่ 2  Helen Gardner

September 2, 1884 (2427)  Orlando Florida USA

รูปที่ 2  Helen Gardner

 

นางเอกคนที่ 2 ที่ได้เล่นบทคลีโอพัตรา  (เป็นหนังใบ้แบบเดียวกับ เก๋ากึ๊กส์ ชาลี แชปปลิ้นส์) หาได้แต่วันเดือนปีเกิด ไม่ทราบเวลาเกิด  หาโครงสร้างตามที่กล่าวถึงในตอนที่ 2 พบโครงสร้างเพ็ญศุกร์แบบเทวสนธยา  ศุกร์ตามหลังอาทิตย์ มุม 45 องศา ระยะวังกะ 36 ลิปดา  ใช้โครงสร้างนิรายะนะที่กล่าวถึงในตอนที่ 3 ประมาณได้แน่นอนว่า จันทร์สถิตราศีมังกร เนื่องจากที่เวลา 6.00 น. จันทร์สถิตประมาณ 5 องศาราศีมังกร  ในขณะที่จันทร์โคจรชั่วโมงละประมาณครึ่งองศา ภายในวันนี้จันทร์สถิตราศีมังกรแน่นอน และมีโอกาสสูงด้วยที่จะเกาะ ศรวณะนักษัตรที่ 22 (10 องศา – 10 องศา 32 ลิปดา) ซึ่งสามารถให้ความงามชั้นที่ 1 แก่เจ้าชะตาได้)

ลำดับที่ 3   Theda Bara

Name	Bara, Theda Gender: F
Birthname	Goodman, Teodosia
born on	20 July 1890 at 22:45 (= 10:45 PM )
Place	Cincinnati OH, USA, 39n09, 84w27
Timezone	CST h6w (is standard time)
Data source	Conflicting/unverified Rodden Rating DD
Astrology data	28°20' 13°44 Asc. 25°50'

 

 

รูปที่ 3  Theda Bara

นางเอกภาพยนตร์คนที่ 3 ที่ได้เล่นบทคลีโอพัตรา (เป็นหนังใบ้แบบเดียวกับ เก๋ากึ๊กส์ ชาลี แชปปลิ้นส์)  หาข้อมูลวันเดือนปีเกิด และเวลาเกิดได้ครบถ้วน แต่แหล่งข้อมูลให้หมายเหตุไว้ว่าข้อมูลนี้ขัดแย้งกันหลายข้อมูล/ไม่น่าเชื่อถือ (conflicting/ unverified) เมื่อผูกดวงดูก็ไม่พบโครงสร้างความงามที่โดดเด่นแต่อย่างใด เป็นไปได้มากที่ข้อมูลนี้ผิดตามที่แหล่งข้อมูลตั้งข้อสังเกตไว้

 

ลำดับที่ 4               Claudette Colbert

 

 

รูปที่ 4  Claudette Colbert

นางเอกคนที่ 4 ที่ได้เล่นบท “คลีโอพัตรา” และเป็นนางเอกคนแรกที่ได้เล่นบท “คลีโอพัตรา” ในภาพยนตร์ประกอบเสียงที่ไม่ใช่หนังใบ้

Name	Colbert, Claudette Gender: F
Birthname	Lily Claudette Chauchoin
born on	13 September 1903 at 08:00 (= 08:00 AM )
Place	Paris, France, 48n52, 2e20
Timezone	LMT m2e20 (is local mean time)
Data source	From memory Rodden Rating A
Astrology data	19°20' 03°45 Asc. 15°22'

 รูปที่ 5 ดวงชะตาระบบนิรายะนะ ของ Claudette Colbert

 

ดวงนี้พบโครงสร้างความงามที่อาจพิจารณาว่าโดดเด่นได้เพียงโครงสร้างเดียวคือ “ลักษมีโยค” เจ้าเรือนภพที่ 9 คือดาวศุกร์กุมกับลัคนาและดาวเจ้าเรือนลัคนาคือ พุธ โดยที่พุธเป็นอุจในราศีกันย์ ดังนั้นแม้ศุกร์จะเป็นนิจในราศีกันย์ แต่เมื่อกุมกับศุกร์ซึ่งเป็นทั้งเจ้าราศีอุจและเจ้าราศีกันย์ จึงเกิดนิจจะภังคะราชาโยค (นิจฟื้นและกลับมีกำลังแรงขึ้นเสมอด้วยดาวอุจ) ขึ้น ดาวศุกร์ฟื้นและกลับให้ผลเป็นราชาโยค

อย่างไรก็ตามเนื่องจากเธอเป็นนางเอกที่ได้รับความชื่นชมว่าสวยงามและมีเสน่ห์อย่างยิ่งในยุคของเธอจนกระทั่งได้รับบท “คลีโอพัตรา” คนแรกของภาพยนตร์ประกอบเสียงที่ไม่ใช่หนังใบ้ และ “ลักษมีโยค” โครงสร้างนี้ (เจ้าเรือนที่ 9 ร่วมกับเจ้าเรือนลัคน์) ดร.บีวี รามัน โหรเอกของอินเดียในยุคหลัง ให้ความเห็นว่า เป็นโครงสร้างลักษมีโยคสามัญที่ไม่มีกำลังมากนักไม่น่าจะส่งผลให้ความงามแก่เธอได้ถึงระดับนี้ ผู้เขียนเห็นว่าลักษมีโยคในดวงนี้ มีดาวศุกร์ที่มีกำลังประกอบกันขึ้นเป็นลักษมีโยค และยังกุมลัคนาอีกด้วย จึงอาจเป็นกรณียกเว้นที่ทำให้ลักษมีโยค โครงสร้างนี้มีกำลังแรงมากในเรื่องความงามและเสน่หานุภาพไม่แพ้ลักษมีโยคโครงสร้างอื่นๆก็ได้ ข้อน่าสังเกตคือ ดาวศุกร์ในดวงนี้ อยู่ในข่ายดับดัวย เพราะอยู่ห่างจากอาทิตย์ประมาณ 7 องศาเท่านั้น แต่ที่พิจารณาว่ามีกำลังมากเพราะ เป็นศุกร์ที่ฟื้นจากนิจ (ได้นิจจะภังคะราชาโยค) และอยู่ในสถานะที่กำลังโคจรพักตร์ (ซึ่งถือว่ากำลังโคจรเข้ามาใกล้โลก)

 

ลำดับที่ 5               วิเวียน ลีห์ (Vivian Leigh, November 5, 1913  4:23:00 p.m. Darjeeling India Longitude 27.02 N Lattitude 88.16E Time zone 5 hours 53 minutes Day light time 0)

รูปที่ 6  Vivian Leigh

นางเอกยอดนิยมอมตะอีกคนหนึ่งของฮอลลี่วูด  โด่งดังมาจากบทบาท Scarlet Ohara ในเรื่อง วิมานลอย (Gone with the wind) เป็นนางเอกคนที่ 5 ที่ได้เล่นบท “คลีโอพัตรา” ได้ใช้ดวงชะตาของเธอเป็นดวงชะตาตัวอย่างไปแล้วสามารถดูรายละเอียดโครงสร้างความงามในตอนที่ 3 ได้ ข้อสังเกตที่น่าสนใจในดวงนี้คือ ดาวศุกร์ไม่มีกำลังเลยทั้งในระบบนิรายะนะและสายะนะ แต่มีโครงสร้างชั้นยอดในระบบนิรายะนะ 2 โครงสร้างคือ หนึ่ง ลักษมีโยค สอง ลัคนาสถิตในราศีเมษ และจันทร์สถิตในราศีมังกร เกาะศรวณะนักษัตรที่ 22 ซึ่งตำราบอกว่าสามารถให้ความงามชั้นที่ 1 ได้

 

ลำดับที่ 6  Rhonda Fleming

 

รูปที่ 7  Rhonda Fleming

นางเอกคนที่ 6 ที่ได้แสดงบทคลีโอพัตรา เธอแสดงภาพยนตร์มากกว่า 40 เรื่อง ส่วนใหญ่ถ่ายทำในระหว่างปี ค.ศ. 1540 – 1950 ได้รับความนิยมชมชอบว่าเป็น นางเอกภาพยนตร์ที่สวยและมีเสน่ห์ที่สุดในยุคนั้น และได้รับฉายาว่า “ราชินีแห่งสีสรร (Queen of Technicolor) เนื่องจากผิวพรรณที่ขาวผุดผ่องสดใสราวกับแสงไฟ และผมสีแดงของเธอ

 

Name	Fleming, Rhonda Gender: F
born on	10 August 1923 at 14:13 (= 2:13 PM )
Place	Los Angeles CA, USA, 34n04, 118w15
Timezone	PST h8w (is standard time)
Data source	BC/BR in hand Rodden Rating AA
Astrology data	17°14' 27°43 Asc. 09°19'

 

แหล่งข้อมูลให้ระดับความน่าเชื่อถือของข้อมูลนี้ระดับ เอเอ ซึ่งเป็นระดับสูงที่สุด  จากดวงชะตาไม่พบโครงสร้างใดๆที่กล่าวถึงในตอนที่ 2 แต่พบโครงสร้าง อาทิตย์/ศุกร์ = - คิวปิโด  มุม 90 องศา ระยะวังกะ 37 ลิปดา ซึ่งพบจากการวิเคราะห์ดวงชะตาของ ไอศวรรยา ไร ผู้หญิงที่สวยที่สุดของอินเดียในยุคนี้ (ในบทความตอนที่ 3) ว่าเป็นอีกโครงสร้างหนึ่งในโหราศาสตร์ยูเรเนี่ยนที่เป็นโครงสร้างชี้บอกความงามของสตรี คำแปลตามคัมภีร์สูตรพระเคราะห์สนธิคือ “ร่างกายที่สวยงามราวกับรูปปั้นประติมากรรม” ที่น่าสังเกตคือดวงนี้ ศุกร์ห่างจากอาทิตย์ประมาณ 10 องศาเท่านั้น ซึ่งอยู่ในขอบเขตที่พิจารณาว่าศุกร์ดับได้  นี่จึงเป็นอีกโครงสร้างหนึ่งที่สามารถให้ความงามแก่สตรีได้แม้ว่าศุกร์ซึ่งเป็นเจ้าการแห่งความงามในดวงชะตาสตรีจะไม่มีกำลังเลยก็ตาม

ในระบบนิรายะนะไม่พบโครงสร้างความงามที่โดดเด่นใดๆ  อย่างไรก็ตามเพียงโครงสร้างในวรรคก่อนหน้านี้ก็เพียงพอแล้วที่ทำให้เธอสวยจริง และได้เล่นบทที่นางเอกภาพยนตร์ทุกยุคทุกสมัยอยากจะได้มีโอกาสสวมบทบาทมากที่สุด

 

                               

รูปที่ 8  ดวงชะตาในระบบยูเรเนี่ยนของ Rhonda Fleming

 

ลำดับที่ 7   เอลิซาเบธ เทย์เลอร์

 

รูปที่ 9  เอลิซาเบธ เทย์เลอร์

นางเอกอมตะตลอดกาลของฮอลลี่วูด ที่เป็นภาพลักษณ์ของ “คลีโอพัตรา” ตัวจริงในความคิดคำนึงของคนในโลกปัจจุบันเมื่อคิดถึง “คลีโอพัตรา” รายละเอียดดวงชะตาของเธอได้นำเสนอไว้ในตอนที่ 3 แล้ว ซึ่งสรุปได้ว่าโครงสร้างความงามทางโหราศาสตร์ในดวงชะตาของเธอสอดคล้อง กับความงามของเธอที่ชาวโลกได้เห็นทุกประการ สรุปโครงสร้างทางโหราศาสตร์ที่ชี้บอกความงามของสตรีในดวงชะตาเธอได้ดังนี้

                หนึ่ง  ลัคนาสถิตราศีพิจิก จันทร์สถิตราศีตุล  ซึ่งตำราบอกว่าเจ้าชะตาจะมีความงามเป็นพิเศษ

                สอง  ดาวศุกร์เข้มแข็งมากเนื่องจาก ก) เป็นอุจในราศีมีน ข) เพ็ญแบบอสุรสนธยา ห่างจากอาทิตย์ 40 องศา  และพร้อมกันนั้นยังได้รับแสงเต็มที่จากดาวพฤหัสที่เป็นเจ้าราศีมีนอีกด้วย

 

ลำดับที่ 8               Amanda Barrie

รูปที่ 10  Amanda Barrie

นางเอกคนนี้เป็นนางเอกในภาพยนตร์เรื่อง Carry On Cleo ซึ่งเป็นภาพยนตร์ตลกขบขัน ล้อเลียนภาพยนตร์ที่สร้างในปี ค.ศ. 1963  ซึ่งมีเอลิซาเบธ เทย์เล่อร์เป็นนางเอก จากภาพจะเห็นได้ว่าเลือกนางเอกได้เก่งมาก เพราะสามารถล้อเลียนเอลิซาเบธ เทย์เล่อร์ในบทคลีโอพัตราที่เน้นการแต่งลูกตาเข้มจัดได้เป็นอย่างดี เมื่อมองไปที่ใบหน้านางเอกคนนี้แทบจะเห็นแต่ลูกนัยน์ตาที่โตราวกับไข่ห่านอยู่เต็มหน้า  หาข้อมูลได้เฉพาะวันเกิดคือ 14 September 1935 (1935-09-14) (age 75) Ashton-under-Lyne, Lancashire, England  จากการผูกดวงชะตาไม่พบโครงสร้างความงามที่โดดเด่นตามที่กล่าวถึงในตอนที่ 2 และไม่สามารถประมาณได้ว่าจะมีโครงสร้างที่โดดเด่นในระบบนิรายะนะหรือไม่ การไม่พบโครงสร้างความงามที่โดดเด่นในกรณีของนางเอกคนนี้สมเหตุสมผล เพราะผู้สร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ต้องการล้อเลียน “คลีโอพัตรา” เท่านั้นจึงไม่ได้เน้นให้นางเอกต้องสวยแต่อย่างใด

 

ลำดับที่ 9               Janet Suzman

9 February 1939 (1939-02-09) (age 71)  Johannesburg, South Africa

รูปที่ 11  Janet Suzman

นางเอกที่ได้เล่นบท “คลีโอพัตรา” คนที่ 9 คนนี้แสดงเป็นคลีโอพัตราในภาพยนตร์เรื่อง Antony & Cleopatra ซึ่งเป็นภาพยนตร์ชุดฉายทางโทรทัศน์ หาข้อมูลได้เฉพาะวันเกิดเท่านั้น พบโครงสร้าง อาทิตย์ = สะท้อนศุกร์ มุม 45 องศา ระยะวังกะ 7 ลิปดา ซึ่งเป็นโครงสร้างชี้บอกความงามที่กล่าวไว้ในตอนที่ 2 เนื่องจากคลีโอพัตราเวอร์ชั่นนี้เป็นเวอร์ชั่นปกติที่ต้องการนำเสนอภาพลักษณ์ของคลีโอพัตรา การที่ดวงชะตานางเอกมีโครงสร้างชี้บอกความงามเห็นได้ชัดเจน จึงสมเหตุผล เพราะ “ถ้าไม่สวยจริงคงไม่ได้เล่นบทนี้”

 

ลำดับที่ 10            Leonor Varela

December 9, 1972, in Santiago de Chile, Chile.

รูปที่ 12  Leonor Varela

นางเอกคนที่ 10 คนสุดท้ายจนถึงขณะนี้ (วันที่ 16 พฤศจิกายน 2553) ที่ได้เล่นบท “คลีโอพัตรา” ในภาพยนตร์ชุดฉายทางโทรทัศน์โดย Hallmark Entertainment เมื่อปี 1999 หาข้อมูลได้เฉพาะวันเดือนปีเกิด แต่ไม่มีเวลาเกิด พบโครงสร้างความงามชั้นยอดในระบบยูเรเนี่ยนกตามที่กล่าวถึงในตอนที่สาม 1 โครงสร้างคือ

                อาทิตย์/ศุกร์ =     -คิวปิโด  มุม 90 องศา ระยะวังกะ 31 ลิปดา  “เรือนร่างที่สวยงามราวกับรูปปั้น                 ประติมากรรม”

                เนื่องจากไม่ทราบเวลาเกิดจึงใช้วิธีประมาณการคร่าวๆว่ามีโอกาสเกิดโครงสร้างความงามอื่นๆที่โดดเด่นหรือไม่ พบว่า ณ เวลาประมาณเที่ยงวัน (บวก/ลบประมาณ 2 ชั่วโมง) จะเกิดโครงสร้าง            อาทิตย์/ศุกร์  =   -จันทร์  มุม 180 องศา  “สตรีผู้มีเรือนร่างสวยงามผู้หนึ่ง” ส่วนในระบบนิรายะนะนั้นโอกาสที่จันทร์จะสถิตราศีมังกรซึ่งเป็นราศีที่ให้ความงามแก่สตรีมีมาก เพราะ ณ เวลา เที่ยงวัน จันทร์สถิตราศีมังกรประมาณ 3 องศา

 

ลำดับที่ 11  Sophia Loren

 

รูปที่ 13  Sophia Loren

นางเอกอมตะตลอดกาลอีกคนหนึ่งของฮอลลีวูด ที่นักวิจารณ์ในวงการภาพยนตร์หลายคนยกย่องให้เธอเป็น “สิ่งมหัศจรรย์สิ่งที่ 8 ของโลก” เธอทั้งสวยและสง่างาม ดวงตาสีน้ำตาลเข้ม รูปร่างงดงามสมส่วน เฉลียวฉลาดและเป็นตัวของของตัวเอง เธอสามารถยืนอยู่ในฐานะนางเอกชั้นนำของวงการภาพยนตร์มาได้เป็นเวลากว่า 50 ปี และเป็นนางเอกภาพยนตร์คนแรกที่ไม่ใช่คนพูดภาษาอังกฤษโดยกำเนิดที่ได้รับรางวัลออสการ์ นางเอกภาพยนตร์ยอดเยี่ยม เคยแสดงบทนางเอกในภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์หลายเรื่อง เช่น  Elsid, Man of Lamancha, The Fall of the Roman Empire, ฯลฯ มีโพลสำนักต่างๆจำนวนมากจัดให้เธอเป็น ผู้หญิงที่สวยที่สุดในโลก, นางเอกที่สวยที่สุดของฮอลลีวูดฯลฯ มากมายหลายต่อหลายตำแหน่ง  ผู้เขียนลองหาในเน็ทดูพบว่าเธอก็เคยได้เล่นบทคลีโอพัตราเหมือนกัน ในภาพยนตร์เรื่อง TWO NIGHTS WITH CLEOPATRA (1953)

Name	Loren, Sophia Gender: F
Birthname	Scicolini, Sofia Villani
born on	20 September 1934 at 14:10 (= 2:10 PM )
Place	Rome, Italy, 41n54, 12e29
Timezone	MET h1e (is standard time)
Data source	BC/BR in hand Rodden Rating AA
Astrology data	26°53' 20°45 Asc. 05°27'

ดวงนี้น่าสนใจมากเพราะแหล่งข้อมูลให้เกรดความน่าเชื่อของข้อมูลสูงถึงระดับ AA ซึ่งเป็นระดับสูงสุด  แต่เมื่อผูกดวงแล้วไม่พบโครงสร้างชี้บอกความงามที่ชัดเจนนัก โดยเฉพาะในระบบสายนะไม่พบโครงสร้างใดๆที่ชี้บอกความงามของสตรีเลย  ศุกร์ห่างจากอาทิตย์ประมาณ 16 องศา ไม่สัมพันธ์ถึงอาทิตย์ไม่ว่าด้วยสัมพันธภาพแบบใด ในระบบนิรายนะพบ จันทร์สถิตในราศีมังกร 27องศา 48 ลิปดา แม้จะเป็นจันทร์ในราศีมังกรซึ่งทำให้เจ้าชะตา “สวย”แน่นอน แต่ก็ไม่น่าจะสวยถึงระดับชั้นที่ 1 อย่างที่ปรากฏต่อสายตาชาวโลก และจันทร์ก็ไม่ได้เกาะศรวณะนักษัตร ที่ 22 ในราศีมังกรอีกด้วย  ในขณะที่ลัคนาสถิตราศีธนู ซึ่งก็ไม่ใช่ราศีที่ให้ความงามแต่อย่างใด ที่ตรวจพบและอาจส่งผลให้เธอ “สวย” อย่างที่เห็นได้ก็คือ  โครงสร้าง “ปัญจะมหาบุรุษโยค” ที่กล่าวถึงในตอนที่ 3 ว่า “ถ้าดวงชะตาใดได้ปัญจะมหาบุรุษโยค และลัคนาหรือจันทร์อยู่ในนวางค์ที่ครองด้วยดาวศุภเคราะห์ เจ้าชะตาจะมีรูปงาม”   ในดวงนี้ พุธ เป็นทั้งเกษตรและอุจ ในราศีกันย์ สถิตในภพที่ 10 จากลัคนาได้

                                      

รูปที่ 14  ดวงชะตาในระบบนิรายะนะของ Sophia Loren

ภัทรโยค ซึ่งเป็นหนึ่งในห้าของปัญจะมหาบุรุษโยค   ลัคนาเกาะนวางค์ราศีกรกฎที่ครองด้วยดาวศุภเคราะห์จันทร์  ในขณะที่จันทร์กำเนิดเกาะนวางค์ราศีกันย์ที่ครองด้วยศุภเคราะห์พุธ จึงเข้าตามกฎเกณฑ์ดังกล่าวอย่างสมบูรณ์และแรงกว่าอีกด้วยเพราะกฎเกณฑ์นี้ต้องการเพียงลัคนาหรือจันทร์ปัจจัยใดปัจจัยหนึ่งเกาะนวางค์ศุภเคราะห์เท่านั้น แต่ดวงนี้ได้ทั้งสองปัจจัย   และสุดท้ายคือดวงนี้ได้ “ลักษมีโยค” จากตำแหน่งของจันทร์กำเนิดในดวงชะตา (โหราศาสตร์ภารตะนั้นให้คิดโยคเกณฑ์ทั้งจากลัคนาและจันทร์ และในกรณีที่จันทร์เข้มแข็งกว่าลัคนาให้คิดน้ำหนักจากจันทร์มากกว่า โดยเฉพาะในกรณีดวงชะตาของผู้หญิงให้คิดจากจันทร์เป็นสำคัญด้วย) เมื่อคิดจากจันทร์กำเนิดในดวงชะตา พุธเจ้าเรือนภพ 9 เป็นอุจในภพที่ 9 จากจันทร์ ในขณะที่เสาร์เจ้าเรือนจันทร์สถิตในราศีมังกรเรือนเกษตรของตนเอง และเป็นเรือนที่ 1 กุมจันทร์ (ลักษมีโยค จาก ตำราไตรศตโชคมัญชริ ของ ดร.บีวี รามัน)

แม้จะมีโครงสร้างสามโครงสร้างข้างต้นที่พอกล้อมแกล้มสนับสนุนความงามของเธอได้ แต่ก็ไม่มีน้ำหนักมากนักในความเห็นของผู้เขียน เนื่องจากทั้งสามโครงสร้างล้วนไม่เต็มกำลัง หนึ่ง จันทร์ในราศีมังกรก็จริง แต่ไม่ได้เกาะศรวณะนักษัตรที่ 22 ที่โหราศาสตร์ภารตะมั่นใจว่าให้ความงามชั้นที่ 1 แก่สตรีได้ (หรือหากจันทร์สถิตราศีมังกรแต่ไม่ได้เกาะศรวณะนักษัตรที่ 22 แต่หากลัคนาสถิตราศีที่ให้ความงามแก่สตรีคือ เมษ มิถุน สิงห์ ตุล มังกร กุมภ์ ตำราก็ยังรับรองว่าสามารถให้ความงามเป็นพิเศษแก่เจ้าชะตาได้)   สอง ภัทรโยค หนึ่งในห้าของปัญจะมหาบุรุษโยคนั้น แม้จะได้กำลังเต็มที่ (เกินร้อย เพราะได้เกินเงื่อนไขที่ต้องการ) แต่ในเรื่องความงามของสตรีนั้น โหราศาสตร์ภารตะไม่ได้ให้น้ำหนักปัญจะมหาบุรุษโยคเท่ากับ ลักษมีโยค และโครงสร้างสุดท้าย “ลักษมีโยค” ก็เป็นลักษมีโยคที่คิดจากตำแหน่งของจันทร์ในดวงชะตา ยังไงๆก็ยังไม่ให้ความมั่นใจเหมือนกับลักษมีโยคที่คิดจากลัคนา แต่เนื่องจากในกรณีนี้แหล่งข้อมูลยืนยันความถูกต้องของข้อมูลว่าเป็นเกรด เอเอ ซึ่งเป็นเกรดสูงที่สุด โอกาสที่ข้อมูลจะผิดจึงน้อย และเป็นไปได้ว่าเมื่อสามโครงสร้างดังกล่าวรวมอิทธิพลเข้าด้วยกันก็สามารถให้ความงามในระดับชั้นที่ 1 แก่สตรีได้ไม่แพ้โครงสร้างชั้นยอดอื่นๆเลย?

 



ลำดับที่ 12            Angelina Jolie

รูปที่ 15  Angelina Jolie

 

นางเอกภาพยนตร์อันดับหนึ่งของฮอลลีวูดยุคนี้ที่ได้ชื่อว่า “ทำรายได้จากการแสดงมากที่สุดในโลก” และได้รับโหวตจากหลายสำนักว่าเป็น “ผู้หญิงที่สวยที่สุดในโลก” ด้วย เธอได้รับเลือกจาก Sony Pictures ให้เล่นบท “คลีโอพัตรา” ซึ่งเป็นภาพยนตร์ที่นำเรื่องราวมาจากหนังสื่อเรื่อง Queen of the Nile, Cleopatra: A Life ที่เขียนโดย สเตซีย์ ชิฟฟ์ นักประพันธ์ผู้มีชื่อเสียงเจ้าของรางวัลพูลิตเซ่อร์ และได้ขายลิขสิทธิ์อย่างเป็นทางการให้กับ สก็อตต์ รูดิน ผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้แล้ว  โดยสเตซีย์ ชิฟฟ์ เองก็ต้องการยกบทบาทนี้ให้ แองเจลิน่า โจลี่ ด้วย โดยให้ความเห็นว่า “แองเจลินา โจลี เป็นผู้หญิงที่ทั้งสวยสง่าและทรงพลัง เธอดูมีอำนาจในตัว ซึ่งเป็นคุณลักษณะที่เหมาะสมที่จะรับบทบาทนี้ที่สุด”

ลองมาดูโครงสร้างความงามในดวงชะตาของเธอดูว่าเป็นยังไง สมเหตุผลกับความเห็นของผู้คนในฮอลลีวูดหรือไม่

Name	Jolie, Angelina Gender: F
Birthname	Voight, Angelina Jolie
born on	4 June 1975 at 09:09 (= 09:09 AM )
Place	Los Angeles CA, USA, 34n03, 118w14
Timezone	PDT h7w (is daylight saving time)
Data source	Quoted BC/BR Rodden Rating AA
Astrology data	13°25' 13°05 Asc. 28°54'

 

รูปที่ 16  ดวงชะตาในระบบยูเรเนี่ยนของ Angelina Jolie

ในระบบสายนะ (ยูเรเนี่ยน) ดวงนี้น่าสนใจมาก โครงสร้างความงามปรากฏให้เห็นชัดเจนและมีกำลังแรงมาก  ดังนี้    อาทิตย์ = ลัคนา 45 องศา วังกะ 29 ลิปดา = ศุกร์ 45 องศา วังกะ 16 ลิปดา = มฤตยู 135 องศา วังกะ 23 ลิปดา = คิวปิโด 135 องศา วังกะ 28 ลิปดา = เซอุส 90 องศา วังกะ19 ลิปดา =–ราหู 45 องศา วังกะ 42 ลิปดา = –พฤหัส 90 องศา วังกะ 51 ลิปดา =-เสาร์ 180 องศา 49 ลิปดา

ข้อสังเกตคือ

1.         ทุกปัจจัยในพระเคราะห์สนธินี้มีอิทธิพลรุนแรงมาก เพราะมีจุดเจ้าชะตาอยู่ร่วมด้วยถึง 3 จุด คือ อาทิตย์, ลัคนา และราหู  และรุนแรงยิ่งขึ้นอีก เพราะมีมฤตยูร่วมอยู่ด้วย

2.         ศุกร์แรงมาก  เพราะเป็นศุกร์เพ็ญแบบอสุรสนธยา ทำมุม 45 องศากับอาทิตย์  ถึงจุดเจ้าชะตาทั้งหมด 3 จุด (ตามข้อ 1) กุมลัคนาสนิทองศา  แล้วยังมีมฤตยูเข้าร่วมอีกทำให้ความงามและเสน่หานุภาพของเธอ มีพลังกระชากที่ตื่นเต้นเร้าใจของมฤตยูร่วมอยู่ด้วย

3.         อาทิตย์ ถึง ศุกร์ ถึง คิวปิโด  ก็คือโครงสร้าง อาทิตย์/ศุกร์ =  คิวปิโด  (ร่างกายที่สวยงามราวกับรูปปั้นประติมากรรม) แต่แรงกว่ามากเพราะเป็นโครงสร้างที่เกิดจากการผสมอิทธิพลของปัจจัยเดี่ยวที่ย่อมมีพลังมากกว่าโครงสร้างที่เกิดจากการผสมอิทธิพลกับศูนย์รังสีแน่นอน นอกจากนี้คิวปีโดก็แรงมากเพราะถึงจุดชะตา 3 จุดเช่นเดียวกับศุกร์ อ่อนกว่าก็ตรงที่ไม่ได้กุมลัคนาสนิทองศาเท่านั้น

4.         อย่างไรก็ตาม เสาร์ ก็แรงมากในโครงสร้างนี้ด้วยทำมุม 180 องศา กับอาทิตย์ สนิทองศา นี่อาจเป็นปัจจัยหลักที่บั่นทอนความงามของเธอลงไป  และทำให้มีเสียงคัดค้าน วิพากษ์วิจารณ์อยู่เหมือนกันว่าเธอไม่ได้สวยงามอะไรมากมายอย่างที่หลายคนชื่นชมกัน

 

 

รูปที่ 17  ดวงชะตาในระบบนิรายะนะของ Angelina Jolie

 

ในระบบนิรายะนะพบโครงสร้างที่โดดเด่นคือ “ลักษมีโยค” ซึ่งปรากฏถึงสองโครงสร้างคือ

ลักษมีโยค โครงสร้างที่ 1 จันทร์ เจ้าเรือนลัคนา กุม พฤหัส ดาวเจ้าเรือนภพที่ 9 ในราศีมีนซึ่งเป็นภพที่ 9 จากลัคนา แม้โครงสร้างนี้จะเป็นเพียงลักษมีโยคสามัญตามความเห็นของ ดร.บีวี รามัน แต่เนื่องจากการกุมกันของเจ้าเรือนลัคนาและเจ้าเรือนที่ 9 เกิดในเรือนที่ 9 ซึ่งในโหราศาสตร์ภารตะถือว่าเป็นเรือนของพระลักษมีเทวี (ทั้งโหราศาสตร์ตะวันตก และตะวันออกมีความเห็นตรงกันว่า เรือนที่ 9 เป็นเรือนที่ดีที่สุดในทั้ง 12 เรือน) ในขณะที่ พฤหัส สลับ อุจ กับศุกร์อีกด้วย  ทังพฤหัสและศุกร์จึงเสมือนเป็นอุจด้วยกันทั้งคู่              และมีผลทำให้ลักษมีโยคในดวงนี้มีอิทธิพลของศุกร์ที่กล้าแข็งเข้าร่วมด้วย จึงทำให้ลักษมีโยคในดวงชะตานี้มีกำลังกล้าแข็ง และส่งผลให้เกิดความงามและเสน่หานุภาพทางเพศที่มีอานุภาพได้

ลักษมีโยค โครงสร้างที่ 2     จากคัมภีร์ผลทีปิกา ในดวงชะตาใด ถ้าดาวเจ้าเรือนภพที่ 9 และศุกร์ได้ตำแหน่งเกษตรหรืออุจและต่างก็อยู่ในเรือนเกนทระหรือตรีโกณจากลัคนาด้วย เจ้าชะตาได้ “ลักษมีโยค” .ในกรณีนี้ถ้าจันทร์ได้รับแสงจากพฤหัสด้วย ท่านว่าเจ้าชะตาได้”เคารีโยค”  ในดวงนี้ พฤหัสเป็นเกษตร (และสลับอุจกับพฤหัสด้วย จึงเสมอด้วยเป็นอุจพร้อมกับเกษตร) ในเรือนที่ 9 จากลัคนา  ศุกร์สลับอุจกับพฤหัส (เสมือนหนึ่งเป็นอุจ) กุมลัคนาสนิทองศาในราศีกรกฎ เจ้าชะตาได้ “ลักษมีโยค” นอกจากนี้จันทร์ยังกุมกับพฤหัสในราศีมีน เจ้าชะตาจึงได้ “เคารีโยค” อีกด้วย

จากการพิจารณาโครงสร้างความงามในดวงชะตาของเธอทั้งในระบบสายนะและนิรายะนะแล้ว จึงไม่แปลกใจเลยที่เธอได้รับเลือกให้เป็นว่าที่คลีโอพัตราคนล่าสุดของฮอลลีวูด และ เจมส์ คาเมล่อน ผู้กำกับหนังทำเงินตลอดกาล (ผู้สร้างตำนาน Titanic และ Avatar) ให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์นิวยอร์คไทม์ว่า Cleopatra ฉบับใหม่จะออกมายอดเยี่ยมที่สุดแน่นอนหากได้ แองเจลินา โจลี่ รับบทนำเป็นองค์ราชินีผู้ยิ่งใหญ่แห่งอียิปต์ แม้สุดท้ายแล้วเขาจะได้เป็นผู้กำกับหรือไม่ก็ตาม  เขากล่าวว่า "มันฟังดูร้อนแรงมากว่ามั้ย คิดดูนะ แองเจลีนา โจลี กับคลีโอพัตรา มันต้องเป็นหนังที่สุดยอดมาก ๆ ไม่ว่าผมจะเป็นผู้กำกับหรือไม่ก็ตาม"

ลำดับที่ 13  พัชราภา  ไชยเชื้อ

รูปที่ 18  พัชราภา ไชยเชื้อ

ผู้เขียนขอปิดท้าย “ความงามที่เทียบเคียง” ด้วยนางเอกภาพยนตร์ไทยเพราะผู้หญิงไทยก็ได้ชื่อว่าสวยไม่แพ้ชาติใดในโลกเช่นกัน ลองหาในอินเตอร์เน็ทดูพบว่านางเอกอันดับหนึ่งของเราคนหนึ่งก็เคยแสดงบท “คลีโอพัตรา” เหมือนกัน เธอคือ “พัชราภา ไชยเชื้อ” โดยได้รับบทให้แต่งกายเป็นคลีโอพัตราในงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ยี่ห้อหนึ่ง ผู้เขียนเคยตอบกระทู้ในเว็บนี้ที่ถามมาว่าดวงผู้หญิงสวยดูจากอะไรมาแล้ว โดยยกตัวอย่างดวงของนางเอกคนนี้แต่ไม่ได้บอกชื่อเธอไว้ด้วย  วันเดือนปีเกิดของเธอหาได้จากเน็ทแต่ไม่มีเวลาเกิด พบว่าดาวศุกร์ในดวงเธอเพ็ญในระดับต่ำๆและอยู่หลังอาทิตย์ด้วย (เทวะสนธยา) ไม่น่าจะเพียงพอที่จะส่งผลให้เธอก้าวขึ้นเป็นนางเอกอันดับหนึ่งและได้รับเลือกให้เป็นผู้หญิงที่เซ็กซี่ที่สุดติดกันตั้งไม่รู้กี่ปี จึงได้ลองพิจารณาโครงสร้างที่อาจเกิดขึ้นได้จากรูปดวงชะตาที่ไม่รู้เวลาเกิดที่มีอยู่

 

รูปที่ 19  ดวงชะตาของพัชราภา ไชยเชื้อ  ปรับเวลาเกิดให้ จันทร์ตั้งฉากกับสะท้อนพฤหัสพอดี

 

จากการที่เธอประสบความสำเร็จในชีวิตด้านการงานอาชีพ สามารถก้าวขึ้นมาเป็นนางเอกอันดับหนึ่งในวงการได้ ผู้เขียนจึงปรับเวลาเกิดให้พฤหัสตั้งฉากกับจันทร์สะท้อนพอดีองศา พบโครงสร้าง MO = -NO = -Ma = -Ve = -Ju แปลว่า “ผู้หญิงที่ประสบความสำเร็จในแวดวงสาธารณะจากการทำงานด้านศิลปะเป็นหมู่คณะ” ส่วนจันทร์ในภพที่ 10 จากลัคนานั้นหมายถึง การเป็นคนของประชาชนและได้รับความนิยมจากประชาชนด้วย   และ อาทิตย์ = เสาร์ แปลว่า พลัดพรากจากบุคคลเพศชาย ซึ่งทางแก้คือต้องคบกับคนที่แก่กว่าตัวเองมากๆ จะเห็นได้ว่าโครงสร้างนี้ตรงกับเรื่องราวในชีวิตของเธออย่างที่รับทราบกันทั่วไปผ่านทางสื่อต่างๆ

ปัญหาก็คือในการวิเคราะห์โครงสร้างที่ชี้บอกความงามในระบบสายะในครั้งนั้น พบเพียงโครงสร้างเพ็ญศุกร์แบบเทวะสนธยา ไม่สมเหตุผลกับความงามของเธอที่ปรากฏ เพราะมีเพียงเพ็ญศุกร์แบบเทวะสนธยา ศุกร์ห่างจากอาทิตย์ประมาณ 35 องศา ซึ่งไม่เพ็ญมากนัก และไม่น่าจะเพียงพอที่จะสนับสนุนความงามของเธอที่เห็นกันอยู่

 แต่เมื่อพิจารณาในระบบนิรายนะ ผู้เขียนพบโครงสร้าง “ลักษมีโยค” ในดวงชะตาที่ปรับนี้ชัดเจน ตามคัมภีร์ผลทีปิกาที่กล่าวว่า “ถ้าดาวเจ้าเรือนภพที่ 9 จากลัคนา และดาวศุกร์ เป็นอุจหรือเกษตร และในเวลาเดียวกันต่างก็อยู่เป็นเกนทระหรือตรีโกณกับลัคนาด้วย ท่านว่าเจ้าชะตาได้ “ลักษมีโยค” และในกรณีเช่นนี้ถ้าพระจันทร์ได้รับแสงจากพฤหัสด้วย ท่านว่าเจ้าชะตาได้ “เคารีโยค”

ในดวงชะตาที่ปรับเวลาแล้วนี้ ลัคนาสถิตราศีเมษ พฤหัสเจ้าเรือนภพที่ 9 สถิตในราศีกรกฎเรือนอุจของพฤหัส และเป็นภพเกนทระที่ 4 จากลัคนา ในขณะที่ดาวศุกร์สถิตในราศีตุลเรือนเกษตรของ ศุกร์ และเป็นภพเกนทระที่ 7 จากลัคนา เจ้าชะตาได้ “ลักษมีโยค” นอกจากนี้ จันทร์ยังสถิตในราศีมังกร ได้รับแสงจากพฤหัสในราศีกรกฎ เจ้าชะตาได้ “เคารีโยค” ด้วย

จากการพิจารณาในขณะกำลังเขียนบทความนี้อยู่ หลังจากที่ผู้เขียนได้รับความรู้เพิ่มเติมมาจากการค้นคว้าเพื่อเขียนบทความในตอนที่ 3 พบว่า จันทร์ของเธอสถิตในราศีมังกร 27 องศา 31 ลิปดา แม้จะพ้นศรวณะนักษัตรที่ 22 ไปแล้ว แต่ลัคนาของเธอสถิตราศีเมษ ซึ่งเป็นราศีที่ให้ความงามแก่สตรี ด้วย  ตำราบอกว่าเจ้าชะตาจะมีความงามเป็นพิเศษ ซึ่งน่าจะเทียบได้กับความงามในลำดับชั้นที่ 1 ในกรณีอื่นๆเช่น ลัคนาสถิตราศีกรกฎหรือพิจิก และจันทร์สถิตราศีมังกร (ไม่จำเป็นต้องเกาะศรวณะนักษัตรที่ 22) ฯลฯ

และจากโครงสร้างชี้บอกความงามของสตรีในโหราศาสตร์ยูเรเนี่ยนที่พบเพิ่มขึ้นอีกโครงสร้างหนึ่งจากการเขียนบทความตอนที่ 3 (ดวงชะตา ไอศวรรยา ไร) อาทิตย์/ศุกร์  = คิวปิโด นั้น พบว่าในดวงชะตานี้ อาทิตย์/ศุกร์ = - คิวปิโด  มุม 90 องศา ระยะวังกะ 12 ลิปดา  ซึ่งทั้งสามปัจจัยล้วนเดินช้าทั้งสิ้น  ดังนั้นไม่ว่าเธอจะเกิดตอนไหนก็ตามในวันดังกล่าว เธอก็จะมี “ร่างกายที่สวยงามราวกับรูปปั้นประติมากรรม” แน่นอน

จากการวิเคราะห์เพิ่มเติมในครั้งนี้จึงสรุปได้ว้า แม้เวลาเกิดที่ปรับก่อนหน้านี้ไม่ถูกต้อง ทำให้ไม่มีลักษมีโยค และเคารีโยคในดวงชะตานี้ และเหลือเพียง จันทร์ในราศีมังกร เท่านั้น โดยลัคนาไม่อยู่ในราศีเมษซึ่งเป็นราศีที่ให้ความงามอีกด้วย โครงสร้าง อาทิตย์/ศุกร์  = คิวปิโด ร่วมกับเพ็ญศุกร์เทวสนธยาแบบอ่อนๆที่มีอยู่ และจันทร์ในราศีมังกร รวมอิทธิพลเข้าด้วยกันก็ยังคงสมเหตุผลกับความงามของเธอที่เห็นกันอยู่ (ทำนองเดียวกับแองเจลิน่า โจลี่ โครงสร้างพระเคราะห์สนธิ อาทิตย์/ศุกร์  = คิวปิโด นี้ยังไป = เสาร์อีกด้วย  ซึ่งแน่นอนย่อมเป็นปัจจัยสำคัญที่ไปบั่นทอนความงามของเธอ และทำให้มีเสียงวิจารณ์อยู่เหมือนกันว่าเธอไม่ได้สวยมากมายอะไรอย่างที่มีหลายๆคนชื่นชมกัน)

ในการเปรียบเทียบความงามระหว่างเธอกับ นางเอกภาพยนตร์ฝรั่งทั้ง 11 นางที่กล่าวถึงก่อนหน้านี้ที่วงการภาพยนตร์ฝรั่งเห็นว่า เทียบเคียง คลีโอพัตราได้นั้น  ผู้เขียนเห็นว่า ความงามของเธอก็ไม่ได้ด้อยกว่านางเอกทั้ง 11 คนดังกล่าว (นานาจิตตัง ครับ) จะเสียเปรียบก็ตรงที่หน้า “เอเซีย” ของเธอไม่ใช่ “ภาพลักษณ์พื้นฐานของคลีโอพัตรา” ในความคิดของคนทั่วไปที่เป็น “หน้าฝรั่ง” เท่านั้น จึงอาจทำให้บางคนมองเธอในชุดคลีโอพัตราว่าแปลกๆยังไงๆอยู่

 

 

5.             คลีโอพัตรา:         ผู้หญิงที่สวยที่สุดในประวัติศาสตร์ – ความงามที่พลิกแผ่นดิน?

 

รูปที่ 20 ดวงชะตาคลีโอพัตราที่ปรับจากโครงสร้าง “ความงามที่พลิกแผ่นดิน”

7 ธันวาคม 68 ปีก่อนคริสตกาล  5:19:26 น.  เมืองอเล็กซานเดรีย  อียิปต์

แล็ตติจูด  29 องศา 54 ลิปดา ตะวันออก  ลองติจูด  31 องศา 12 ลิปดา เหนือ

ดูความงามที่เทียบเคียงเรียกน้ำย่อยกันมา 13 นางแล้ว  คงต้องถึงเวลามาดูกันจริงๆแล้วว่า ถ้าว่ากันตามหลักเกณฑ์ ดวงชะตาที่ชี้บอกความงามในระดับสูงสุดถึงขั้นจะก่อให้เกิดมหกรรมโกลา ความงามที่พลิกแผ่นดินนั้น รูปดวงชะตาจะมีหน้าตาเป็นอย่างไร ซึ่งตามที่ได้เกริ่นในตอนต้นแล้วว่า ในบรรดาผู้หญิงที่ได้รับการกล่าวขานว่าสวยที่สุดในประวัติศาสตร์ทั้ง 8 นางแล้วนั้น ดูเหมือนจะมี “คลีโอพัตรา” คนเดียวที่มีเบาะแสข้อมูลวันเกิดพอจะเชื่อถือได้มากที่สุดว่า “ประมาณ 69 ปีก่อนคริสตกาล” และบางแหล่งข้อมูลก็บอกอีกด้วยว่า “อาจจะประมาณ “เดือนมกราคม” และเรื่องราวของคลีโอพัตรายังสอดคล้องกับคำว่า “มหกรรมโกลา – ความงามที่พลิกแผ่นดิน” อย่างสมบูรณ์อีกด้วย  เพราะความงามของนางทำให้มีการพลิกแผ่นดินเกิดขึ้นทั้งในบ้านเกิดของตนเอง และในแผ่นดินอภิมหาอำนาจไร้เทียมทานในโลกยุคนั้นอย่าง “อภิมหาอาณาจักรโรมัน” หลายครั้งหลายครา และยังทำให้เกิดสงครามครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์โลกที่สมรภูมิ “แอคติอุม” อีกด้วย

ในการพยายามหาดวงชะตาของคลีโอพัตรานี้ ผมใช้ซ็อฟท์แวร์คอมพิวเตอร์ ผูกดวงในช่วงระยะเวลาระหว่าง 68 ปี ถึง 70 ปีก่อนคริสตกาลเพื่อพยายามหาว่ามีโครงสร้างเป้าหมายที่กล่าวถึงในข้อ 3 เกิดขึ้นหรือไม่ในช่วงเวลาดังกล่าว  ปรากฏว่าพบโครงสร้างตามข้อ 3 ข้อย่อย ข เกิดขึ้น คือ โครงสร้างตามความเห็นของท่านอาจารย์ พันเอก นายแพทย์ ประจวบ วัชรปาณ ที่ว่า “โครงสร้างที่ดาวจันทร์บังดาวศุกร์สนิทองศา และขณะนั้นดาวศุกร์กำลังเพ็ญเต็มที่ในลักษณะที่เป็นอสุรสนธยา จะทำให้เกิดมหกรรมโกลา ‘ความงามที่พลิกแผ่นดิน” โดยโครงสร้างดังกล่าวเกิดขึ้น ในวันที่ 7 ธันวาคม 68 ปีก่อนคริสตกาล  ส่วนเวลาเกิดนั้นผมตั้งซ็อฟท์แวร์ให้คำนวณเวลา ณ ขณะที่ จันทร์จรบนท้องฟ้าทับศุกร์บนท้องฟ้าสนิทองศา ซึ่งได้เป็นเวลา 5 :19:26 น. เมืองอเล็กซานเดรีย ประเทศอียิปต์รูปดวงชะตาปรากฏตามที่แสดงข้างบน โดยมีจันทร์ ขนาน ศุกร์ ระยะวังกะประมาณ 1 องศา 29 ลิปดา ซึ่งถ้ามองดูบนท้องฟ้าจะเห็นดาวจันทร์และดาวศุกร์แทบจะอยู่ชิดติดกัน ตรงตามเงื่อนไขในข้อที่ 3 ข้อย่อย ข ทุกประการ

จากรูปดวงชะตาดังกล่าวซึ่งเป็นดวงชะตาในระบบสายนะ  สามารถคำนวณค่าอายนางศะได้ 3 องศา จึงนำไปบวกกับค่าองศาที่ได้จากซ็อฟท์แวร์ได้เป็นค่าองศาในระบบนิรายะนะดังนี้

                ลัคนา     ธนู          23.31     องศา  (องศา.ลิปดา)

                อาทิตย์   ธนู          18.26     องศา

                จันทร์     กุมภ์       5.11        องศา

                อังคาร    เมษ         12.38     องศา

                พุธ          พิจิก        27.08     องศา

                พฤหัส    มังกร      26.36     องศา

                ศุกร์        กุมภ์       5.10        องศา

                เสาร์       กุมภ์       22.03     องศา

                ราหู        สิงห์       7.00        องศา

จากการพิจารณาหาโครงสร้างความงามในระบบนิรายะนะเพิ่มเติมพบโครงสร้างที่น่าสนใจดังนี้

                ก)            จากข้อ 2.8 (4) ในตอนที่ 3 “ทุราทุระโยค- ถ้าจันทร์ในดวงชะตาถูกขนาบหน้าและหลังด้วย พฤหัสและเสาร์ เจ้าชะตาจะมีรูปงาม

                ข)            จากข้อ 2.8 (5) ในตอนที่ 3 “ศุภกรรตริโยค” ถ้ามีศุภเคราะห์ที่เข้มแข็งขนาบหน้าหลังลัคนา เจ้าชะตาจะมีรูปงาม ในดวงนี้ มีพุธ และ พฤหัส ขนาบหน้าหลังลัคนา

                ค)            ศุภเคราะห์พฤหัสอยู่ในเรือนที่ 2  และไม่ถูกเบียฬจากบาปเคราะห์ใดๆเลย  ได้ “ศุมุขโยค” เจ้าชะตามีใบหน้าที่งดงาม

                ง)            เสาร์เจ้าเรือนจันทร์กุมจันทร์ในราศีกุมภ์เรือนเกษตรของเสาร์ ร่วมกับศุกร์เจ้าเรือนที่ 9 ได้ลักษมีโยค (เป็นลักษมีโยคสามัญไม่มีกำลังมากนัก)

จะเห็นได้ว่าโครงสร้างที่พบเพิ่มเติมนี้ไม่ได้เป็นโครงสร้างที่โดดเด่นนัก ความงามหลักของเจ้าชะตามาจากโครงสร้าง “ความงามที่พลิกแผ่นดิน” เป็นสำคัญ โครงสร้างอื่นๆเป็นเพียงโครงสร้างเสริมเท่านั้น

6.        บทสรุป

วันเดือนปีเกิด และเวลาเกิดที่ได้ในข้อ 5 นั้น เป็นการพิจารณาจากโครงสร้าง “ความงามที่พลิกแผ่นดิน” เท่านั้น เพื่อประกอบการพิจารณาจึงได้พิจารณาคุณลักษณะอื่นๆของคลีโอพัตราเท่าที่ทราบเทียบกับรูปดวงชะตาด้วยว่าสมคล้อยมากน้อยเพียงใดโดยคร่าวๆ (การพิจารณาในรายละเอียดโดยลำดับเวลากับเหตุการณ์ทีเกิดขึ้นจริงในประวัติศาสตร์ คงเป็นเรื่องเกินความสามารถที่ผู้เขียนจะทำได้ เพราะต้องการซอฟท์แวร์ และความรู้ในวิชาโหราศาสตร์/ดาราศาสตร์ ภาคคำนวณอีกมาก และยังต้องการความรู้ทางประวัติศาสตร์ทีเกี่ยวข้องเป็นอย่างดีอีกด้วย ซึ่งเป็นงานวิจัยทางวิชาการขนาดใหญ่มาก) จากการพิจารณามีข้อสังเกตดังนี้

                1) อาทิตย์กุมลัคนาในราศีธนู     ตรงกับภาพลักษณ์ของคลีโอพัตรา ที่สวยสง่า มีอำนาจ  ราศีธนูตรงกับคุณลักษณะความเป็นนักปราชญ์ทีรอบรู้ในหลากหลายสาขาวิชา และผูกพันกับวิชาการถึงขนาดเป็นผู้อุปถัมภ์คนสำคัญของหอสมุดอเล็กซานเดรียที่เป็นหอสมุดที่ใหญ่ที่สุดในโลกโบราณด้วย

 

                2) พุธโทนในราศีพิจิก และเพ็ญ (ห่างจากอาทิตย์ 22 องศา) นำหน้าอาทิตย์เป็นเทวะสนธยา แต่อยู่ในภพที่ 12  สรุปว่าดาวพุธเข้มแข็งมาก  ทำให้เจ้าชะตาเฉลียวฉลาดมาก ราศีพิจิกและการอยู่ในภพที่ 12 ทำให้แม้จะเป็นคนช่างเจรจาแต่ก็เก็บงำวัตถุประสงค์แท้จริงและมีเป้าหมายที่แน่นอนในการเจรจาติดต่อ การที่พุธเป็นเทวะสนธยาทำให้เจ้าชะตาสามารถควบคุมความคิดอ่านของตนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

                3)  พฤหัสในภพที่ 2 นอกจากทำให้ “หน้างาม” แล้วยังทำให้เจ้าชะตาเป็นคนที่เจรจาด้วยความไพเราะอ่อนหวานเป็นที่ประทับใจอีกด้วย  เมื่อร่วมกับความสามารถในการเจรจาที่ดาวพุธเป็นเจ้าการตามข้อ 2 ทำให้เจ้าชะตาเป็นนักพูด นักการทูต นักเจรจาความที่เยี่ยมยอด ซึ่งสอดคล้องกับบันทึกทางประวัติศาสตร์ที่กล่าวถึงความสามารถทางการเจรจา และการทูตของคลีโอพัตรา

 

                4) จันทร์กับศุกร์สนิทองศาและบังศุกร์ด้วยนั้นนอกจากจะเป็นส่วนประกอบสำคัญของโครงสร้าง “ความงามที่พลิกแผ่นดิน” แล้ว จันทร์กับศุกร์ ยังหมายถึง “ผู้หญิงคนนี้” ที่กำลังจรเข้าเสาร์ เจ้าชะตาจึงพบกับจุดจบที่เป็นโศกนาฏกรรมที่เศร้าสลดยิ่ง ที่น่าสังเกตคือเสาร์แม้จะเป็นเกษตรในราศี แต่เป็นนิจในนวางค์จึงเป็นเสาร์ที่ให้โทษรุนแรง นอกจากนี้ยังมีราหูเล็ง จันทร์, ศุกร์ และเสาร์ จากราศีสิงห์อีกด้วย

 

                5)  ดวงนี้ทั้งอาทิตย์และอังคารเข้มแข็งในดวงชะตา อาทิตย์กุมลัคนาในราศีธนู  อังคารอยู่ในภพที่ 11 แม้จะเป็นประในราศีแต่เกาะนวางค์ราศีมังกรจึงเป็นอุจในนวางค์  ทำ เจ้าชะตาเป็นคนองอาจกล้าหาญ และเนื่องจาก อาทิตย์และอังคารหมายถึงสามี (ผู้ชายในชีวิต) จึงทำให้เจ้าชะตาได้สามีที่ทั้ง องอาจ สง่างาม และกล้าหาญเข้มแข็ง ซึ่งเป็นคุณลักษณะหลักของทั้งจูเลียส ซีซ่าร์ และ มาร์ค แอนโทนี่

                จะเห็นได้ว่า ความสมคล้อยในเรื่องราวของชีวิตและคุณสมบัติเด่นๆอย่างอื่นในดวงชะตาก็มีความสมคล้อยกับคลีโอพัตราเท่าที่ทราบพอประมาณ

อีกประเด็นหนึ่งที่ต้องพิจารณาก็คือว่า โครงสร้าง “ความงามที่พลิกแผ่นดิน” (ส่วนโครงสร้างตามทฤษฎีจริงๆตามข้อ 3 ก) นั้น ผู้เขียนไม่มีความสามารถจะวิเคราะห์ได้ว่ากี่ปีมีโอกาสเกิดครั้งหนึ่ง อาจนับเป็นพันปี ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้นก็จะมีจำนวนน้อยกว่า “หญิงงามที่พลิกแผ่นดิน” ที่มีจารึกไว้ในประวัติศาสตร์อีกเหมือนกัน) นี้มีโอกาสเกิดขึ้นเฉลี่ย 5 ปี เกิด ครั้งหนึ่ง  ถ้าเช่นนั้นหญิงงามผู้พลิกแผ่นดินจะไม่มีเต็มบ้านเต็มบ้านเต็มเมืองหรือ คำอธิบายข้อนี้ก็คือ

            1)         ทุกเวลาทุกขณะเป็นเวลาเกิดและเวลาดับของสรรพสิ่งมากมาย  เช่นอาจเป็นเวลาเกิดของนาย ก เป็นเวลาดับ่ของนกตัวหนึ่งในป่า  เป็นเวลาเริ่มต้นของการเปิดกิจการร้านค้าแห่งหนึ่ง  เป็นเวลาแต่งงานของบ่าวสาวคู่หนึ่ง ฯลฯ ดังนั้นในเวลาชั่วขณะหนึ่งนั้น อาจไม่มีมนุษย์เกิดขึ้นมาในโลกเลยก็ได้ ณ ตำแหน่งนั้นๆบนพื้นโลก  โดยเฉพาะเมื่อคิดถึงว่า ประชากรบนโลก ณ เวลา 68 ปีก่อนคริสตกาลนั้น มีจำนวนน้อยมากเมื่อเทียบกับประชากรโลกในปัจจุบัน

            2)         ในทุกๆขณะจะมีโครงสร้างร้าย โครงสร้างดี เกิดขึ้นมากมาย ดีมากกว่าร้ายหรือร้ายมากกว่าดี เป็นกรณีๆไป  แต่สวนใหญ่โดยหลักพื้นฐานที่ปาปเคราะห์มีจำนวนมากกว่าศุภเคราะห์มาก โครงสร้างร้ายจะมีมากกว่าโครงสร้างดี  ดังนั้นแม้โครงสร้าง “ความงามที่พลิกแผ่นดิน” จะมีโอกาสเกิดขึ้นได้ประมาณทุก 5 ปี แต่ส่วนใหญ่น่าจะมีโครงสร้างร้ายที่มาขัดขวางทำให้โครงสร้างนี้ไม่สามารถแสดงอิทธิพลจนเห็นเด่นชัดได้ เช่นอาจมีโครงสร้างร้ายที่ให้เสียชีวิตไปก่อน  .โครงสร้างชี้บอกความเจ็บป่วยที่รุนแรง  โครงสร้างชี้บอกความเป็นทาส ฯลฯ   โครงสร้างร้ายเหล่านี้ย่อมสามารถบดบังอิทธิพลของ “ความงามที่พลิกแผ่นดิน” จนหมดไป หรือเกือบไม่เหลือให้เห็นเลยก็ได้

            3)         โครงสร้าง “ความงามที่พลิกแผ่นดิน” จะแสดงผลเป็นที่ประจักษ์ได้ย่อมต้องอาศัยโครงสร้างดีๆอื่นๆเกื้อหนุนอีกเป็นอันมาก  ถ้าพูดภาษาโหราศาสตร์ภารตะก็คือในดวงชะตาจำเป็นต้องมีราชาโยคที่เข็มแข็งอีกหลายโครงสร้างเพื่อมาสนับสนุน

            4)         สภาพแวดล้อม สถานที่เกิด ก็มีส่วน  อย่างที่โหราศาสตร์ไทยเรามีคำกล่าวว่า ต้นตาลเกิดในหุบเหวก็ยังเตี้ยกว่าหญ้าที่เกิดบนยอดเขา  ในโหราศาสตร์ภารตะมีโศลกในคัมภีร์โบราณกล่าวไว้ชัดเจนว่า “ราชาโยคที่เกิดขึ้นในดวงชะตาสามัญชนย่อมไม่อาจส่งผลให้เจ้าชะตาสูงส่งได้เท่ากับราชาโยคที่เกิดกับดวงชะตาที่อยู่ภายใต้เศวตฉัตร” ถ้าคลีโอพัตราเกิดเป็นลูกสาวทาสในเหมืองแร่ในทะเลทรายที่อียิปต์ไม่ได้เกิดเป็นเจ้าหญิงในราชวงศ์ปโตเลมี  แม้ความงามของนางจะถึงระดับ “ความงามที่พลิกแผ่นดิน” แต่จะมีแผ่นดินไหนพลิกเพราะลูกสาวทาสคนนี้ได้?

        5)         ในเชิงเปรียบเทียบกับโยคเกณฑ์อื่นๆ เช่นปัญจมหาบุรุษโยค หรือราชาโยค   โอกาสเกิดขึ้นมีมากกว่าโครงสร้างนี้เป็นอันมาก  แต่มหาบุรุษ หรือ ราชา ที่โดดเด่นมีเพียงน้อยนิดเมื่อเทียบกับจำนวนดวงชะตาที่มีโยคเกณฑ์เหล่านี้  ซึ่งแน่นอนย่อมมีสาเหตุมาจากโครงสร้างอื่นๆในดวงชะตาที่มาส่งเสริมหรือต่อต้าน เกิดจากสภาพการเกิด และสิ่งแวดล้อมที่ไม่เหมือนกัน  และกรรมใหม่ที่แต่ละคนกระทำ  ดังนั้นในดวงชะตาที่มีปัญจะมหาบุรุษโยค/ราชาโยค จึงมีตั้งแต่ มหาบุรุษชื่อก้องโลก  กษัตริย์นักรบผู้ยิ่งใหญที่ได้รับการบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ ลงมาจนถึงกำนันผู้ใหญ่บ้าน ฯลฯ ซึ่งทุกดวงก็มี ราชาโยคด้วยกันทั้งสิ้น แต่แสดงผลออกมาในระดับที่แตกต่างกัน  โครงสร้างความงามที่พลิกแผ่นดินนี้ก็เช่นเดียวกัน  อาจมีตั้งแต่พลิกแผ่นดินประเทศมหาอำนาจเช่นในกรณีของเฮเลน แห่ง ทรอย  คลีโอพัตรา เตียวเสี้ยน  หรืออาจเป็นการพลิกแผ่นดินเล็กๆลงมา จนกระทั่งการพลิกแผ่นดินในระดับการเปลี่ยนแปลงอำนาจทางการเมืองในระดับตำบลหมู่บ้านก็ได้ ขึ้นอยู่กับส่วนประกอบอื่นๆทั้งในดวงชะตาและนอกดวงชะตา

6)         กรรมใหม่ที่กระทำสามารถผันแปรลิขิตฟ้าที่กำหนดไว้ในดวงชะตาได้ระดับหนึ่ง

จากที่พิจารณามาข้างต้นก่อนหน้านี้สรุปได้ว่า เจ้าชะตาที่เกิดวันที่ 7 ธันวาคม 68 ปีก่อนคริสตกาล เวลา 5:19:26 น. ที่เมืองอเล็กซานเดรีย ประเทศอียิปต์ คนนี้เมื่อวิเคราะห์ตามหลักเกณฑ์ทางโหราศาสตร์แล้วพบว่า

                หนึ่ง       เป็นผู้หญิงที่มีความงามอยู่ในระดับสูงสุดถึงขั้น “มหกรรมโกลา – ความงามที่พลิกแผ่นดิน” ซึ่งในช่วงเวลาจาก 68 ปี ถึง 70 ปีก่อนคริศตกาลนั้น ไม่มีโครงสร้างนี้เกิดขึ้นบนท้องฟ้าอีกเลยนอกจากในช่วงขณะเวลานี้เท่านั้น

                สอง        คุณลักษณะและเรื่องราวในชีวิตที่เด่นๆของคลีโอพัตราสอดคล้องกับเรื่องราวที่อ่านได้จากดวงชะตานี้พอสมควร ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความสามารถในการเจรจา   ความเป็นปราชญ์ จุดจบของชีวิตที่เป็นโศกนาฏกรรมที่น่าเศร้าสลดยิ่ง ฯลฯ

 

จึงอาจสรุปได้ว่ามีเหตุผลทางหลักวิชาโหราศาสตร์พอสมควรที่จะเชื่อว่า คลีโอพัตรา ฟาโรห์องค์สุดท้ายของอียิปต์ และผู้หญิงที่สวยที่สุดในประวัติศาสตร์ เกิดเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 68 ปีก่อนคริสตกาล  เวลา 5:19:26 น. ที่เมืองอเล็กซานเดรีย ประเทศอียิปต์

หมายเหตุเกี่ยวกับการใช้โปรแกรมคำนวณ

มีข้อน่าสังเกตคือ

1.  สำหรับดวงสายนะนั้น  ทุกโปรแกรมให้ค่าองศาดาวตรงกันหมด  แต่ที่วันเวลาต่างกันคือ  Janus 4  7 ธันวาคม 68 ปีก่อนคริสตกาล  5.19.26 น., Kepler 7   7 ธันวาคม 68 ปีก่อนคริสตกาล  7.19.26 น.  ส่วน Solar Fire 4 วันที่ 9 ธันวาคม 68 ปีก่อนคริสตกาล 5.37 น. ทั้งหมดนี้สถานที่เกิดคือ เมืองอเล็กซานเดรีย ประเทศอียิปต์

2.  ค่า Declination นั้น ณ วันและเวลา ที่แต่ละโปรแกรม (Janus 4 & Kepler 7) ใช้ ให้ค่า Declination ตรงกัน  คือ จันทร์ขนานศุกร์ประมาณ 1 องศา 29 ลิปดา

3.  ค่าองศาในระบบนิรายะนะ ณ เวลาที่แต่ละโปรแกรมใช้นั้น Kepler 7 กับ Solar Fire 5 ให้ค่าองศาตรงกัน ซึ่งก็คือใช้ค่าอายนางศะ (Lahiri) ตรงกันนั่นเองที่ + 4 องศา 52 ลิปดา   แต่ Janus 4 คำนวณค่าอายนางศะ (Lahiri เหมือนกัน) ได้ + 3 องศา 00 ลิปดา 22 ฟิลิปดา

----------

ขอขอบคุณ ท่านผู้เขียนบทความที่ให้ความกรุณาแก่เว็บไซต์แห่งนี้  อย่างไรก็ตาม ความแตกต่างทางความคิดย่อมมีได้ และผมขอจำกัดความรับผิดชอบในฐานะเจ้าของเว็บ เท่าที่กฎหมายและกติกาสังคมกำหนด ท่านที่ประสงค์จะร่วมเขียนบทความเช่นนี้ โปรดติดต่อ webmaster@rojn-info.com