ReadyPlanet.com
dot dot dot
dot
สำหรับสมาชิก
ชื่อผู้ใช้ :
รหัสผ่าน :
เข้าสู่ระบบอัตโนมัติ :
bullet ลืมรหัสผ่าน
dot
dot
dot
bulletหลักโหรโดนใจ
bulletหลักโหร-ศิวเมษ
bulletโหรา-ประวัติศาสตร์
bulletโหรา-ไอที
bulletโหรา-โปรแกรม
bulletDemo/Freeware
bulletโปรแกรม Virgo07
bulletDelphi กับ Swiss Ephemeris
bulletผูกดวงออนไลน์กับ Astrotheme.com
bulletพิกัดภูมิศาสตร์ ประเทศไทย
bulletwebboard ผลัดกันเขียนเวียนกันอ่าน
dot
dot
bulletกำพล ภาระโภชน์ (Astroman) - ยูเรเนียน
bulletโรงเรียนโหราศาสตร์ไทยมาตรฐาน
bulletอดิเทพ ศรีรัตนไพฑูรย์ - ยูเรเนียน
bulletอาคม ชูจันทร์ - ยูเรเนียน, ลายมือ
bulletชาญชัย เดชะเสฏฐดี (ผู้ร่วมเขียนบทความ)
bulletอาจารย์ ธนกร ตันติถาวร - ยูเรเนียน
dot
dot
bulletประวัติ
bulletการติดต่อ
bulletภาพยนตร์ประวัติศาสตร์
bulletRojnChin's Channel (YouTube)
bulletRojnChin's Blog
bulletร้านค้าออนไลน์
dot
dot
bulletโรงเรียน โหราศาสตร์ ฮัมบูร์ก ประเทศเยอรมัน
bulletAstro.com
bulletพยากรณ์ดอทคอม
bulletมูลนิธิสมาคมโหรแห่งประเทศไทยฯ
bulletโหราศาสตร์แนวอาจารย์จรัญ พิกุล
bulletโหรายูเรเนียนดอทคอม
bulletบ้านฮวงจุ้ย
bulletวารสารโหราเวสม์
bulletUranianSoft.com
bulletดูดวงกับ GooSiam.com
bulletMyHora.com: ดูดวงยูเรเนียนออนไลน์
bulletAstro-Seek.com: Full Moons & New Moons
bulletAstro-Seek.com: Aspect Search Engine
bulletLatitude&Longitude เมืองต่างๆ ทั่วโลก
bulletIELTS British Council
bulletIELTS IDP
bulletMUIC
bulletรวม Link เว็บอื่นๆ ที่น่าสนใจ
bulletแผนผังเว็บไซต์ (Site Map)






ภาพยนตร์ประวัติศาสตร์


CURRENT MOON


dot
คำถามเรื่องมุมครับ
วันที่ 27/07/2009   19:36:46


คำถามเรื่องมุมครับ

สงสัยครับ บังเอิญได้อ่านหนังสือของ อจ. ท่านนึง แสดงตัวอย่างไว้หลายตัวอย่าง ซึ่งมีการใช้มุม 60 72 144 135 ในการให้ความหมายด้วย และใช้ในทุกๆตัวอย่างในหนังสือเล่มดังกล่าว

แต่ใน Web ทาง Uranian อื่นๆรวมถึง Web ของ อจ. โรจน์ด้วย ผู้แสดงความคิดเห็นส่วนใหญ่เห็นแต่จะพิจารณามุมในกลุ่ม 22.5 45 90 135 180 เสียมากกว่า และผมเข้าใจว่าไม่ได้มองมุมเหล่านี้มีความหมายที่แตกต่างกันเท่าไร

เลยสงสัยว่าใน Uranian นั้นใช้มุมอะไรในการให้ความหมายกันบ้างครับ
 


จาก: อ่านแล้วมึนงงมากมาย  [19 Jun 2006 21:58] ผู้ดู [279] ผู้ตอบ[28]   
 


 

 ความคิดเห็นที่ 1  โดย คุณ ผ่านมา  
 19 Jun 2006 22:31 #1084859    

ในยูเรเนียน ไม่มีมุมดี มุมร้าย
ร้ายหรือดี ขึ้นกับดาวและปัจจัยที่เข้ามามีสัมพันธ์กัน
แต่ที่ใช้มุมในตระกูล 45 องศา เพราะปัจจัยส่งอิทธิพลถึงกันแรง



 

 ความคิดเห็นที่ 2  โดย คุณ โรจน์-อินโฟ    
 20 Jun 2006 12:05 #1085078   

ควรใช้มุมเท่าของ 45 องศาเป็นหลัก ส่วนมุมอื่นๆ ควรถือเป็นทางเลือกเพิ่มเติมหรือ Option ตามความเหมาะสม ไม่ได้สนับสนุนหรือคัดค้าน ใช้แล้วได้ผลอย่างไรสามารถเอามาพูดคุยแลกเปลี่ยนกันได้ครับ



 

 ความคิดเห็นที่ 3  โดย คุณ Pallas  
 20 Jun 2006 19:56 #1085279   

เรื่องมุมเป็นประเด็นที่มีความแตกต่างของโหราศาสตร์ยูเรเนียนกับโหราศาสตร์สากลทั่วไปครับ มุมในโหราศาสตร์มาจากการหาร 360 องศาด้วยเลขจำนวนเต็ม เรียกว่า Harmonic
เช่น Harmonic ที่ 1 คือ 360/1 = 360 หรือ 0 คือมุมกุม (conjunct)
Harmonic ที่ 2 คือ 360/2 = 180 คือมุมเล็ง (opposite)
Harmonic ที่ 3 คือ 360/3 = 120 คือมุมตรีโกณ (trine)
Harmonic ที่ 4 คือ 360/4 = 90 คือมุมฉาก (square)
Harmonic ที่ 5 คือ 360/5 = 72 (quintile)
...
โดยโหราศาสตร์สากลจะใช้มุมเป็นตัวให้ความหมายด้วย เช่น มุมฉากเป็นมุมขัดแย้ง ให้ความเครียดกับดาว 2 ดวงที่ทำมุมฉากกัน แต่มุมตรีโกณ จะให้ความสบาย
แต่โหราศาสตร์ยูเรเนียนนั้น ไม่ได้ให้ความหมายของมุมในทางดีหรือร้าย แต่บอกเพียงว่ามุมแรงหรือไม่ คือมีผลระหว่างดาวที่ทำมุมกันหรือไม่ เช่น อาทิตย์ ทำมุม 90 กับพฤหัส แปลว่า เจ้าชะตามีโชค แต่ถ้าในโหราศาสตร์สากลก็อาจให้ความหมายเพิ่มเติมไปว่า เจ้าชะตามีโชคด้วยความเหน็ดเหนื่อย (เพราะเป็นมุมร้ายหรือตึงเครียด)
ว่ากันว่า การตัดสินใจไม่ใช่มุมดีมุมร้ายของท่านวิตเตอมาจากการสังเกตในสนามรบ (สงครามโลกครั้งที่ 1) แล้วพบว่า มุม 0, 180, 90, 45 จะให้ผลการพยากรณ์พื้นที่ที่จะมีการต่อสู้แม่นยำ โดยไม่ต้องใช้ความหมายของมุมดีหรือร้ายเลย เพียงแต่เอาความหมายดาวมาผสมกันก็เพียงพอแล้ว
สำหรับผมแล้ว เนื่องจากเป็นศิษย์สำนักยูเรเนียนก็ใช้ตามแนวทางของปรมาจารย์ คือไม่ใช้ความหมายของมุมครับ ใช้มุม 0, 180, 90, 45, 22.5 (ตามลำดับความแรง) แต่บางครั้งก็ดูมุมตรีโกณบ้างเวลาจะดูเรื่องความสัมพันธ์ของคน



 

 ความคิดเห็นที่ 4  โดย คุณ จขกท  
 20 Jun 2006 21:20 #1085316   

ขอบคุณมากครับ ได้ความรู้เพิ่มอีกแล้ว
ขอถามต่อนะครับเคยอ่านพบว่า Uranian มีสองแบบคือ ระบบเรือนชะตา และระบบพระเคราะห์สนธิ แยกพิจารณากันได้อย่างเป็นเอกเทศ ต่างก็สมบูรณ์ในตัวเอง

หมายความว่า ถ้าผมจะศึกษาก็ต้องเลือกเรียนอย่างใดอย่างหนึ่งตั้งแต่ต้นเลยหรือครับ ขอคำชี้แนะครับ



 

 ความคิดเห็นที่ 5  โดย คุณ ศิษย์มีอาจารย์  
 21 Jun 2006 09:26 #1085452   

ใน ทางโหราศาสตร์ไม่ว่าจะเป็นโหราศาสตร์ไทย สากล หรือยูเรเนียน การพิจารณาดวงชะตานั้นต้องใช้ทั้งจักรราศี และเรือนชะตาเป็นหลักการพื้นฐานอยู่แล้วศูนย์รังสีซึ่งเป็นส่วนหนึ่งใน เรื่องพระเคราะห์สนธินั้นมีใช้ทั้งในโหราศาสตร์สากลและยูเรเนียนด้วย ดูได้จากหนังสือเรื่อง Concept Dictionary หรือหนังสือ Mid point ของโหราศาสตร์สากลเป็นเรื่องศูนย์รังสี
พระเคราะห์สนธิในความหมายของชาวยูเรเนียนในความเข้าใจของผมนั้น อาจจะหมายถึงการใช้ดาวทิพย์มาผสมด้วยจึงอาจจะทำให้เกิดความเข้าใจว่า ยูเรเนยีนต้องใช้พระเคราะห์สนธิเป็นหลัก

สรุปก็คือ อาจารย์ประยูรพูดไว้เสมอว่า ทหารต้องเรียนรู้การใช้อาวุธทุกชนิดให้เป็น เพราะอาวุธแต่ละชนิดนั้นจะใช้ในสถานการณ์ที่แตกต่างกันฉันใดฉันนั้น นักโหราศาสตร์ก็ควรที่จะเรียนรู้การใช้หลักและวิธีการพยากรณ์ที่หลากหลาย และนำมาใช้ให้เหมาะกับสถานการณ์ ไม่ควรยึดติดเพียงเรื่องใดเรื่องหนึ่ง
แต่ถ้าเป็นเรื่องความถนัดเฉพาะตัวของนักโหราสษสตร์ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง เพราะแต่ละคนอาจจะมีความถนัดหรือฝึกฝนบางเรื่องเท่านั้น
อยากฝากอีกเรื่องหนึ่งก็ตือ การพยากรณ์ที่ใช้หลักปรัชญา ซึ่งจะเป็นการใช้โรศาสตร์ที่คลาสสิคมากกว่าการใช้ปัจจัยดาวพระเคราะห์พยากรณ์ เป็นสิ่งที่ไม่ค่อยได้เห็นนักยูเรเนียนใช้กันเท่าที่ควร



 

 ความคิดเห็นที่ 6  โดย คุณ Pallas  
 21 Jun 2006 18:50 #1085769  

ผมเห็นด้วยกับความเห็นของคุณศิษย์มีอาจารย์ในเรื่องนี้ครับ
ในคัมภีร์พระเคราะห์สนธิ อ.ประยูรได้เขียนไว้ว่า การพยากรณ์โดยใช้พระเคราะห์สนธิเป็นการพยากรณ์ที่สมบูรณ์ในตัวเอง แต่ไม่ได้บอกว่ายูเรเนียนมี 2 ระบบที่เป็นเอกเทศ แยกออกจากกัน สำหรับที่ จขกท.อ่านพบ ไม่ทราบว่ามาจากที่ไหน แต่คาดว่าไม่น่าจะใช่ความเห็นของอ.ประยูร
ส่วนตัวของผม ผมยังไม่เห็นประโยชน์ที่จะแยกการศึกษายูเรเนียนเป็น 2 ระบบตั้งแต่ต้น (นอกจากจะเป็นการสร้างจุดขายทางการตลาดของอาจารย์ที่สอนมากกว่า)
ยกตัวอย่างการเรียนวิศวฯ นักเรียนทุกคนก็ต้องมีพื้นฐานจากสายวิทย์-คณิตฯ เช่น ฟิสิกส์ คณิตศาสตร์ เคมี ฯลฯ ในระดับมัธยมก่อนที่จะเข้าศึกษาระดับปริญญาตรี เมื่อเข้ามาแล้วก็ต้องเรียนวิชาพื้นฐานเหมือนกัน เช่น แคลคูลัส, Mechanic, Drawing ฯลฯ ก่อนที่จะแยกสาขาวิชาออกไปตามความชอบและความถนัด
โหราศาสตร์ก็เช่นกัน นักเรียนควรที่จะเรียนวิชาพื้นฐานและเทคนิคต่างๆให้รอบด้าน เมื่อเกิดความเข้าใจแล้วจึงลงลึกในแนวทางที่แต่ละคนถนัด และยังสามารถใช้เทคนิคต่างๆมาประกอบในเรื่องที่ซับซ้อนได้อีกด้วย
ผม ขอตั้งข้อสังเกตอีกข้อหนึ่ง คือ นักโหราศาสตร์ยูเรเนียนแต่เดิมจะใช้จานหมุนเป็นเครื่องมือหลัก ดังนั้นการใช้เรือนชะตาจะสามารถพยากรณ์ได้รวดเร็วและเห็นด้วยตาเปล่าชัดกว่า แต่นักโหราศาสตร์รุ่นใหม่ๆมักเริ่มจากโปรแกรมคอมพิวเตอร์จึงให้โปรแกรมแสดง รายงานพระเคราะห์สนธิมาให้จึงนิยมอ่านจากพระเคราะห์สนธิเป็นหลัก
สำหรับผมที่เป็นนักเรียนโหราศาสตร์ยูเรเนียนได้ไม่นานนัก และเรียนทั้งการใช้จานหมุนและโปรแกรมคอมฯ พบว่า การหมุนจานให้มุมมองที่ชัดเจนกว่า (better visibility) และโปรแกรมในปัจจุบันยังไม่สามารถทดแทนได้ แต่เมื่อต้องการความละเอียดรวดเร็วในเชิงมุม การใช้โปรแกรมจะให้ผลดีกว่า เพราะฉะนั้นในเรื่องสำคัญๆ ผมจะใช้ประกอบกัน แต่เวลาดูสนุกๆ ก็มักจะใช้โปรแกรมเพราะรวดเร็วดี
ผมเคยอ่านเจอในตำราของ Maria Kay Simms นักโหราศาสตร์ชื่อดังของอเมริกา เธอก็ใช้จานหมุนเป็นหลักและประกอบด้วยการใช้โปรแกรมคอมฯ (แม้ว่าเธอจะไม่นิยมการใช้เรือนชะตา)



 

 ความคิดเห็นที่ 7  โดย คุณ แฟนการเมืองอันธพาล  
 21 Jun 2006 20:53 #1085857   

“ทฤษฎีเรือนชะตา เป็นทฤษฎีสำหรับ การพยากรณ์ทฤษฎีหนึ่ง และนิยมใช้กันมากว้างขวางมาแต่สมัยโบราณ นักโหราศาสตร์ในปัจจุบัน มีความเคยชินทฤษฎีเรือนชะตา จนมีความรู้สึกคล้ายกับว่า วิชาโหราศาสตร์นั้น ใช้เรือนชะตาเพียงอย่างเดียวเท่านั้นในการพยากรณ์ และในดวงชะตาจำเป็นจะต้องมีเรือนชะตาควบคู่กันไปโดยอัตโนมัติ ซึ่งความจริงมิใช่เช่นนั้น
ในวิชาโหราศาสตร์ มีทฤษฎีสำหรับใช้พยากรณ์มากมาย ซึ่งไม่เกี่ยวกับการใช้เรือนชะตาเลย แต่ไม่สู้ได้รับความนิยม ทฤษฎีเหล่านั้นจึงกลายเป็นทฤษฎีประกอบเสียเป็นส่วนมาก
อย่างไรก็ดี ในสมัยปัจจุบัน โลกกำลังสนใจทฤษฎีพระเคราะห์สนธิ ซึ่งได้รับการพัฒนามาจากโหราศาสตร์ยูเรเนียน โดยท่านอัลเฟรดวิคเตอ ทฤษฎีพระเคราะสนธิ จึงกลายเป็นทฤษฎีสำคัญ เนื่องจากความง่าย และให้ผลการพยากรณ์แม่นยำ และละเอียดลึกซึ้งมากกว่าทฤษฎีเรือนชะตามากมาย ทฤษฎีเรือนชะตาจึงเริ่มเสื่อมความนิยมลงไป จนนักโหราศาสตร์บางกลุ่มเลิกใช้กันเลยก็มี เนื่องจากทฤษฎีพระเคราะห์สนธิเป็นทฤษฎีใหญ่ และการพยากรณ์มีแนวโน้มไปทางโหราศาสตร์แนววิทยาศาสตร์........”



 

 ความคิดเห็นที่ 8  โดย คุณ จขกท  
 21 Jun 2006 21:50 #1085918   

ตอบ คคห 6

จาก คัมภีร์สูตรเรือนชะตา
พลตรี ประยูร พลอารีย์
หน้า 86

"ใคร่ขอสรุปอีกครั้งว่าทฤษฎีมาตรฐานสำหรับอ่านดวงชะตาสมัยนี้มีอยู่ 2 ทฤษฎีด้วยกันคือ ทฤษฎีตำแหน่งสัมพันธ์ ซึ่งสมัยนี้ได้พัฒนาขึ้นเป็นทฤษฎี พระเคราะห์สนธิ กับทฤษฎีเรือนชะตา ซึ่งแต่ละทฤษฎีต่างก็มีความสมบูรณ์ในตัวเอง สามารถใช้อ่านดวงชะตาได้อย่างเป็นเอกเทศโดยไม่ต้องอาศัยซึ่งกันและกัน ในทางปฎิบัติจะใช้เพียงทฤษฎีใดทฤษฎีหนึ่ง หรืออาจใช้ประกอบกันไปทั้งสองทฤษฎีก็ได้ ..."

คคห 5
"อาจารย์ประยูรพูดไว้เสมอว่า ทหารต้องเรียนรู้การใช้อาวุธทุกชนิดให้เป็น เพราะอาวุธแต่ละชนิดนั้นจะใช้ในสถานการณ์ที่แตกต่างกันฉันใดฉันนั้น " ข้อความนี้ อจ.ท่าน คงสอนใน Class มั้งครับ ผมไม่ได้มีโอกาสได้ไปเรียนกับท่าน



 

 ความคิดเห็นที่ 9  โดย คุณ จขกท  
 21 Jun 2006 22:02 #1085931   

จาก เอกสาร โหราศาสตร์ 2000
หน้า 9
อจ. จรัล พิกุล
"ในทางปฏิบัติเรามีหลักสำคัญเพียงสองทฤษฎีใหญ่ คือทฤษฎีเรือนชะตา และทฤษฎีพระเคราะห์สนธิ(สูตรดาว) ซึ่งทั้งสองทฤษฎีนี้ว่ากันว่าต่างก็มีความเหมาะสมของมันเอง สามารถใช้แยกกันเป็นเอกเทศ แต่ถ้าเรามาพิจารณาร่วมกันจะให้ผลดีกว่า เพราะสามารถอ่านกันต่อเนื่องไม่มีที่สิ้นสุด..."

Quote มาเสริมให้ครบเท่าที่อ่านเจอครับ



 

 ความคิดเห็นที่ 10  โดย คุณ มังกรน้อย  
 22 Jun 2006 00:07 #1086007   

"ในทางปฎิบัติจะใช้เพียงทฤษฎีใดทฤษฎีหนึ่ง หรืออาจใช้ประกอบกันไปทั้งสองทฤษฎีก็ได้ ..." อาจาร์ยประยูร
"แต่ถ้าเรามาพิจารณาร่วมกันจะให้ผลดีกว่า เพราะสามารถอ่านกันต่อเนื่องไม่มีที่สิ้นสุด..." อาจาร์ยจรัญ
ก็ชัดนิครับว่าศึกษาทั้ง 2 แบบไม่ต้องแบ่งแยกดีที่สุด สุดท้ายคงแล้วแต่ความถนัดของแต่ละคน
แต่จากประสบการ์ณ พี่ๆชาวยูเรเนียนที่ผมรู้จักไม่เห็นมีใครใช้แค่ทฤษฏีเดียวเลยครับ



 

 ความคิดเห็นที่ 11  โดย คุณ Pallas  
 22 Jun 2006 00:29 #1086017  

ขอบคุณที่ค้นข้อมูลมาให้ครับ ผมจะไปอ่านทบทวนอีกครั้งเพื่อทำความเข้าใจให้มากขึ้น แต่ผมยังยืนยันความเห็นเดิมครับว่า ผู้เริ่มต้นไม่จำเป็นต้องแยกศึกษาระบบใดระบบหนึ่ง แต่ควรศึกษาทั้ง 2 ระบบแล้วนำมาปรับใช้งานตามความเหมาะสมและความถนัดของแต่ละท่าน
ความเห็นของอ.จรัลที่ Quote มาก็ให้ความหมายสมบูรณ์อยู่แล้ว
อย่างไรก็ตาม เป็นสิทธิส่วนตัวของแต่ละท่านอยู่แล้วครับที่จะเลือกเรียนในสิ่งที่ตนเองคิดว่าดี ถ้าท่านเชื่อว่าควรเรียนเฉพาะพระเคราะห์สนธิก็สามารถกระทำได้ ไม่ใช่เรื่องผิด ขอเพียงศึกษาให้ลึกถึงปรัชญาที่แท้จริงของดวงดาวที่ประกอบขึ้นมาเป็นพระเคราะห์สนธิ เหมือนอาฮุยในเรื่องลี้คิมฮวงที่มีเพียงกระบวนท่าเดียวคือแทงกระบี่เข้าคอหอยก็เป็นยอดฝีมือได้
ส่วน คห.ที่ 7 ช่วยให้ข้อมูลหน่อยได้มั้ยครับว่า Quote มาจากไหน จะได้ไปหาฉบับเต็มเพื่อทำความเข้าใจเพิ่มเติมครับ



 

 ความคิดเห็นที่ 12  โดย คุณ จขกท  
 22 Jun 2006 00:42 #1086022 

ก็ตั้งใจไว้ว่าจะให้รู้ทั้ง 2 ทฤษฎีครับ
แต่คิดว่าคงเริ่มที่วิธี สูตรดาว พระเคราะห์สนธิก่อน เพราะ เอาความหมายดาวมาผสมกันตรงๆน่าจะทำให้คุ้นเคยมากขึ้นกว่านี้ก่อน

แล้วคิดว่าค่อยๆเอาอีกทฤษฎีเรือนชะตามาผสม เพราะเท่าที่ดูระบบเรือนชะตา มีเรื่องต้องจำเยอะกว่า แถมแต่ละเรือนการสะท้อนก็ไม่เหมือนกันอีก ดังนั้นถ้าจะให้เริ่มที่ระบบเรือนชะตา ผมว่าผมคงหลงทางไปก่อนแน่ๆ

ไม่รู้ว่าผมคิดอย่างนี้ถูกไหมครับ ถ้าไม่รบกวนเกินไป
รบกวนช่วย Guide ให้ด้วยครับว่า เริ่มยังไงดี



 

 ความคิดเห็นที่ 13  โดย คุณ Pallas  
 22 Jun 2006 00:48 #1086026   

ผมกลับไปอ่านคัมภีร์สูตรเรือนชะตาของ อ.ประยูรอีกครั้งแล้วครับ เท่าที่ทบทวนเร็วๆ จะมีการพูดถึงเรื่องนี้ 2 ครั้งในหน้า 71-72 และหน้า 86 (ถ้าใครเจอหน้าอื่น ช่วยบอกด้วยจะขอบคุณมากครับ)
จากการอ่านทบทวน ผมตีความว่า อาจารย์ท่านบอกให้ทราบว่ามี 2 ระบบจะใช้แยกหรือรวมกันก็ได้ แต่ไม่มีจุดไหนที่อ.ประยูรบอกว่าให้เลือกเรียนระบบใดระบบหนึ่งครับ



 

 ความคิดเห็นที่ 14  โดย คุณ Pallas  
 22 Jun 2006 01:03 #1086031   

ถ้า จขกท.คิดว่าทฤษฎีเรือนชะตาต้องจำมากกว่าพระเคราะห์สนธิ คงจะเข้าใจผิดแล้วครับ เพราะทฤษฎีเรือนชะตามาจากปรัชญาการเกิดขึ้นในราศีเมษ (เรือนที่ 1) จนถึงการสูญสิ้นไปในราศีมีน (เรือนที่ 12) ดังนั้นไม่ใช่การจำแต่เป็นการเข้าใจปรัชญาวงจรชีวิตครับ
ที่สำคัญ ถ้าไม่ต้องการหลงทาง ก่อนที่จะเรียนทฤษฎีเรือนชะตาหรือพระเคราะห์สนธิ นักเรียนโหราศาสตร์ควรที่จะเรียนพื้นฐานโหราศาสตร์ก่อนครับ ได้แก่ ปรัชญามูลฐาน ทรงกลมฟ้า จักรราศี จุดเจ้าชะตา ดวงดาว การอ่านดวงชะตาขั้นพื้นฐาน (มีกระทู้ใน web นี้ที่มีผู้ post หลักสูตรโหราศาสตร์ของอ.ประยูร ซึ่งลำดับการเรียนได้ดีมากครับ) และถ้าจะให้ช่วย guide ผมก็ขอยืนยันความเห็นเดิมที่เคย post ใน web นี้หลายครั้งว่า เรียนกับอาจารย์เถอะครับ อย่าอ่านหนังสือและตีความเอาเองอย่างเดียว จะหลงทางเสียเวลาไปเปล่าๆ
สำหรับเทคนิคการสะท้อนเรือนเป็นเทคนิค(อาวุธ)ชนิดหนึ่งที่สามารถเลือกใช้ตามสถานการณ์ ไม่ใช่เรื่องที่ต้องใช้ทุกครั้ง ดังนั้น ถ้ายังไม่เข้าใจพื้นฐานก็ไม่จำเป็นต้องใช้เรื่องสะท้อนเรือนที่ซับซ้อนขึ้นไปครับ (ผมเองก็ยังไม่เข้าใจเรื่องนี้ลึกซึ้งจึงแทบไม่เคยใช้เลยครับ)



 

 ความคิดเห็นที่ 15  โดย คุณ Pallas  
 22 Jun 2006 01:15 #1086033   

เพื่อให้กระทู้นี้สนุกยิ่งขึ้น ผมไปอ่าน web ของท่าน Ruth Brummund แล้วพบว่า สำนักของท่าน Ruth ก็ไม่ใช้ทั้งเรือนชะตาและพระเคราะห์สนธิ แต่ใช้ศูนย์รังสีเป็นหลัก
"..Ms Brummund elucidates the problems of working routinely with Sensitive Points, and why they have been abandoned in standard Uranian Astrology practice today."
ดังนั้น ถ้าท่านใดจะเลือกเรียนในสำนักของท่าน Ruth ก็ไม่ต้องสนทั้งเรือนชะตาและพระเคราะห์สนธิครับ เน้นเฉพาะศูนย์รังสี (Midpoint) :)
ลองไปอ่านดูใน The Value of Sensitive Points (http://finblake.home.mindspring.com/brsenspoints.htm)



 

 ความคิดเห็นที่ 16  โดย คุณ แฟนการเมืองอันธพาล  
 22 Jun 2006 06:25 #1086063   

"ส่วน คห.ที่ 7 ช่วยให้ข้อมูลหน่อยได้มั้ยครับว่า Quote มาจากไหน จะได้ไปหาฉบับเต็มเพื่อทำความเข้าใจเพิ่มเติมครับ"

ท่านอ่านแล้ว คิด และเข้าใจ อย่างไร???

"ให้ผลการพยากรณ์แม่นยำ และละเอียดลึกซึ้งมากกว่าทฤษฎีเรือนชะตามากมาย ทฤษฎีเรือนชะตาจึงเริ่มเสื่อมความนิยมลงไป "

มาจากตำรา "หลัก" บทสำคัญบทหนึ่ง ของโรงเรียนโหราศาสตร์กรุงเทพฯ (พ.ศ. 2517)
พ.ศ. นั้น บางท่านในที่นี้ อาจจะยังไม่เกิด

ผู้ใดไม่ผ่านตำรานี้ จะไม่รู้พื้นฐานของ ปรัชญา อันลึกซึ้งของท่านอาจารย์ พลตรี ประยูร พลอารีย์



 

 ความคิดเห็นที่ 17  โดย คุณ จขกท  
 22 Jun 2006 09:51 #1086132    

ขอบคุณทุกข้อมูลครับ



 

 ความคิดเห็นที่ 18  โดย คุณ ศิษย์มีอาจารย์  
 22 Jun 2006 11:58 #1086207    

อาจารย์ประยูรให้ข้อคิดเรื่องการอ่านหนังสือ ตำราไว้อย่างหนึ่งว่า
ตำราที่โหราศาสตร์นั้นเขียนขึ้นในขณะหนึ่ง แต่เมื่อโลกมีการพัฒนาเปลี่ยนไป เราต้องพัฒนาความคิดให้ทันสมัยด้วย แต่จะต้องไม่ลืมหลักการสำคัญคือ ปรัชญาของสิ่งต่างๆเหล่านั้น เช่น ในอดีต เมื่อกล่าวถึงดาวพุธเป็นการเดินทาง พาหนะที่ใช้ ก็อาจจะเป็นเพียง ม้า หรือวัวเทียมเกวียน ต่อมาเราก็พัฒนาว่า ดาวพุธ หมายถึงพาหนะที่ใช้เดินทาง รวมถึงรถยนต์ด้วย และในอนาคต พาหนะที่เราใช้เดินทางก็จะต้องพัฒนาขึ้นไปอีก แต่ก็ยังเป็นปรัชญาว่าด้วย พาหนะที่ใช้เดินทาง ส่วนจะใช้อะไรเป็นองค์ประกอบก็ต้องพิจารณากันเพิ่มขึ้นด้วย เช่น การใช้เชื้อเพลิง การใช้ระบบคอมพิวเตอร์ควบคุม เหล่านี้เป็นองค์ประกอบของรถ แต่ถ้าจะหมายถึงพาหนะเพื่อการเดินทาง ดาวดวงเดียวก็คือพุธ
นักโหราศาสตร์รุ่นหลังสามารถพัฒนาความหมายต่างๆเพิ่มเติมได้เพื่อให้ทันยุคสมัย แต่ต้องไม่ลืมหลักการสำคัญคือ ปรัชญาของปัจจัยหรือดาว และต้องไม่กล่าวหาว่า ของเดิมผิด ของใหม่ถูก

สิ่งที่ต้องการบอกกล่าวในนี้ก็คือ หนังสือของอาจารย์นั้นก็มีอายุการใช้งานในระยะหนึ่ง และต้องพิจารณาข้อความของอาจารย์ให้ถูกต้องด้วย เช่น ข้อความจาก คห.16

"ให้ผลการพยากรณ์แม่นยำ และละเอียดลึกซึ้งมากกว่าทฤษฎีเรือนชะตามากมาย ทฤษฎีเรือนชะตาจึงเริ่มเสื่อมความนิยมลงไป "
มาจากตำรา "หลัก" บทสำคัญบทหนึ่ง ของโรงเรียนโหราศาสตร์กรุงเทพฯ (พ.ศ. 2517)
พ.ศ. นั้น บางท่านในที่นี้ อาจจะยังไม่เกิด

นั่นคือความคิดเห็นของอาจารย์ ณ ห้วงเวลานั้นแต่ถ้าสังเกตุให้ดีจะพบว่า ในคำพูดของอาจารย์นั้นกล่าวว่า "เสื่อมความนิยม "แปลว่ามีคนใช้น้อยลงไป แต่ไม่ได้แปลว่าเรือนชะตาไม่ดีหรือไม่ถูกต้อง ไม่ควรนำมาใช้ การเสื่อมความนิยมจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม เราก็ไม่อาจจะรู้ได้ (การอ่านหนังสือตำราเก่าๆ ก็เหมือนการอ่านหนังสือประวัติศาสตร์ ที่เมื่อพูดถึงเหตุการณ์ใดๆก็ตาม เราต้องคิดด้วยความคิดของคนในสมัยนั้น เราก็จะได้ความคิดอย่างหนึ่ง แต่ถ้าเราเอาความคิดแบบคนปัจจุบันไปตัดสินสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีต เราอาจจะมีความคิดเห็นเป็นอีกแบบหนึ่ง)แต่ในขณะเดียวกันอาจารย์ประยูรก็ศึกษา ค้นคว้าตลอดเวลา จนกระทั่งล่าสุดก่อนอาจารย์จะถึงแก่กรรมไม่นานนัก อาจารย์ก็แปล และเขียนคัมภีร์สูตรเรือนชะตา ซึ่งแสดงว่า อาจารย์ประยูรได้ศึกษาเรื่องเรือนชะตาจนถึงระดับที่เข้าใจเป็นอย่างดี และได้สอนให้ลูกศิษย์ในรุ่นท้ายๆให้ได้เห็นความแหลมคมของเรือนชะตาบ้างแต่ยังไม่ทั้งหมด และเป็นที่น่าเสียดายที่ อาจารย์ประยูรได้ถึงแก่กรรมเสียก่อนที่หนังสือจะพิมพ์เสร็จ และยังไม่ทันที่อาจารย์จะได้นำมาสอนอย่างละเอียด และประการสำคัญ เมื่อมีการนำคัมภีร์สูตรเรือนชะตามาพิมพ์จำหน่าย ผู้ที่ซื้อไปแล้วอ่านทำความเข้าใจยากในระยะเวลาอันรวดเร็ว ก็เลยวางมือ และหันไปใช้สูตรพระเคราะห์สนธิตามเดิม เลยอาจจะกลายเป็นที่มาของความเข้าใจว่า ยูเรเนียนมี 2 ระบบ ตาม คห 4

การจะอ่านหนังสือโหราศาสตร์ให้เข้าใจ และการฝึกฝนจนชำนาญ ล้วนแต่ต้องใช้เวลาทั้งสิ้น คนที่ยังอยู่ในวัยหนุ่ม หรือแม้แต่ผู้ที่อยู่ในวัยผู้ใหญ่ก็ตามแต่ติดยึดเรื่องความเร็ว อยากได้สิ่งต่างๆเร็วๆ เมื่อไม่ได้ดังใจก็บอกว่าสิ่งนั้นไม่ดีหรือเลิกสนใจไปเลยเหมือนที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วในอดีต นี่ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง คือ เวลากับพื้นที่ เมื่อครอบครองสิ่งใดในเวลาอันสั้น คุณก็ครอบครองสิ่งนั้นในพื้นที่อันจำกัด แต่ถ้าใช้เวลาการครอบครองยาวนานก็จะสามารถครอบครองพื้นที่ได้มากขึ้น



 

 ความคิดเห็นที่ 19  โดย คุณ ศิษย์ อ.คนหนึ่ง  
 22 Jun 2006 12:52 #1086241   

เรื่องทฤษฎีระบบเรือนชะตาและพระเคราะห์สนธิมักมีข้อถกเถียงกันเป็นประจำ สำหรับผู้ที่ได้เคยศึกษาเล่าเรียนมาแล้วคงไม่มีปัญหาอะไร แต่ก็มีบางท่านพยายามแบ่งแยกออกจากกัน ทำให้คนที่ใหม่ต่อยูเรเนียนมึนงงไปได้เหมือนกัน

การกล่าวอ้างถึงคำสอนของ อ.ประยูรเป็นสิ่งที่ดี แต่ อ.ได้ให้ความเห็นในเรื่องเดียวกันหลายยุคสมัยที่อาจมีความเห็นแตกต่างกันไปบ้าง ทั้งนี้ผู้ที่ศึกษาเรียนรู้ต้องไตร่ตรองอีกครั้ง และพิจารณาถึงความประทับใจในผลของการพยากรณ์ตามหลักการที่ให้ไว้

เรื่องของระบบเรือนชะตา อ.ประยูรคงคาดการณ์ไว้ถึงการใช้ software ในอนาคต ที่ทำให้ระบบเรือนชะตาจะได้รับความนิยมน้อยลง และได้ย้ำกับลูกศิษย์เสมอว่าอย่าทิ้งเป็นอันขาดเพราะให้ผลการพยากรณ์ถึง 100%

และอาจเป็นเพราะว่าระบบนี้แฝงไว้ด้วยปรัชญาทางโหราศาสตร์มากมาย ทำให้ค่อนข้างยากกับการเรียนรู้และเข้าใจอย่างลึกซึ้ง และเห็นด้วยกับคุณศิษย์มีอาจารย์ที่ให้ข้อคิดเห็นต่างๆได้ดีครับ



 

 ความคิดเห็นที่ 20  โดย คุณ 7  
 22 Jun 2006 14:08 #1086290   

"หนังสือของอาจารย์นั้นมีอายุการใช้งานในระยะหนึ่ง"

"สิ่งที่ต้องการบอกกล่าวในนี้ก็คือ หนังสือของอาจารย์นั้นก็มีอายุการใช้งานในระยะหนึ่ง และต้องพิจารณาข้อความของอาจารย์ให้ถูกต้องด้วย เช่น ข้อความจาก คห.16 "

ตำราของโรงเรียนโหราศาสตร์ กรุงเทพฯ ยุคสุดท้าย ที่รวบรวม พิมพ์ใหม่ด้วยคอมพิวเตอร์ หนา 400 กว่าหน้า แบ่งเป็น 2 เล่ม (สงวนลิขสิทธิ์) โดยคุณวีระวรรณ พลอารีย์ หลังจากอาจารย์ท่านจากไปแล้ว ยังมีข้อความตาม คห.ที่ 7 ทุกประการ ปรากฎในตอนที่ 2 ทฤษฎีเรือนชะตา ข้อ 1.ทั่วไป

ซึ่งตรงกันข้ามกับความเห็นดังกล่าว
ตำราชุดดังกล่าวนี้ ผู้ที่เรียนยูเรเนียนรุ่นหลัง กับสำนักต่าง ๆ จึงต่างพยามยามแสวงหา ไว้เป็นสมบัติส่วนตัว
พูดได้เลยว่าตำรานี้มีอายุการใช้งาน มิใช่เพียงแค่ระยะหนึ่งเท่านั้น แต่เป็นนิรันดร์ เนื่องจากอาจารย์ท่านมองในมุมกว้าง ระดับโลก ไม่มองแคบเพียงแต่ภายในประเทศ และมิได้ให้ทิ้งทฤษฎีเรือนชะตา เพราะเป็นพื้นฐานสำคัญของวิชาโหราศาสตร์ ต้องเรียนรู้ทฤษฎีเรื่อนชะตาก่อนในลำดับแรก ตามที่ท่านเรียบเรียงไว้ในตำราชุดดังกล่าว เป็นบท ๆ ตามขั้นตอน

เพียงแต่บอกว่า ทฤษฎีพระเคราะสนธิ มีความละเอียด
ลึกซึ้ง ให้ผลการพยากรณ์แม่นยำกว่า จนความนิยมของโลกในทฤษฎีเรือนชะตา ลดลงไป ตามตัวอย่าง คห.ที่ 15



 

 ความคิดเห็นที่ 21  โดย คุณ Pallas  
 22 Jun 2006 17:42 #1086395   

ลางเนื้อชอบลางยาครับ ผมว่าความเห็นของคุณศิษย์มีอาจารย์ครอบคลุมประเด็นที่เราถกกันเกือบจะครบถ้วนแล้วครับ ไม่ได้โจมตีตำราที่คุณ 7 ยึดถือ แต่ให้ข้อคิดในการอ่านตำราทุกเล่ม
ถ้าคุณ 7 ระบุว่าตำราเล่มที่คุณถือเป็นฉบับล่าสุดของอ.ประยูร และถือว่าเป็นความเห็นที่กลั่นกรองจากอาจารย์ล่าสุด ก็แสดงว่าคัมภีร์สูตรเรือนชะตาซึ่งอาจารย์เรียบเรียนก่อนถึงแก่กรรมไม่นานนัก เป็นตำราที่อาจารย์เรียบเรียงทฤษฎีที่ให้ผลพยากรณ์แม่นยำและละเอียดลึกซึ้งน้อยอย่างนั้นหรือครับ
แต่ก็ยังรู้สึกดีที่คุณ 7 ยังอุตส่าห์เขียนว่ามิได้ให้ทิ้งทฤษฎีเรือนชะตา เพราะผมยังเชื่อว่า ทุกคนน่าจะมีสิทธิเลือกใช้ตามสถานการณ์ ความถนัดและความชอบ
และที่อ้างถึง คห.ที่ 15 (ผมเอง) ว่าความนิยมในทฤษฎีเรือนชะตาลดลงไป ท่านอ้างอิงไม่ครบนะครับ ไม่แน่ใจว่าอ่านทั้งหมดหรือเลือกอ่านบางส่วนหรือเปล่า สำนักท่าน Ruth เลิกใช้ทั้งเรือนชะตาและพระเคราะห์สนธินะครับ (ไม่ใช่เลิกใช้แต่เรือนชะตา) ถ้าเชื่อว่าความเห็นท่าน Ruth เป็นความนิยมส่วนใหญ่ในต่างประเทศ แสดงว่าต่างประเทศเชื่อว่าทฤษฎีศูนย์รังสี (Midpoint) ให้ผลการพยากรณ์แม่นยำกว่าทั้งพระเคราะห์สนธิและเรือนชะตาจนความนิยมทั้ง 2 ทฤษฎีลดลงไป ก็แปลว่า เราควรจะเชิดชูทฤษฎีศูนย์รังสีขึ้นมาเหนือทั้ง 2 ทฤษฎีที่เราคุยกันอยู่หรือเปล่าครับ
ความหมายโดยนัยของผมในคห.ที่ 15 ก็คือ ในโลกนี้มีสำนักโหราศาสตร์หลายสำนัก แม้กระทั่งสำนักยูเรเนียน ก็ยังแตกแขนงออกเป็นอีกหลายสำนักย่อย ขนาดท่าน Ruth ซึ่งเป็นปรมาจารย์รุ่นแรกๆของสำนักฮัมบูร์กยังมีความเห็นไม่ตรงกับสำนักฮัมบูร์กในปัจจุบันเลย
โชคดีที่ในเมืองไทย ทั้งอาจารย์ประยูรและอาจารย์จรัลต่างถ่ายทอดทุกทฤษฎีที่สอนในสำนักฮัมบูร์กมายังเมืองไทย ทำให้ทุกคนมีโอกาสที่จะศึกษาและเลือกใช้ตามสถานการณ์ ความถนัดและความชอบของแต่ละคน



 

 ความคิดเห็นที่ 22  โดย คุณ 7 (AMol)  
 22 Jun 2006 22:18 #1086535   

เพิ่งจะทราบว่า " ศูนย์รังสี" เป็นอีกทฤษฎีหนึ่ง

"แสดงว่าต่างประเทศเชื่อว่าทฤษฎีศูนย์รังสี (Midpoint) ให้ผลการพยากรณ์แม่นยำกว่าทั้งพระเคราะห์สนธิและเรือนชะตา"

เท่าที่รู้มาทฤษฎีพระเคราะห์สนธิ โดยสรุปแล้ว พัฒนามาจากการทำมุมของดาว มีรูปแบบ
A ดาวโดด
A/B ศูนย์รังสี
A+B-C จุดอิทธิพล หรือ A+B+C
และ......

" ศูนย์รังสี " จึงเป็นเพียงรูปแบบหนึ่ง ในทฤษฎีพระเคราะห์สนธิ หาใช่เป็นทฤษฎีใหม่แต่อย่างใด

ท่านผู้อ่าน และ จขกท. อย่าเพิ่งสับสน แค่ 2 ทฤษฎียังสับสนกับความเข้าใจที่ถูกต้อง อะไรมาก่อนหลัง มีทฤษฎีที่ 3 ขึ้นมาอีก ยุ่งกันใหญ่

ความเห็นที่ 7 เป็นข้อเขียนของท่านอาจารย์ล้วน ๆ ท่านจะตีความอย่างไร ก็แล้วแต่ ความสามารถของท่าน และไม่เคย พาดพิงถึงคัมภีร์สูตรเรือนชะตา มาท้าทายเหมือนที่ท่านคิดแต่ประการใด

"แสดงว่าคัมภีร์สูตรเรือนชะตาซึ่งอาจารย์เรียบเรียนก่อนถึงแก่กรรมไม่นานนัก เป็นตำราที่อาจารย์เรียบเรียงทฤษฎีที่ให้ผลพยากรณ์แม่นยำและละเอียดลึกซึ้งน้อยอย่างนั้นหรือครับ"

ความจริง จะไม่ขอแสดงความคิดเห็นอะไรอีกแล้ว ตามที่แถลงไว้ใน กระทู้ 836997 แต่ คห.21พาดพิง
จึงต้องออกมาอีกครั้ง

ส่วนใคร จะโต้จะตอบมาอย่างไร สุดท้ายแล้วสำหรับเว็บแห่งนี้ ขอคืนทั้งพื้นที่และเวลา ให้กับผู้มาใหม่ทุก ๆ ท่าน เพื่อความสบายใจเจ้าของเว็บด้วย

AMol



 

 ความคิดเห็นที่ 23  โดย คุณ ชาญชัย  
 23 Jun 2006 11:27 #1086750   

1. เห็นด้วยกับความเห็นที่ 22 ศูนย์รังสี และจุดอิทธิพลเป็นเพียงส่วนหนึ่งของทฤษฎีพระเคราะห์สนธิเท่านั้น ทฤษฎีพระเคราะห์สนธิก็คือทฤษฎีดาวทำมุมถึงกันนั่นเอง ซึ่งมีมาแต่โบราณแล้วก่อนหน้าสมัยของท่านอัลเฟรด วิตเต้ โหราศาสตร์ระบบของท่านวิตเต้เพียงเพิ่มศูนย์รังสีและจุดอิทธิพล รวมถึงจุดสะท้อนเข้าไปในทฤษฎีพระเคราะห์สนธิด้วยเท่านั้น ดังตัวอย่างต่อไปนี้ถือเป็นโครงสร้างพราะเคราะห์สนธิทั้งสิ้น

Sun = Mars = Venus เป็นโครงสร้างพระเคราะห์สนธิ ซึ่งก็คือทฤษฎีปัจจัยเดี่ยวทำมุมถึงกันที่มีมาแต่โบราณแล้วนั่นเอง
Sun = Mars = Uranus/Apllon เป็นโครงสร้างพระเคราะห์สนธิ
Sun/Mars = Venus/Jupeter = Hades/Poseidon = - (Mars/Vulcanus )เป็นโครงสร้างพระเคราะห์สนธิ
Sun/Saturn = -Jupetr = Mars = Uranus+Apollon - Sun = - (Meridian + Cupido - Neptune) เป็นโครงสร้างพราะเคราะห์สนธิ
สรุปคือการที่ปัจจัยใดๆทางโหราศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็นปัจจัยเดี่ยว ศูนย์รังสี จุดอิทธิพล รวมถึงจุดสะท้อนของจุดดังกล่าว เมื่อมาทำมุมที่มีฤทธิ์ (ส่งอิทธิพลถึงกัน เช่น ทำมุมเป็นจำนวนเท่าของ 45 องศา)ถึงกัน ถือเป็นโครงสร้างพระเคราะห์สนธิทั้งสิ้น

2. ท่านอาจารย์ประยูรกล่าวในชั้นเรียนว่าในโลกนี้มีทฤษฎีการพยากรณ์ทางโหราศาสตร์ที่สำคัญอยู่ 2 ทฤษฎีคือ ทฤษฎีพระเคราะห์สนธิและทฤษฎีเรือนชะตา

ยังมีทฤษฎีการพยากรณ์อื่นๆอีก เช่น ทฤษฎีการโคจรไปสู่ ฯลฯ (หนังสือทฤษฎีการพยากรณ์ ของท่านอาจารย์ประยูรฯ)

3. ตามหลักสูตรที่ท่านอ.ประยูรฯใช้สอนจนวาระสุดท้ายในชีวิตของท่านนั้น เนื้อหาหลักเป็นทฤษฎีพระเคราะห์สนธิ โดยมีคัมภีร์สูตรพระเคราะห์สนธิเป็นตำราหลัก เสริมด้วยทฤษฎีเรือนชะตาแบบโบราณ โดยเน้นที่การใช้เรือนที่1, 4, 7, 10 เพื่อนำไปใช้ประกอบกับทฤษฎีพระเคราะห์สนธิ และความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับทฤษฎีเรือนชะตาของโรงเรียนโหราศาสตร์ฮัมเบิกร์ซึ่งใช้คัมภีร์สูตรเรือนชะตาเป็นหลัก

4. ท่านกล่าวย้ำว่าทั้งสองทฤษฎีใช้พยากรณ์ได้แม่นยำเท่าเทียมกัน จะใช้เพียงทฤษฎีหนึ่งทฤษฎีใดก็ได้ หรือจะใช้ทั้งสองทฤษฎีร่วมกันก็ได้ ข้อดีของการใช้สองทฤษฎีร่วมกันคือบางโครงสร้างวิเคราะห์ได้ง่ายด้วยทฤษฎีพระเคราะห์สนธิ บางโครงสร้างวิเคราะห์ได้ง่ายด้วยทฤษฎีเรือนชะตา ดังนั้นการใช้ทั้งสองทฤษฎีในบางกรณีจะช่วยให้การวิเคราะห์ดวงชะตาทำได้ง่ายขึ้น

5. ท่านกล่าวว่าทฤษฎีพระเคราะห์สนธินั้นเรียนง่าย เข้าใจง่ายกว่า ใช้เวลาเรียนน้อยกว่า การนำไปใช้งานก็ง่าย ส่วนทฤษฎีเรือนชะตาของฮัมเบิกร์นั้นเป็นเรื่องของปรัชญาความเข้าใจที่ซับซ้อนและลึกซื้งมาก การเรียนให้เข้าใจถึงระดับนำไปใช้งานได้ต้องใช้เวลาหลายปี (จำไม่ได้ว่ากี่ปีแน่ แต่นานมาก อาจราวๆ 5-6 ปีหรือมากกว่านั้น 10 ปี?)

6. น่าเสียดายที่ท่านอาจารย์ถึงแก่กรรมก่อนคัมภีร์สูตรเรือนชะตาของฮัมเบิกร์จะพิมพ์เสร็จเป็นรูปแล่ม และเท่าที่ทราบท่านไม่เคยสอนหลักสูตรเรือนชะตาของฮัมเบิกร์อย่างเต็มรูปแบบให้กับใคร เคยพบเอกสารคำสอนหลักสูตรก้าวหน้าบางส่วนของท่านเป็นบางหัวเรื่องในทฤษฎีสูตรเรือนชะตาของฮัมเบิกร์เท่านั้น

7. ที่ท่านอ.ประยูรฯกล่าวว่าการใช้ทฤษฎีพระเคราะห์สนธิหรือทฤษฎีเรือนชะตาก็ พยากรณ์ได้แม่นยำเหมือนกันนั้น ผมคิดว่าต้องมาตีความตรงคำว่าทฤษฎีเรือนชะตาที่ท่านพูดถึงว่าหมายถึงทฤษฎีใด กันแน่ เพราะคำว่าทฤษฎีพระเคราะห์สนธินั้นชัดอยู่ในตัวเองแล้ว และเนื้อหาหลักตามหลักสูตรที่ท่านสอนก็คือทฤษฎีพระเคราะห์สนธิเช่นกัน แต่ทฤษฎีเรือนชะตานั้นผมคิดว่าน่าจะหมายถึงทฤษฎเรือนชะตาของฮัมเบิกร์ เพราะทฤษฎีเรือนชะตาแบบโบราณที่ท่านนำบางส่วนมาสอนในชั้นเรียนนั้นเป็นการนำ เฉพาะหลักสำคัญและส่วนที่จะนำมาใช้ประกอบในพยากรณ์อย่างได้ผลกับทฤษฏี พระเคราะห์สนธิ ผมเคยอ่านพบในเอกสารคำสอนฉบับหนึ่งของท่านว่า รูปแบบหนึ่งที่ท่านเห็นว่าดีคือ การใช้ทฤษฎีพระเคราะห์สนธิเสริมด้วยทฤษฎีเรือนชะตาของโบราณ โดยเฉพาะในเรื่องของเรือนที่ 1, 4, 7, 10 ซึ่งถ้าใครเคยอ่านเอกสารคำสอนของท่านมาพอสมควรจะพบว่าท่านเน้นเรื่องของ เรือนที่ 1, 4, 7, 10 เสมอ โดยให้ใช้เรือนชะตาเมอริเดียนเป็นหลักในการอ่านเรือนชะตา ส่วนเรือนชะตาของฮัมเบิกร์หากใครมีความรู้อยู่บ้างจะนำเข้ามาเสริมอีกก็ได้

8. ดังนั้นที่ท่านอาจารย์กล่าวว่าใช้ทฤษฎีพระเคระห์สนธิหรือทฤษฎีเรือนชะตาก็พยากรณ์ได้แม่นยำเหมือนกันนั้น ผมคิดว่าคำว่าทฤษฎีเรือนชะตาในที่นี้ท่านน่าจะหมายถึงทฤษฎีเรือนชะตาของฮัมเบิกร์

9. อย่างไรก็ตาม ในเยอรมันคนที่จะศึกษาทฤษฎีเรือนชะตานั้นจะต้องศึกษาทฤษฎีพระเคราะห์สนธิก่อนจนเชี่ยวชาญแล้ว ดังนั้น เมื่อเวลาที่เขากล่าวว่าเขาไช้ทฤษฎีเรือนชะตานั้น ความจริงเขาใช้ทฤษฎีพระเคราะห์สนธิด้วยอยู่แล้ว ยกตัวอย่างเช่นการพิจารณาว่าแม่เรือนใดมีกำลังหรือไม่ อย่างไร ถ้าไม่พิจารณาจากพระเคราะห์สนธิเขาจะทราบได้อย่างไรเป็นต้น ส่วนทฤษฎีเรือนชะตาของโบราณนั้นย่อมต้องศึกษาเป็นพื้นฐานในการเริ่มเรียนโหราศาสตร์อยู่แล้วเช่นกัน

10. เนื่องจากท่านอาจารย์ประยูรฯได้ทำการศึกษาค้นคว้าและเขียน ตำรา เอกสาร คำสอน คำบรรยาย และบทความต่างๆไว้เป็นอันมาก ตราบจนวาระสุดท้ายแห่งชีวิตของท่าน ท่านเคยกล่าวไว้ว่าตราบใดที่ดวงดาวยังโคจรอยู่ การศึกษาค้นคว้าทางโหราศาสตร์ก็จะต้องดำเนินต่อไปอย่างไม่สิ้นสุดเช่นกัน ยังมีสิ่งที่เราไม่รู้ เรื่องราวที่จะต้องค้นคว้ากันอีกมากมาย ผมมีความเห็นว่าบทความ เอกสารคำสอนต่างๆของท่านนั้น จะต้องสะท้อนพัฒนาการทางความรู้และแนวคิดของท่านตามระยะเวลาด้วย ดังนั้นในการเอ่านเอกสารคำสอนของท่านนั้น จึงจำเป็นต้องดูวันเดือนปีที่ท่านจัดทำเอกสารนั้นด้วย เพราะย่อมต้องมีกรณีที่ข้อเขียนดังกล่าวไม่สอดคล้องหรืออาจขัดกันบ้างในบางเรื่องบางประเด็น ซึ่งนอกจากจะต้องพิจารณาเนื้อหาที่ไม่สอดคล้องกันดังกล่าวอย่างละเอียดครอบคลุมแล้ว ยังต้องดูวันเวลาที่จัดทำเอกสารด้วย เพราะเอกสารที่จัดทำภายหลังกว่าย่อมมีแนวโน้ม จะสะท้อนผลการค้นคว้าปรับปรุงเนื้อหาและแนวคิดของท่านได้ดีกว่าเอกสารที่จัดทำก่อนหน้า

11. สรุป ผมมีความเห็นว่า
11.1 ศูนย์รังสี จุดอิทธพล จุดสะท้อน ฯลฯ เป็นเพียงส่วนหนึ่งของทฤษฎีพระเคราะห์สนธิเท่านั้น
11.2 คำกล่าวของท่านอ.ประยูรฯที่ว่า จะใช้ทฤษฎีพระเคราะห์สนธิ อย่างเดียว ใช้ทฤษฎีเรือนชะตาอย่างเดียว หรือใช้ประกอบกันทั้งสองทฤษฎี ก็พยากรณ์ได้แม่นยำเช่นเดียวกัน นั้น คำว่า "ทฤษฎีเรือนชะตาอย่างเดียว " น่าจะหมายถึงทฤษฎีเรือนชะตาของฮัมเบิกร์ที่มีคัมภีร์สูตรเรือนชะตาเป็นตำราหลัก
11.3 ตามคำอธิบายของท่านอาจารย์ ทฤษฎีพระเคราะห์สนธินั้นใช้เวลาเรียน 6 เดือนตามหลักสูตรของท่านก็สามารถนำไปใช้งานได้แล้ว แต่การเรียนทฤษฎีเรือนชะตา (ฮัมเบิกร์) นั้นใช้เวลานานมากอาจจะ 5 - 10 ปี ดังนั้นผมคิดว่าไม่เฉพาะแต่ในเยอรมันเท่านั้น แม้แต่ในประเทศไทยเราก็คงจะเช่นเดียวกัน คือต้องศึกษาทฤษฎีพระเคราะห์สนธิจนเชี่ยวชาญก่อนจึงค่อยไปศึกษาต่อทฤษฎีเรือนชะตา (ฮัมเบิกร์) ดังนั้นคนที่บอกว่าเขาใช้ทฤษฎีเรือนชะตา (ฮัมเบิกร์) อย่างเดียวนั้น ความจริงเขาใช้ทฤษฎีพระเคราะห์สนธิไปด้วยพร้อมกันอยู่แล้ว เช่นการวิเคราะห์ความแรงของแม่เรือนนั้นถ้าไม่ใช้ทฤษฎีพระเคราะห์สนธิจะวิเคราะห์ๆได้อย่างไร
11.4 เคยมีเอกสารคำสอนของท่านอาจารย์ประยูร สนับสนุนว่า การใช้ทฤษฎีพระเคราะห์สนธิเป็นหลักเสริมด้วยทฤษฎีเรือนชะตาของโบราณโดยเน้นที่เรือนที่ 1, 4, 7, 10 เป็นวิธีการที่ดีวิธีหนึ่ง ส่วนทฤษฎีเรือนชะตาของฮัมเบิกร์นั้นถ้าใครพอมีความรู้อยู่บ้างจะนำมาเสริมด้วยอีกก็ได้



 

 ความคิดเห็นที่ 24  โดย คุณ จขกท  
 23 Jun 2006 13:14 #1086782   

ขอบพระคุณมากครับที่ให้ความกระจ่าง
อ่านแล้วค่อยมี พลังฮึดขึ้นมาหน่อยครับ

(มี อจ. ซุ่มๆอยู่หลายคนเลยนะครับ)



 

 ความคิดเห็นที่ 25  โดย คุณ แซวเล่น  
 23 Jun 2006 13:24 #1086783   

แต่ อจ.ที่เปิดตัว ต้องกลับไปซุ่ม ก็มีนะครับ



 

 ความคิดเห็นที่ 26  โดย คุณ Pallas  
 23 Jun 2006 16:15 #1086833   

เห็นด้วยกับข้อสรุปและขอบคุณคุณชาญชัยมากครับ ทำให้ผมมีความรู้เพิ่มขึ้นอีกเยอะ ผมชอบความเห็นแบบนี้ครับ สร้างสรรค์ ให้ข้อมูลครบถ้วน ชัดเจน ไม่โจมตีใคร
เรื่องศูนย์รังสี (midpoint) ที่ผมเขียนในความเห็นที่21 เป็นการยกตัวอย่างกระทบความพยายามเชิดชูระบบใดระบบหนึ่งขึ้นมาเท่านั้นเองครับ เพราะในโลกนี้มีสำนักมากมายเหลือเกิน
จริงๆก็ทราบอยู่แล้วครับว่าทฤษฎีพระเคราะห์สนธิครอบคลุมตั้งแต่ ปัจจัยเดี่ยว, ศูนย์รังสี, พระเคราะห์สนธิหรือจุดอิทธิพล (sensitive point) เพียงแต่อยากให้ข้อมูลว่าสำนักท่าน Ruth ใช้เฉพาะปัจจัยเดี่ยวกับศูนย์รังสี ไม่ใช่ sensitive point 3 ปัจจัยขึ้นไป (แต่ไม่ได้แปลว่าผมเชื่อในสำนักนี้นะครับ) จะเรียกว่าทฤษฎีพระเคราะห์สนธิแขนงใหม่ก็คงจะพอได้ อีกอย่างผมคงใช้คำผิดไป คือแปล sensitive point ว่าพระเคราะห์สนธิ ซึ่งถ้าใช้จุดอิทธิพลจะชัดเจนกว่า



 

 ความคิดเห็นที่ 27  โดย คุณ ศิษย์มีอาจารย์  
 23 Jun 2006 16:43 #1086836   

การแสดงความเห็นต่างๆในกระดานสนทนาแบบนี้มีข้อจำกัดอย่างหนึ่ง คือการไม่เห็นหน้าซึ่งกันและกัน การที่จะอธิบายหลักการและเหตุผลต่างๆเพื่อทำความเข้าใจที่ถูกต้องตรงกันนั้นก็เป็นไปได้ยาก การถกเถียงที่เกิดขึ้นนั้น เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้เสมอ การให้ความเห็นของหลายๆท่านก็มีเจตนาที่ต้องการทำให้เกิดความเข้าใจที่ดี สิ่งหนึ่งที่เกิดขึ้นก็คือ หลายคนที่เข้ามาอ่าน หรือแสดงความเห็นจะเป็นผู้ที่เริ่มสนใจ หรือสนใจนานแล้ว หรือเรียนมาจากสำนักต่างๆ รวมทั้งเรียนรู้ด้วยตนเอง แล้วนำสิ่งที่ตนเข้าใจมาเป็นตัวตั้งและแสวงหาคำตอบที่ตนเองต้องการ

สมัย ที่ผมเรียนกับอาจารย์ประยูรนั้น ผมโชคดีที่ไม่มีความรู้มาก่อน และเปิดใจรับฟังสิ่งต่างๆที่อาจารย์ถ่ายทอดให้ด้วยความตั้งใจและนำกลับมาคิด ทบทวนตามที่อาจารย์สอน และฝึกใช้ตามที่อาจารย์สอน และจากการที่ได้พบเห็นดวงชะตาต่างๆมามากพอสมควร ก็จะมีสิ่งอื่นๆที่นอกเหนือจากที่ได้รับฟังจากอาจารย์มา ผมต้องเก็บสิ่งเหล่านี้มาทบทวนคำสอนของอาจารย์จนกระทั่งได้คำตอบและนำไป เรียนถามจากอาจารย์ว่าสิ่งที่ผมเข้าใจนั้นถูกต้องหรือไม่ ก็จะได้รับข้อชี้แนะที่ผมนำมาปรับใช้ตลอดเวลา
การที่หลายๆคนมักจะแสวงหาบทเรียนหรือคำสอนของอาจารย์ประยูรจากแหล่งต่างๆนั้นเป็นสิ่งที่ดี อาจารย์ประยูรสอน 2 แห่ง คือที่สมาคมโหร และที่โรงเรียนโหราศาสตร์กรุงเทพ ลูกศิษย์ของอาจารย์แต่ละคน แต่ละรุ่น แต่ละชั่วโมงเรียนจะได้เนื้อหาสาระในหลักการทำนองเดียวกันทั้งสิ้น แต่สิ่งที่จะแตกต่างกันคือ เกร็ดต่างๆ ที่อาจารย์จะแนะนำซึ่งจะแตกต่างกัน แล้วแต่ว่า ณ เวลานั้น มีเหตุการณ์อะไรน่าสนใจ หรือ ณ เวลานั้น อาจารย์เกิดนึกอะไรได้และต้องการถ่ายทอด ลูกศิษย์ ณ เวลานั้นก็จะได้รับฟังคำสอนนั้น คนที่เรียนเมื่อหลายปีก่อนอย่างต่อเนื่องเกิน 15 ปีหลายท่านเล่าให้ฟังว่า บางเรื่องที่อาจารย์สอนนั้น ตั้งแต่เรียนมา 15 ปี เพิ่งจะได้ยินเป็นครั้งแรก เพราะฉนั้น ลูกศิษย์ของอาจารย์แต่ละคนก็จะได้รับสิ่งต่างๆจากอาจารย์ต่างเวลา และเกร็ดที่แตกต่างกัน ลูกศิษย์ที่เรียนกับอาจารย์สมัยก่อน แต่ละคนจะเฝ้าติดตามเรียนอย่างต่อเนื่อง เกิน 10 ปีทั้งนั้น เพราะฉนั้นแต่ละคนก็จะได้รับสิ่งต่างๆจากอาจารย์มากกว่าคนที่คิดตามเรียนกับอาจารย์ในระยะเวลาสั้นๆ

ทั้งหมดนี้ไม่ได้มีเจตนาอะไร เพียงอยากเล่าเรื่องเก่าๆให้รับรู้กัน เผื่อจะเป็นประโยชน์บ้าง



 

 ความคิดเห็นที่ 28  โดย คุณ ศิษย์ อ.คนหนึ่ง  
 23 Jun 2006 18:09 #1086885   

เวปคุณโรจน์ทำได้แค่นี้ก็ดีแล้วครับ ศิษย์อาจารย์เดียวกันได้มาพูดคุย อย่างน้อยก็เป็นแนวทางสำหรับผู้สนใจหรือกำลังศึกษายูเรเนียนได้ข้อคิดและความรู้บ้างพอสมควร

เชื่อว่ายังมีลูกศิษย์อ.ประยูรและ อ.จรัลอีกมากที่ยังไม่รู้จักเวปนี้ด้วยซ้ำ ต้องฝากคุณโรจน์ด้วยนะครับ

 




โหรา-กระทู้เก่า

วิทยาศาสตร์ * โหราศาสตร์ * เกี่ยวข้องกันอย่างไร วันที่ 02/10/2010   15:11:03
เรียนโหรได้ไหมถ้าใจร้อน? วันที่ 22/10/2010   21:46:21
กรณีศึกษา ฟุตบอลโลก 2006 รอบสี่ทีมสุดท้าย วันที่ 11/07/2010   21:18:42 article
กรณีศึกษา เดาผลฟุตบอลโลก 2006 คู่ชิงที่ 3 และชิงชนะเลิศ วันที่ 11/07/2010   21:18:26 article
โหราศาสตร์ยูเรเนียน กับ ความรู้แบบกระเส็นกระสาย วันที่ 27/07/2009   20:02:53
คนที่หน้าตาดี เราดูจากอะไรได้บ้าง วันที่ 27/07/2009   19:58:40
อยู่กับดาวทิพย์เป็นดาวสันโดษหรือไม่ วันที่ 27/07/2009   19:53:39
เรือนเมอริเดียน วันที่ 27/07/2009   19:51:38
ดาวทิพย์เดินถอยหลังได้ไหม วันที่ 27/07/2009   19:47:59
วังกะ กับ ขนาดของมุม อะไร สำคัญกว่า วันที่ 27/07/2009   19:44:28
การอ่านออกเสียงศัพท์โหราศาสตร์บางคำ วันที่ 27/07/2009   19:41:50
การเขียนโปรแกรมเช็คดาวพักร เสริด มนท์ วันที่ 10/06/2010   13:13:02 article
สงสัยคำว่า"ดาวพระเคราะห์ใดๆก็ตาม"ในบทความเรื่อง"การตรวจสอบความสำเร็จในชีวิต" วันที่ 27/07/2009   19:29:43
ความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลของระบบเรือนชะตา วันที่ 27/07/2009   19:23:21
เรื่องการคำนวณทางโหราศาสตร์ วันที่ 10/08/2009   10:04:07
ปฏิทินที่ถูกต้อง วันที่ 27/07/2009   19:17:09
ศูนย์รังสีคู่ครอง วันที่ 27/07/2009   19:11:45
ฮวงจุ้ยกับยูเรเนียน วันที่ 27/07/2009   19:08:27
จุดอิทธิพลที่หมายถืงผู้แทนขายประกันชีวิต วันที่ 27/07/2009   19:05:15
คำออกเสียง ชื่อ ดาวทิพย์ แบบอเมริกัน วันที่ 27/07/2009   19:02:35
Alfred WITTE วันที่ 27/07/2009   18:57:13
การแปลความหมายจุดเจ้าชะตาและจุดอื่นๆ วันที่ 27/07/2009   10:38:08
Virgo vs Alogic (?) วันที่ 27/07/2009   10:33:58
โค้งสุริยาตร์ พยากรณ์ได้จริงหรือ วันที่ 27/07/2009   10:30:54
เรื่องของราศี วันที่ 27/07/2009   10:26:54
อ่านและดาวน์โหลดคัมภีร์โบราณที่เป็นพื้นฐานของโหราศาสตร์ตะวันออกและตะวันตกได้ที่เว็บนี้ วันที่ 27/07/2009   10:24:04
จริยธรรมของนักโหรศาสตร์ควรเป็นอย่างไร วันที่ 27/07/2009   10:19:02
สมพงษ์ดวงชะตา เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ กับ คามิลา ปาร์คเก้อร์ โบวเลส วันที่ 27/07/2009   10:12:36
ใครเชื่อเรื่องFree will บ้าง วันที่ 27/07/2009   10:06:24
คุณสมบัติของอาจารย์โหรควรเป็นอย่างไร วันที่ 27/07/2009   10:02:22
ณ.ปัจจุบันควรมีการสังคยานาสูตรพระเคราะห์สนธิกันหรือไม่ วันที่ 27/07/2009   09:54:53
อุบัติเหตุ รถไฟฟ้าใต้ดิน (2548) วันที่ 27/07/2009   09:46:48
ขอคำแนะนำสำหรับก้าวแรกในการศึกษา "ยูเรเนียน" วันที่ 27/07/2009   09:38:08
ไม่เข้าใจความหมายของคำว่าผูกพันไปถึง วันที่ 27/07/2009   09:34:58
สงสัยเรื่องวิธีอ่านดวงที่เอาอาทิตย์ของนาย ก ไปใส่ในดวงนาย ข วันที่ 27/07/2009   09:26:58
แผ่นดินไหวอินโด คลื่นยักษ์ถล่มภาคใต้ (สึนามิ) วันที่ 27/07/2009   09:29:10
ถ้าเกิดที่จังหวัดหนึ่งแล้วแต่บ้านไปอยู่ที่จังหวัดอื่นการทำนายจะเปลี่ยนไปเปล่าคะ วันที่ 26/07/2009   22:50:07
ยูเรเนี่ยน ดูดวงโลก ได้หรือไม่ วันที่ 26/07/2009   22:47:29
ดวงนวางค์จักร วันที่ 26/07/2009   22:42:58
ดวง 10 ลัคนา วันที่ 26/07/2009   22:24:36
ดวงดาวมีอิทธิพลกับชีวิตมนุษย์กี่ % วันที่ 26/07/2009   22:15:46
โหราศาสตร์ไม่ใช่การแก้ปัญหาโดยตรง วันที่ 27/07/2009   10:24:45
ดวง Hitler ถึงแก่กรรม และอื่นๆ วันที่ 00/00/0000   00:00:00
ตำแหน่งที่ดาวร้ายให้ผลด้านดีได้ วันที่ 26/07/2009   22:06:26 article
การตั้งค่า โปรแกรม Astrolog วันที่ 26/07/2009   22:06:09 article
จุดโหราศาสตร์ในดวง วันที่ 26/07/2009   22:05:44 article
พฤ+คร-วค// จุดนายกรัฐมนตรี ดวงวันเลือกตั้ง 6 ก.พ.2548 วันที่ 26/07/2009   22:05:26 article
ชื่อราศี "มกร" หรือ "มังกร" วันที่ 26/07/2009   22:05:04 article
ผู้สมัครชิงตำแหน่งผู้ว่ากรุงเทพฯ 2547 วันที่ 26/07/2009   22:04:35 article
จานสองชั้นเป็นยังไงครับ วันที่ 26/07/2009   22:04:17 article
มุม 11.25 องศา วันที่ 26/07/2009   22:03:51 article
กลอนโหรห้ามทำนาย วันที่ 26/07/2009   22:03:33 article
ของฝากจากอาจารย์อดิเทพ : ดวงผู้รอดชีวิตจากเกาะพีพี ในเหตุการณ์ สึนามิ 2547 วันที่ 00/00/0000   00:00:00
อังคาร+เนปจูน-มฤตยู //จำเป็นฆ่าสัตว์เนื่องจากป่วยเป็นโรค วันที่ 00/00/0000   00:00:00 article
ดวงเหตุการณ์ระเบิดปรมาณูที่ ฮิโรชิมา และ นางาซากิ วันที่ 00/00/0000   00:00:00 article
พิจารณาความแรงของศุกร์ อ้างถึงบทความเรื่อง การวิเคราะห์และประเมินความแรงของดาวพฤหัสฯ วันที่ 00/00/0000   00:00:00 article
ดูดวงดาวดัง วันที่ 26/07/2009   22:02:40 article
งานวิจัย เรื่อง สมาธิ ของ อเมริกัน วันที่ 26/07/2009   22:02:22 article
ปรัชญาของดาวกับการคิดเชิงบูรณาการและการเมือง วันที่ 26/07/2009   22:02:03 article
ความสำคัญ ของ จุดสะท้อน วันที่ 00/00/0000   00:00:00 article
จุด AR+MC-[MC/SU] และ AR+SU-[MC/SU] วันที่ 26/07/2009   22:01:42 article
เที่ยวบินเจ้าปัญหา??? วันที่ 00/00/0000   00:00:00 article
ความแตกต่างระหว่าง ยูเรเนียน ระบบ(?)ศูนย์รังสี และ ระบบ(?)เรือนชะตา วันที่ 26/07/2009   22:01:22 article
ความแตกต่างระหว่าง โหราศาสตร์ยูเรเนียน กับ โหราศาสตร์สากล และ โหราศาสตร์ไทย วันที่ 26/07/2009   22:01:03 article
น้ำมันเบนซิน และ น้ำมันดีเซล เทียบเป็น สูตรพระเคราะห์สนธิ วันที่ 26/07/2009   22:00:36 article



Copyright © 2010 All Rights Reserved.
| โหรา-ประวัติศาสตร์ | โหรา-ไอที | หลักโหรโดนใจ | บทความสมทบ | โหรา-โปรแกรม | ผู้จัดทำ/ผู้สนับสนุน | Site Map |

Custom Search


ติดต่อนายโรจน์ E-mail: webmaster@rojn-info.com
หรือ Mobile: 08-1697-3098
(อาจไม่สะดวกรับสายในบางเวลา)
ยังไม่เปิดสอนและไม่รับพยากรณ์เป็นส่วนตัว
กรุณาอย่าใช้โทรศัพท์หรือส่งอีเมล์มาขอดูดวง เพราะไม่มีเวลาตอบ



มูลนิธิสมาคมโหรแห่งประเทศไทยในพระสังฆราชูปถัมภ์ โหราศาสตร์แนว อ.จรัญ พิกุล - AstroClassical.com HoraUranian.com ดูดวง
โหราศาสตร์กับเครื่องประดับ บ้านฮวงจุ้ย (fengshuihut.com) ตลาดวิชาฮวงจุ้ยและดวงจีน ผูกดวง/ยูเรเนียนออนไลน์ (MyHora.com)

รวมลิงค์ : เว็บอื่นๆ ที่น่าสนใจ
eXTReMe Tracker