การแปลความหมายจุดเจ้าชะตาและจุดอื่นๆ วันที่ 27/07/2009 10:38:08
ขอความรู้ให้นักโหราศาสตร์มือใหม่ด้วยครับ
|
ในการดูพื้นดวงผมทราบมาว่าต้องดูจุดสำคัญๆคือ
อาทิตย์, เมอริเดียน, ลัคนา, จันทร์ และ เมษ
ผมสงสัยว่าการแปลความหมายเช่น
อาทิตย์ กับ ศุกร์ ต่างจาก เมอริเดียน, ลัคนา, จันทร์ และ เมษ กับ ศุกร์ อย่างไรครับ
จาก: Sunn [9 May 2005 01:02] ผู้ดู [172] ผู้ตอบ[3]
|
ความคิดเห็นที่ 1 โดย คุณ อดิเทพ
9 May 2005 22:39 #870460
|
ไม่ทราบว่าเรียนเองหรือมีครูสอนครับ
ถ้ามีหนังสือพระเคราะห์สนธิ ลองอ่านดู(อ่านช้าๆแล้วคิดตามทีละวรรค หมายถึงจินตนาการตามไปด้วย)น่าจะพอที่จะทำความเข้าใจได้
แต่ถ้าไม่ไหวจริงๆ หรือไม่มีครูแนะนำ ค่อยว่ากันใหม่
วิธีการเชิงปรัชญา: เวลาที่ผมสอน ผมมักจะไม่หุงข้าว ทำกับข้าวให้ลูกศิษย์ แต่ผมจะสอนว่ามีอะไรอยู่ที่ไหนบ้างและนำมาทำอะไรได้บ้าง เว้นแต่ว่าถ้าทำไม่ได้จริงจึงจะเข้าไปช่วย วิธีการเช่นนี้จะช่วยให้ผู้ที่กำลังเรียนรู้
มีพื้นฐานที่แน่น เพียงพอที่จะก้าวต่อไป
ขออภัยที่ไม่ได้ตอบตามคำถาม
|
ความคิดเห็นที่ 2 โดย คุณ ชาญชัย
13 May 2005 20:36 #872818
|
คำสอนหลักในโหราศาสตร์ยูเรเนี่ยนคือ "จุดเจ้าชะตาต้องมาก่อน" หมายความว่าโครงสร้างใดๆก็ตามหากจะก่อให้เกิดเหตุการณ์ที่ประทับใจไม่ว่าดีหรือร้ายขึ้นกับเจ้าชะตาแล้วละ ก็ โครงสร้างนั้นจะต้องสัมพันธ์ถึงจุดเจ้าชะตา ซึ่งตรงกับคำถามในกระทู้นี้ที่ยังขาด ราหูไปอีกหนึ่งจุด เพราะราหูถือว่าเป็นจุดเจ้าชะตาจุดหนึ่งเช่นเดียวกัน นอกจากนี้ท่านอาจารย์ประยูรยังได้เขียนไว้ในบทความอีกหลายแห่งว่า "โพไซดอน" ซึ่งแปลว่า "วิญญาณ" ด้วย ก็มีความหมายเป็นจุดเจ้าชะตาเช่นเดียวกัน
ในการแปลความหมายในขั้นพื้นฐานจึงต้องเข้าใจความหมายของจุดเจ้าชะตาแต่ละจุดก่อน ซึ่งเมื่อผสมความหมายเข้ากับปัจจัยที่มาสัมพันธ์ถึงก็จะเป็นความหมายที่เกิดขึ้นจากการผสมปัจจัยดังกล่าว ยกตัวอย่างเช่นที่ถามมา ถ้าเป็นเมอริเดียน ซึ่งหมายถึงตัวตนที่แท้จริงในระดับสัญชาติญาณ ถ้าสัมพันธ์ถึงอังคาร เจ้าชะตาจะเป็นคนดุ (หรือกล้าแข็ง หรือขยัน ฯลฯ ตามความหมายของอังคาร) ทุกเมื่อ ถ้าเป็นจันทร์ถึงอังคาร เมื่อจันทร์หมายถึงอารมณ์ จึงหมายถึงเจ้าชะตาจะเป็นคนดุเฉพาะเมื่อถูกกระตุ้นให้โมโหเท่านั้น ถ้าเป็นลัคนาซึ่งหมายถึงสิ่งแวดล้อม ก็แปลว่าผู้คนแวดล้อมของเจ้าชะตาเป็นคนดุ ซึ่งในขั้นการนำไปใช้นั้นก็จะแปลได้ว่าเจ้าชะตาเองก็เป็นคนดุเหมือนกัน ตามหลักพื้นฐานที่ว่าคนเราจะมีคุณลักษณะสมคล้อยไปตามสิ่งแวดล้อมของตน
นอกจากนี้ในการพยากรณ์จรผลของโครงสร้างที่กำลังทำงานตามกฎการทำงานของพระเคราะห์สนธิและได้รับการกระตุ้นจากปัจจัยจรบนท้องฟ้านั้น ปกติขอเพียงจุดเจ้าชะตาใดก็ได้ ถือว่าปัจจัยจรนั้นได้กระตุ้นให้เกิดเหตุการณ์ตามโครงสร้างเดิมที่กำลังทำงานแล้ว ยกตัวอย่างเช่น โครงสร้างเดิม เมอริเดียน = อังคาร/มฤตยู กำลังทำงานตามกฎการแสดงผลของพระเคราะห์สนธิเช่น แกนถึงแขน หรือแขนถึงแกน ปรากฏว่าในการพยากรณ์จรด้วยจังหวะฟ้าที่สำคัญ (สมมติดวงทินวรรษ) พบว่า อังคารจรถึงเมษ (รวมเมษV1,V2ด้วย) ราหูจรถึงอังคารกำเนิด (รวมอังคารV1,V2 ด้วย) เช่นนี้ถือว่า ครบวงจรแล้ว และโครงสร้าง เมอริเดียน = อังคาร/มฤตยู ในดวงกำเนิดจะปล่อยเหตุการณ์ในปีนั้น (กฎสำคัญในการพยากรณ์จรคือโครงสร้างดาวจรบนท้องฟ้าต้องสมคล้อยกับโครงสร้างในดวงชะตากำเนิดที่กำลังทำงานในขณะนั้น เหตุการณ์ตามโครงสร้างในดวงชะตากำเนิดดังกล่าวจึงจะบังเกิดขึ้น)
ความหมายและความเข้าใจอย่างลึกซื้งครอบคลุมในเรื่องของจุดเจ้าชะตานี้ นอกเหนือจากที่มีกล่าวไว้ในคัมภีร์สูตรพระเคราะห์สนธิแล้ว ท่านอาจารย์ประยูรได้เขียนอธิบายเพิ่มเติมไว้ในบทความและตำราที่ท่านเขียนหลายเล่มหลายบทความด้วยกัน โดยเนื้อหาที่ท่านเขียนไว้นั้นแต่ละแห่งแต่ละที่ล้วนให้แนวความคิดและมุมมองที่เป็นประโยชน์อย่างยิ่งเพิ่มขึ้นทั้งในทางทฤษฎีและการนำไปใช้
ท่านเจ้าของกระทู้คงจะต้องศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติมไปเรื่อยๆ เพราะยังมีที่เราไม่รู้อีกมากรวมถึงเรื่องของจุดเจ้าชะตานี้ด้วย หากยังไม่เข้าใจในประเด็นใดโพสมาคุยกันที่เว็บนี้ได้ครับ ผมเองก็อาจจะไม่รู้ไม่เข้าใจเหมือนกัน ในหลายประเด็น แต่ถ้ามีเวลาก็ยินดีจะหารือแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน นอกจากนี้ยังอาจมีท่านอื่นๆที่ยินดีจะร่วมแสดงความคิดเห็นกับเราอีกหลายท่านในเว็บนี้ก็ได้ ถูกผิดคงไม่เป็นไรถือว่าเป็นการร่วมกันแสดงความเห็นทางวิชาการครับ
หวังว่าที่ตอบมาคงจะช่วยชี้แนะเจ้าของกระทู้ได้บ้างไม่มากก็น้อย
|
|