ขออนุญาตคัดลอกคำแปลจากคัมภีร์สูตรเรือนชะตาที่คุณถามเกี่ยวกับความหมายของคำว่า “ผูกพันไปถึง” ซึ่งเป็นวลีหนึ่งในการแปลความหมายสำหรับกรณีที่ แอดเมตอส สถิตในเรือนที่ 10 เรือนชะตาเมอริเดียนกำเนิด เพื่อประกอบคำอธิบายของผมด้วยดังนี้
“แอดเมตอสในเรือนที่ 10 ของเมอริเดียน
เมอริเดียนในเรือนที่ 3 ของแอดเมตอส
ภาพนี้จะทำให้เจ้าชะตาเหมือนกับท่อนไม้เป็นภาระในสิ่งแวดล้อม เขาทำตัวเหมือนกับเป็นตัวถ่วงหรือตัวจำกัด เจ้าชะตาจะตีกรอบไว้ทุกหนทุกแห่งเพราะตัวเองก็ถูกผูกมัดอยู่จึงไม่อาจจะช่วยผู้อื่นเป็นอิสระได้ คำเตือน! ถ้าผูกพันไปถึงดาวโพไซดอน ทุกอย่างก็จะเปลี่ยนไปได้ความคิดทางปฏิบัติก็จะเชื่องช้าเงอะงะ”
ผมมีความเห็นดังนี้ครับ
1. เมื่อพิจารณาทั้งประโยคแล้ว เป็นไปได้ที่คุณ LongWay เข้าใจคลาดเคลื่อนบางประการเนื่องมาจาก การพิมพ์ประโยคในภาษาไทยคลาดเคลื่อนไปนิดหน่อย คือขาดเว้นวรรคไปนิดนึง ที่ถูกควรจะเป็นดังนี้ครับ “ภาพนี้จะทำให้เจ้าชะตาเหมือนกับท่อนไม้เป็นภาระในสิ่งแวดล้อม เขาทำตัวเหมือนกับเป็นตัวถ่วงหรือตัวจำกัด เจ้าชะตาจะตีกรอบไว้ทุกหนทุกแห่งเพราะตัวเองก็ถูกผูกมัดอยู่จึงไม่อาจจะช่วยผู้อื่นเป็นอิสระได้ คำเตือน! ถ้าผูกพันไปถึงดาวโพไซดอน ทุกอย่างก็จะเปลี่ยนไปได้ (เว้นวรรค) ความคิดทางปฏิบัติก็จะเชื่องช้าเงอะงะ”
2. เหตุผลคือประโยคดังกล่าวเป็นการพิจารณาตามกฎการสะท้อนของเรือนชะตา ซึ่งสำหรับเรือนชะตาเมอริเดียนนั้น เรือนที่ 10 สะท้อนกับเรือนที่ 3 ดังนั้นในการอ่านความหมายจึงอ่านความหมายของแอดเมตอสผสมกับเรือนที่ 10 และอ่านความหมายของแอดเมตอสในเรือนที่ 3 ซึ่งเป็นเรือนสะท้อนของเรือนที่ 10 ด้วย
3. นักโหราศาสตร์ยูเรเนี่ยนทุกคนคงจะเห็นชัดเจนนะครับว่า “ แอดเมตอส+เรือนที่ 10 = ภาพนี้จะทำให้เจ้าชะตาเหมือนกับท่อนไม้เป็นภาระในสิ่งแวดล้อม เขาทำตัวเหมือนกับเป็นตัวถ่วงหรือตัวจำกัด เจ้าชะตาจะตีกรอบไว้ทุกหนทุกแห่งเพราะตัวเองก็ถูกผูกมัดอยู่จึงไม่อาจจะช่วยผู้อื่นเป็นอิสระได้”
4. และก็คงจะเห็นได้ชัดเจนอีกเหมือนกันว่า (เรือนที่ 3 หมายถึงความคิด การพูดจา การเจรจา เป็น complex กับ ดาวพุธ และราศีกันย์) “แอดเมตอส + เรือนที่ 3 = ความคิดทางปฏิบัติก็จะเชื่องช้าเงอะงะ”
5. ดังนั้นคำว่า “คำเตือน! ถ้าผูกพันไปถึงดาวโพไซดอน ทุกอย่างก็จะเปลี่ยนไปได้” จึงหมายความว่าถ้าแอดเมตอสสัมพันธ์ถึงโพไซดอน ทุกอย่างจะเปลี่ยนไปได้ ซึ่งผมตีความว่าการเปลี่ยนดังกล่าวเป็นการเปลี่ยนที่ดีขึ้น เนื่องจากโพไซดอนเป็นดาวคู่สมพลของแอดเมตอส ลองเปิดคัมภีร์สูตรพระเคราะห์สนธิดู พบว่า “แอดเมตอส/โพไซดอน = การอบรม, การศึกษา ความลึกซึ้งทางปัญญา” จะเห็นได้ว่านอกจากเจ้าชะตาจะไม่เป็นภาระหรือตัวถ่วงในสิ่งแวดล้อมแล้วยังจะกลายเป็นผู้คงแก่เรียนที่มีความลุ่มลึกทางปัญญาอีกด้วย
6. ดังนั้นคำว่า “ผูกพันไปถึงดาวโพไซดอน”ที่ท่านอาจารย์ประยูรแปลไว้ ในที่นี้จึงหมายถึง “การมีความสัมพันธ์ทางโหราศาสตร์ถึงโพไซดอน” นั่นเอง
7. ตำแหน่งสัมพันธ์ที่ใช้เป็นหลักในโหราศาสตร์ยูเรเนี่ยนคือ ตำแหน่งสัมพันธ์ทางองศา โดยใช้เป็นจำนวนเท่าของมุม 45 องศาเป็นสำคัญ โดยปัจจัยที่มีตำแหน่งสัมพันธ์ทางโหราศาสตร์ต่อกันจะผสมอิทธิพลเข้าด้วยกันตามความหมายทางโหราศาสตร์ของปัจจัยทั้งสองนั้น เช่น ศุกร์สัมพันธ์ถึงเสาร์ แปลว่า รักที่เป็นทุกข์ เป็นต้น
8. ในหลักสูตรโหราศาสตร์ยูเรเนี่ยนมาตรฐานของโรงเรียนโหราศาสตร์กรุงเทพนั้น ท่านอาจารย์พูดถึงตำแหน่งสัมพันธ์ไว้ 2 ประเภทคือ ตำแหน่งสัมพันธ์ทางราศี และตำแหน่งสัมพันธ์ทางองศา และยังกล่าวถึงเรื่องตำแหน่งสัมพันธ์ขนาน (Declination)ด้วย ตำแหน่งสัมพันธ์ทางองศานั้นนักโหราศาสตร์ยูเรเนี่ยนทุกคนเข้าใจกันดีอยู่แล้วเพราะเป็นเครื่องมือพื้นฐานในการวิเคราะห์โครงสร้างพระเคราะห์สนธิ
ตำแหน่งสัมพันธ์ทางราศีนั้นถือว่าปัจจัยที่สถิตในราศีที่เป็น 1-4-7-10 ต่อกัน สัมพันธ์ถึงกันและจะผสมอิทธิพลเข้าด้วยกันเช่นเดียวกับตำแหน่งสัมพันธ์ทางองศาแต่ว่าอิทธิพลอ่อนกว่าตำแหน่งสัมพันธ์ทางองศา
ตำแหน่งสัมพันธ์ขนานนั้นท่านอาจารย์บอกว่ามีใช้กันน้อย มักใช้กันเฉพาะในคนระดับ “โหราจารย์” ใช้เกณฑ์ว่าถ้าปัดเหนือหรือใต้เท่ากันภายในระยะวังกะ 1 องศาถือว่าสัมพันธ์ถึงกัน โดยถ้าปัดเหนือหรือใต้เหมือนกันเรียกว่า ขนานกัน (Parallel) พิจารณาเสมือนหนึ่งการกุมกัน ถ้าทิศตรงกันข้ามเรียกว่า Contra Parallel (ไม่สามารถหาคำแปลภาษาไทยได้) พิจารณาเสมือนหนึ่งการเล็งกัน
9. ท่านอาจารย์ประยูรฯเคยเขียนบทความรวบรวมพฤฒิภาพต่างที่ใช้พิจารณาว่าปัจจัยทางโหราศาสตร์สัมพันธ์ถึงกันไว้ ซึ่งผมขอคัดลอกมาทุกคำพูดดังนี้ครับ
“.....อย่างไรก็ดีเนื่องจากปรากฏในทางปฏิบัติว่า ถึงแม้ในบางโอกาสที่ดวงชะตาบอกไม่ตรง เหตุการณ์ก็ปรากฏขึ้นเหมือนกัน และเป็นเหตุการณ์รุนแรงไม่น้อยกว่าเหตุการณ์ที่อ่านได้โดยตรงจากดวงชะตาที่ดวงชะตาบอกตรงๆทีเดียว จึงเป็นแง่คิดของนักโหราศาสตร์ผู้มีความเฉียบแหลมว่า อิทธิพลของฟ้ายังอาจมีช่องทางมาในรูปแบบอื่นอีก และจากผลการค้นคว้าก็เป็นจริงอย่างนั้น ดังเช่นการเกิดขึ้นของจุดสะท้อน ตำแหน่งสัมพันธ์ขนาน จุดอิทธิพลต่างๆ และขอให้สังเกตดังนี้
อิทธิพลของ อาทิตย์ จะอยู่ที่ (ดาวพระเคราะห์อื่นๆ หรือปัจจัยอื่นๆ ก็เช่นเดียวกันนี้) จุดต่างๆดังนี้
a) จุดที่ทำมุมเป็นจำนวนเท่าของ 45 องศา
b) จุดที่ทำมุมเป็นจำนวนเท่าของ 30 องศา
c) จุดที่มี declination เท่ากับอาทิตย์
d) จุดที่มีแล็ตติจูดฟ้าเท่ากับศูนย์ (สถิตบนระวิมรรคพอดี)
e) จุดสะท้อนอาทิตย์
f) จุด อาทิตย์ + อาทิตย์
g) จุดสะท้อนของ อาทิตย์ + อาทิตย์
h) จุดลัคนา (ลัคนาของปัจจัย)
i) จุดเมอริเดียน (เมอริเดียนของปัจจัย)
j) จุดลัคนาสำหรับตำแหน่ง เมอริเดียนทับอาทิตย์
k) ฯลฯ”
นอกจากนี้ยังมีในบทความที่อื่นบางแห่งท่านอาจารย์พูดถึงราหูดาวพระเคราะห์ด้วยเช่นกันว่าเป็นจุดแสดงอิทธิพลของดาวพระเคราะห์นั้น
10. เมื่อนำทฤษฎีเรือนชะตาของฮัมเบิร์กเข้ามาพิจารณาเพิ่มเติมจากข้อ 9 คัมภีร์สูตรเรือนชะตาหน้า 222 บรรทัดที่ 4 จากล่างกล่าวยกตัวอย่างไว้สำหรับเรือนชะตาเมอริเดียนดังนี้ “กฎการสะท้อนนี้ได้จัดชุดของคู่สะท้อนที่เกี่ยวช้องถึงกัน โดยธรรมชาติไว้ด้วยแล้วเป็น 3 ชุด ปัจจัยใดๆก็ตามหากสถิตในเรือนชะตาใดเรือนชะตาหนึ่งก็ดีในชุดนั้นๆ ปัจจัยนั้นจะส่งผลกระทบอย่างแรงไปถึงเรือนอื่นๆด้วย เช่นในชุดแรก อันประกอบด้วย 1/12 กีล 6/7 นั้น หากมีปัจจัยสถิตในเรือนใดก็ตามใน 4 เรือนนี้ อิทธิพลของปัจจัยก็จะมีผลไปถึงสิ่งตามความหมายของอีก 3 เรือนที่เหลือด้วย ดังตัวอย่างเช่นอาทิตย์สถิตในเรือนที่ 1 จากคัมภีร์สูตรพระเคราห์สนธิหน้า 85 กล่าวไว้ตอนหนึ่งว่า “ชิวิตพุ่งไปสู่ความแจ่มใสในอนาคต “ นี้จะมีผลกระทบไปถึงสิ่งตามความหมายของเรือนที่เหลือทั้ง 3 คือเรือนที่ 12 (การมีศัตรูลึกลับที่มีธรรมชาติแบบ “อาทิตย์” ) และเรือนที่ 6 (การมีศัตรูในการงาน, สุขภาพ ตามความหมายของ “อาทิตย์” ) กับเรือนที่ 7 (การมีศัตรูเปิดเผยในลักษณะ “อาทิตย์”) ด้วย และที่รุนแรงที่สุดคือเรือนที่ 12 ซึ่งสะท้อนกับเรือนที่ 1 โดยตรง ซึ่งก็เป็นไปตามหลักความจริง กล่าวคือบุคคลเรายิ่งเด่นยิ่งดังก็ยิ่งจะมีศัตรูคู่แข่งสารพัดเป็นธรรมดา...”
อย่างไรก็ดีเมือพิจารณาแล้วจะเห็นว่าเป็นเรื่องการผูกพันจากปัจจัยในภพที่เกี่ยวข้องกันไปถึงเรื่องราวของภพที่อยู่ในชุดเดียวกัน ไม่ใช่เป็นเรื่องของการสัมพันธ์ถึงระหว่างปัจจัยในภพที่อยู่ในชุดเดียวกัน ซึ่งถึงแม้ยังจะมีหลักเกณฑ์ในเรื่องของการบรรจบของระบบเรือนชะตาต่างๆอีกในหน้าที่ 234 แต่คิดว่าก็เป็นเรื่องของความสัมพันธ์ระหว่างเรือนชะตาเช่นเดียวกัน
11) ที่กล่าวมายืดยาวในข้อที่ 10 ก็เพื่อพยายามจะตอบคำถามว่า การที่โพไซดอนของคุณ Longway อยู่ในภพที่ 4 จะสัมพันธ์ถึง แอดเมตอสในภพที่ 10 หรือไม่ ผมมีความเห็นว่าตามทฤษฎีเรือนชะตาของฮัมเบิร์ก ซึ่งโพไซดอนอยู่ในเรือนที่ 4 และอยู่ในชุดเดียวกับเรือนที่ 10 (3/10 และ 4/9) รายละเอียดตามคัมภีร์สูตรเรือนชะตาหน้าที่ 222 บรรทัดที่ 8 จากล่าง โพไซดอนไม่มีความสัมพันธ์ทางโหราศาสตร์ถึงแอดเมตอส เนื่องจากความสัมพันธ์ที่เกิดตามทฤษฎีเรือนชะตาเป็นความสัมพันธ์จากโพไซดอนถึงเรื่องราวในภพที่ 10
ส่วนคำถามที่ว่า เมื่อปัจจัยสถิตอยู่ในเรือนที่เป็นเกนทระต่อกัน (เรือนที่เป็น 1-4-7-10 ต่อกัน) ถือว่าปัจจัยทั้งสองนั้นผสมอิทธิพลเข้าด้วยกัน (ถึงกัน) หรือไม่นั้น ผมยังไม่เคยเห็นตำราที่ไหนบอกว่าปัจจัยในสถานะภาพดังกล่าวสัมพันธ์ถึงกัน ในขณะที่การเป็น 1-4-7-10 กันทางราศีนั้น คำสอนของท่านอาจารย์ประยูรบอกไว้ชัดเจนโดยเรียกว่าตำแหน่งสัมพันธ์ทางราศี(ท่านเคยพูดในชั้นเรียนว่าท่านคลอเดียส พโตเลมีเป็นผู้คิดค้นเรื่องตำแหน่งสัมพันธ์ทางราศีขึ้น) อย่างไรก็ตามจากหลักเกณฑ์พื้นฐานของวิชาโหราศาสตร์ การอยู่ในเรือนที่เป็น 1 ต่อกัน คืออยู่ในเรือนเดียวกันย่อมต้องสัมพันธ์ถึงกันแน่นอน อย่างเช่นที่โหราศาสตร์ไทยเรามีหลักเกณฑ์เรื่องดาวพระเคราะห์คู่ในเรือนชะตาต่างๆ ซึ่งก็หมายถึงการที่ดาวเคราะห์สถิตอยู่คู่กันในเรือนชะตานั่นเอง
อนึ่ง จากการดูกระทู้ก่อนหน้านี้พบว่าเคยมีคนตั้งกระทู้เรื่องเรือนชะตายูเรเนียนมาแล้ว คือกระทู้ที่ 433145 - ขอความรู้เรื่องเรือนชะตายูเรเนียนด้วยครับ jjj 11 Nov 2004 [122,4] มีท่านผู้รู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นที่น่าสนใจหลายท่านยกตัวอย่างเช่นท่านที่ใช้นามว่า “เมื่อก่อนไม่เคยรู้แต่เดี๋ยวนี้กระจ่างแล้วครับ” ได้เขียนสั้นๆแต่น่าสนใจมากคือ “ควรอ่านคัมภีร์สูตรเรือนชะตาให้มากๆเที่ยวแล้วตีความเรื่องพื้นที่กับเวลาให้กระจ่าง ค้มภีร์สูตรเรือนชะตา เป็นการกลั่นทฤษฎีทูกทฤษฏีให้สามารถประยุกต์ใช้ได้ไม่จำกัด นำไปใช้ได้หลากหลาย สามารถนำโค้งสุริยาต(Solar Arc)มาใช้ในการทายจรกับเรือนขะตาได้ แต่ต้องแบ่งให้ถูกเรื่องว่าจะดูเรื่องอะไรเป็นต้นเรื่องรายละเอียดต่างๆในหนังสือมีให้อ่านแล้วตีความเถิดครับ เพราะคนอื่นๆก็อ่านและเรียนโดยใช้ทฤษฎีเป็นมูลฐานทั้งนั้นและครับ อ่านหลายๆรอบหน่อย” ถ้าท่านผู้รู้เหล่านี้ยังติดตามเว็บไซ้ท์นี้อยู่และได้อ่านกระทู้นี้ หากจะช่วยสละเวลาให้ความรู้แก่ผู้สนใจเป็นวิทยาทานได้ก็จะเป็นคุณต่อวงการโหราศาสตร์ยูเรเนี่ยนที่ท่านอาจารย์ประยูรได้กรุณาวางรากฐานไว้แล้วเป็นอย่างยิ่ง จะเป็นข้อคิดเห็นเกี่ยวกับกระทู้นี้ หรือประเด็นสืบเนื่องที่เกี่ยวข้อง หรือการตีความเรื่องพื้นที่กับเวลา (ตั้งแต่สมัยผมเรียนยูเรเนี่ยนแล้วครับ พรรคพวกเราส่วนใหญ่พอได้ยินหรือได้อ่านคำว่าเป็นเรื่องของปรัชญาที่เกี่ยวกับพื้นที่และเวลา ยินแก่ ยังหนุ่ม อะไรทำนองนี้ เป็นงงกันมากๆเลยละ) ยิ่งไปถึงขั้นประยุกต์นำโค้งสุริยาตรเข้ามาใช้ทายจรกับเรือนชะตา ฯลฯน่าสนใจมากๆเลยครับ พวกท่านตีความได้ยังไงช่วยนำมาเล่าสู่กันฟัง แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน เพื่อให้วิชานี้พัฒนาการก้าวหน้าต่อไปสมดังเจตนารมณ์ของท่านอาจารย์ประยูรต่อไปครับ
หวังว่าคงตอบตรงคำถามของคุณ LongWay นะครับ หากยังมีข้อสงสัยประการใด ไม่ต้องเกรงใจครับ ผมจะพยายามชี้แจงเท่าที่มีความรู้จะทำได้ครับ
|