ตามตำรา "หลักโหร" ของ ศิวเมษ (ไม่ใช่นามแฝงของผม - นายโรจน์ เว็บมาสเตอร์ นะครับ อย่าเข้าใจผิด) อธิบายว่า โหราศาสตร์แต่ละระบบจะมีองค์ประกอบ 3 ส่วน คือ จักรราศี ดาวเคราะห์ และเรือนชะตา การ "ดูดวง" นับตั้งแต่พื้นดวงไปจนถึงดวงจร ก็ล้วนแต่อาศัยการผสมความหมายระหว่างองค์ประกอบทั้ง 3 นี้ เช่น ดูว่าลัคนาราศีอะไร หมายถึงอะไร อาทิตย์อยู่ในราศีใด หมายถึงอะไร อาทิตย์อยู่ในเรือนชะตาใด หมายความว่าอย่างไร อาทิตย์ทำมุมกับดาวนั้นดาวนี้ หมายถึงอะไร ดาวเจ้าเรือนที่ 1 มาอยู่ในเรือนที่ 3 หมายถึงอะไร เป็นต้น ในลักษณะคล้ายๆ การผสมสูตรทางเคมี หรือการแปลภาษาต่างประเทศทีละคำทีละประโยค เมื่อ "อ่านก่อน" จนได้ข้อมูลครบถ้วนแล้ว จึงสรุปเป็น "คำพยากรณ์" ให้แก่เจ้าชะตา
ในตำรา "หลักโหร" ที่เคยจัดพิมพ์นั้น จะมีการยกตัวอย่างจากระบบโหราศาสตร์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ คือ
- จักรราศี ใช้จักรราศีแบบดาราศาสตร์ตัดอยนางศแบบลาหิรี หรือที่บางคนเรียกติดปากว่า "ดวงไทยแบบอาจารย์เทพย์ สาริกบุตร" เป็นสำคัญ
- ดาวพระเคราะห์ ใช้อาทิตย์ถึงพลูโต รวม ลัคนา ราหู และเกตุไทย
- เรือนชะตา ใช้เรือนชะตาตามค่าองศาลัคนา หรือเรือนชะตาลัคนาในโหราศาสตร์ยูเรเนียนนั่นเอง เพียงแต่ใช้จักรราศีคนละแบบ
ในทางปฏิบัติ หากท่านเคยศึกษาโหราศาสตร์ระบบอื่นใดมาก่อน ท่านอาจใช้จักรราศีแบบอื่น เช่น จักรราศีสายนะ ใช้ดาวพระเคราะห์มากน้อยกว่าที่ศิวเมษใช้ เช่น ตัดเนปจูน พลูโต แบบดวงไทยทั่วไป หรือใช้ดาวครบเครื่องยูเรเนียน ฯลฯ ใช้เรือนชะตาแบบอื่น เช่น แบบเหมาทั้งราศีตามแบบไทย หรือเรือนชะตาพลาซิดุส ฯลฯ ก็สุดแล้วแต่ประสบการณ์ที่ท่านเห็นจริง รวมถึงความหมายของราศี ดาวเคราะห์ และเรือนชะตาที่ให้ไว้ ก็เป็นเพียงการเรียบเรียงตามประสบการณ์ของ ศิวเมษ เท่านั้น หากท่านเห็นว่าความหมายของราศี ดาวเคราะห์ และเรือนชะตาจากตำรา/อาจารย์อื่นๆ มีความถูกต้องเหมาะสมกว่า ก็อาจนำมาใช้เพิ่มเติมหรือทดแทนได้ตามสมควร โดยหลักการใหญ่ของ "หลักโหร" นั้น คือ การอ่านดวงจากการผสมควาหมายขององค์ประกอบทั้งสามที่เข้ามาสัมพันธ์กันแล้วสรุปเป็นคำพยากรณ์
ขออ้างอิงเพิ่มเติมถึงข้อความของ "ศิวเมษ" ในตำรา "หลักโหร" ดังต่อไปนี้
----------
หลักการอ่านดวงชะตา
ในการพยากรณ์ดวงชะตา ท่านจะต้องยึดเรือนชะตาไว้เป็นหลักไว้เสมอ ไม่ว่าท่านจะพยากรณ์เรื่องใดก็ตาม เพราะเรือนชะตา คือ เรื่องราวของชีวิตที่ถูกย่อและจัดไว้เป็นหมวดหมู่อยู่ในเรือนชะตาทั้ง 12 เรือนชะตาทั้งสิ้น ไม่มีเรื่องราวข่าวสารใดที่จะอุบัติขึ้นนอกเหนือไปจากความหมายของเรือนชะตาทั้ง 12 เรือนไปได้เลย ขอเพียงแต่ให้ท่านจับความหมายของเรื่องและเรือนชะตาให้ตรงกันเท่านั้น ท่านจะไม่มีทางที่จะพยากรณ์ผิดพลาดไปได้ และเมื่อท่านจัดความหมายและเรือนชะตาได้ถูกต้องท่านก็จะสามารถจับดาวและราศีได้ถูกเองโดยอัตโนมัติ เพราะทั้ง 3 ประการนี้เชื่อมโยงถึงกันหมด ดังนั้น จึงขอให้หลักในการพยากรณ์แบบกว้างๆ และอเนกประสงค์ไว้ดังนี้
- พิจารณาเรือนชะตา
- พิจารณาดาวพระเคราะห์
- พิจารณาจักรราศี
เมื่อท่านอ่านเรื่องราวจากส่วนประกอบทั้ง 3 ประการนี้จากดวงชะตาที่จะพยากรณ์ได้แล้ว ท่านก็จะสรุปได้เองว่า เรื่องนั้นเรื่องนี้ของดวงชะตาดวงนี้ ควรจะพยากรณ์ว่าอย่างไร โปรดทราบว่า การพยากรณ์ดวงชะตานั้น เป็นคนละขั้นตอนกับการอ่านดวงชะตา การพยากรณ์ดวงชะตาเป็นอีกขั้นตอนหนึ่งที่เกิดหลังจากที่ได้อ่านดวงชะตาอย่างทะลุทุกแง่ทุกมุมแล้วต่างหาก หรืออาจจะกล่าวอย่างง่ายๆ ว่า การพยากรณ์ดวงชะตานั้น คือ การสรุปผลที่ได้รับจากการอ่านดวงชะตานั่นเอง
อนึ่ง ในการพิจารณาเรือนชะตาจะต้องพิจารณาว่า
ในการพิจารณาดาวพระเคราะห์ จะต้องพิจารณาว่า
ในการพิจารณาจักรราศี จะต้องพิจารณาว่า
- จักรราศีนั้น เป็นจักรราศีประเภทใด
- จักรราศีนั้น เป็นจักรราศีต้น กลาง หรือปลายธาตุอะไร
ทั้งหมดนี้นำมาผสมกลมกลืนกัน แล้วสรุปผลออกมาเป็นคำพยากรณ์ ...