ReadyPlanet.com
dot dot dot
dot
สำหรับสมาชิก
ชื่อผู้ใช้ :
รหัสผ่าน :
เข้าสู่ระบบอัตโนมัติ :
bullet ลืมรหัสผ่าน
dot
dot
dot
bulletหลักโหรโดนใจ
bulletหลักโหร-ศิวเมษ
bulletโหรา-ประวัติศาสตร์
bulletโหรา-ไอที
bulletโหรา-โปรแกรม
bulletDemo/Freeware
bulletโปรแกรม Virgo07
bulletDelphi กับ Swiss Ephemeris
bulletผูกดวงออนไลน์กับ Astrotheme.com
bulletพิกัดภูมิศาสตร์ ประเทศไทย
bulletwebboard ผลัดกันเขียนเวียนกันอ่าน
dot
dot
bulletกำพล ภาระโภชน์ (Astroman) - ยูเรเนียน
bulletโรงเรียนโหราศาสตร์ไทยมาตรฐาน
bulletอดิเทพ ศรีรัตนไพฑูรย์ - ยูเรเนียน
bulletอาคม ชูจันทร์ - ยูเรเนียน, ลายมือ
bulletชาญชัย เดชะเสฏฐดี (ผู้ร่วมเขียนบทความ)
bulletอาจารย์ ธนกร ตันติถาวร - ยูเรเนียน
dot
dot
bulletประวัติ
bulletการติดต่อ
bulletภาพยนตร์ประวัติศาสตร์
bulletRojnChin's Channel (YouTube)
bulletRojnChin's Blog
bulletร้านค้าออนไลน์
dot
dot
bulletโรงเรียน โหราศาสตร์ ฮัมบูร์ก ประเทศเยอรมัน
bulletAstro.com
bulletพยากรณ์ดอทคอม
bulletมูลนิธิสมาคมโหรแห่งประเทศไทยฯ
bulletโหราศาสตร์แนวอาจารย์จรัญ พิกุล
bulletโหรายูเรเนียนดอทคอม
bulletบ้านฮวงจุ้ย
bulletวารสารโหราเวสม์
bulletUranianSoft.com
bulletดูดวงกับ GooSiam.com
bulletMyHora.com: ดูดวงยูเรเนียนออนไลน์
bulletAstro-Seek.com: Full Moons & New Moons
bulletAstro-Seek.com: Aspect Search Engine
bulletLatitude&Longitude เมืองต่างๆ ทั่วโลก
bulletIELTS British Council
bulletIELTS IDP
bulletMUIC
bulletรวม Link เว็บอื่นๆ ที่น่าสนใจ
bulletแผนผังเว็บไซต์ (Site Map)






ภาพยนตร์ประวัติศาสตร์


CURRENT MOON


dot
ความรัก คู่แท้ บุพเพสันนิวาส กับวิชาโหราศาสตร์ และการสมพงศ์ดวงชะตา ตอนที่ 6: สัญญาณคู่แท้ (Soulmate Indicators/Signals)
วันที่ 01/03/2011   20:42:44

"I seem to have loved you in numberless forms; numberless times in life after life, in age after age forever. (ฉันรู้สึกว่า เคยรักเธอมาแล้วในรูปกายหลายหลาก ในระหว่างช่วงเวลาที่ไม่มีวันสิ้นสุด ในทุกภพทุกชาติของชีวิต ในทุกช่วงอายุของการเกิด ตลอดไปชั่วกาลนาน)"

Rabindranath Tagore (รพินทรนาท ฐากูร)


1. บทนำ

ก่อนที่จะกล่าวถึง "สัญญาณคู่แท้" ซึ่งเป็นหัวข้อบทความในตอนนี้ เพื่อให้สมคล้อยกับเนื้อหาของบทความ ผู้เขียนจึงนำบทกลอนที่กล่าวถึงความรักซึ่งแต่งโดยท่าน รพินทรนาท ฐากูร กวีเอกของโลกซึ่งเป็นชาวเอเซียคนแรกที่ได้รับรางวัลโนเบลสาขาวรรณกรรมมาเสนอก่อนในเบื้องต้น เนื้อหาบทกลอนเป็นภาษาอังกฤษและแปลเป็นภาษาไทยได้ดังนี้ครับ


Unending Love

I seem to have loved you in numberless forms, numberless times...
In life after life, in age after age, forever.
My spellbound heart has made and remade the necklace of songs,
That you take as a gift, wear round your neck in your many forms,
In life after life, in age after age, forever.

Whenever I hear old chronicles of love, it's age old pain,
It's ancient tale of being apart or together.
As I stare on and on into the past, in the end you emerge,
Clad in the light of a pole-star, piercing the darkness of time.
You become an image of what is remembered forever.

You and I have floated here on the stream that brings from the fount.
At the heart of time, love of one for another.
We have played along side millions of lovers,
Shared in the same shy sweetness of meeting,
the distressful tears of farewell,
Old love but in shapes that renew and renew forever
.
Today it is heaped at your feet; it has found its end in you,
The love of all man's days both past and forever:
Universal joy, universal sorrow, universal life,
The memories of all loves merging with this one love of ours-
And the songs of every poet past and forever.

รักนิรันดร์

ฉันรู้สึกว่า เคยรักเธอมาแล้วในรูปกายหลายหลาก ในระหว่างช่วงเวลาที่ไม่มีวันสิ้นสุด ในทุกภพทุกชาติของชีวิต ในทุกช่วงอายุของการเกิด ตลอดไปชั่วกาลนาน หัวใจของฉันภายใต้มนต์สะกดแห่งรัก ได้เคยบรรจงร้อยสร้อยประคำด้วยบทเพลงมอบเป็นของขวัญแก่เธอมาแล้วในทุกภพทุกชาติ ซึ่งเธอได้รับไว้และสวมใส่ในทุกๆรูปกายของเธอ ในทุกภพทุกชาติของชีวิต ในทุกช่วงอายุของการเกิด ตลอดไปชั่วกาลนาน

เมื่อใดที่ฉันได้ฟังตำนานเรื่องราวของความรักย้อนลำดับเวลาไปในอดีต เรื่องของความทุกข์เมื่อต้องพลัดพราก และความสุขเมื่อสมปราถนา อันเป็นสัจธรรมคู่กับความรักเสมอมา และเมื่อฉันจ้องมองย้อนเข้าไปในอดีต ที่ปลายทางนั้นเธอจะปรากฏกายออกมาให้เห็น ห่อหุ้มร่างด้วยแสงอันเรืองรองของดาวเหนือ พุ่งผ่านความมืดมิดของกาลเวลามาให้เห็น เป็นภาพซึ่งฉันจะจดจำไปตราบชั่วนิจนิรันดร์

เธอกับฉันได้มาถึงที่นี่ ในสายธารที่มาจากจุดต้นกำเนิดของชีวิต ที่ซึ่งตรงกลางแห่งดวงใจของกาลเวลานั้น มีความรักระหว่างเราสองคนปรากฏอยู่ เราสองคนเป็นคู่รักคู่หนึ่งในบรรดาคู่รักทั้งหลายนับล้านๆคู่ ในกระแสธารแห่งชีวิต ที่มีส่วนร่วมในการได้พบกับสิ่งที่รักอย่างสุขสม และการหลั่งน้ำตาด้วยความโศกเศร้าเมื่อต้องลาจาก ซึ่งมีปรากฏให้เห็นอยู่ทั่วไปในสายธารแห่งชีวิต โดยที่ความรักนั้นจะยังคงอยู่ตลอดไป ในรูปกายและรูปแบบที่แปรเปลี่ยนหมุนเวียนไป ตลอดกาลชั่วนิจนิรันดร

วันนี้ความรักได้มาอยู่ที่แทบเท้าของเธอแล้ว ได้มาถึงจุดสิ้นสุดของการแสวงหาที่เธอแล้ว ความรักที่เกิดขึ้นทุกวันเวลาในชีวิตของมวลมนุษย์ทั้งในอดีตและในอนาคตชั่วกาลนาน รวมทั้งความสุข ความโศกเศร้า ของชีวิตทั้งมวลในสากลโลก ความทรงจำของความรักทั้งมวล รวมทั้งบทเพลงและบทกวีทั้งหลาย ในอดีตและในอนาคตชั่วนิจนิรันดร ได้รวมเข้ากับความรักหนึ่งเดียวของเราสองคนนี้แล้ว

กลอนบทนี้เป็นกลอนความรักที่ได้รับความนิยมมากในโลกตะวันตก โดยส่วนใหญ่มีความเห็นว่าเป็นการบรรยายความรักในอุดมคติได้อย่างไพเราะและประทับใจยิ่ง บางความเห็นเชื่อว่า ความรักที่กล่าวถึงในบทกลอนนี้คือความรักที่จะเกิดขึ้นได้ในกรณีของความรักระหว่าง "คู่แท้ (Soulmates) ตามปรัชญาตะวันตกนั่นเอง

2. สัญญาณคู่แท้ (Soulmate Indicators/Signals)

มนุษย์ได้พยายามมาแล้วมากมายหลากหลายวิธีด้วยความอยากรู้ว่า "คู่แท้" นั้นจะสามารถทราบได้จากอะไรและอย่างไร ตั้งแต่วิธีการที่เป็นวิชาการที่สุด เช่นการเปรียบเทียบทางวิทยาศาสตร์ชีวภาพ การเปรียบเทียบทางกระบวนการจิตวิเคราะห์และจิตวิทยา การประมวลผลทางตรรกวิทยา วิธีการสมพงศ์ดวงชะตาทางโหราศาสตร์ นรลักษณ์ศาสตร์ หมอดูเลขเจ็ดตัว ไพ่ป็อก ไพ่ยิปซีต์ การเพ่งลูกแก้ว การเสี่ยงทายด้วยวิธีการต่างๆ เวทย์มนต์คาถา พ่อมด แม่มด ฯลฯ ไปจนถึงกระทั่งการทรงเจ้าเข้าผี! ดูเหมือนว่าความพยายามของมนุษย์ในเรื่องนี้ไม่ได้น้อยไปกว่า ความพยายามในการพยากรณ์ราคาหุ้นที่ซื้อขายกันในตลาดหลักทรัพย์เลย การพยากรณ์ราคาหุ้นนั้นทำกันตั้งแต่ระดับที่ใช้ซอฟท์แวร์ที่ซับซ้อนบนเครื่องซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ที่ทันสมัยที่สุดในโลก ที่วอลสตรีท สหรัฐอเมริกา และที่มหานครใหญ่ๆทั่วโลก การนำทฤษฎีทางคณิตศาสตร์ที่ซับซ้อนหลากหลาย กระบวนการทางสถิติที่ลุ่มลึก สารพัดวิธีการเสี่ยงทาย โหราศาสตร์ ไสยศาสตร์ พ่อมด แม่มด ไปจนกระทั่งถึงการทรงเจ้าเข้าผีในสำนักไสยศาสตร์ต่างๆทั่วโลกแม้แม้กระทั่งในสหรัฐอเมริกาเอง!

วิธีการที่ผู้เขียนเห็นว่าน่าสนใจคือ วิธีการทางจิตวิทยาและความบังเอิญ กับวิธีการทางโหราศาสตร์ วิธีการทางจิตวิทยาและความบังเอิญนั้นเท่าที่ศึกษาดู พบว่าเป็นกระบวนการที่ตั้งข้อสมมติฐานว่า ถ้าเป็นความรักระหว่างคู่แท้แล้ว ควรจะเกิดพฤติกรรมและปฏิกิริยาทางด้านจิตอย่างไร ดังในกรณี "I seem to have loved you in numberless forms, numberless times in life after life, in age after age forever." ตามบทกลอนที่นำมากล่าวถึงข้างต้น หรือว่าเกิดความบังเอิญอย่างน่าประหลาดที่ทำให้ทั้งสองคนได้มีโอกาสมาพบและมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งต่อกันได้ ซึ่งได้มีการนำเสนอความเห็นต่างๆกันจำนวนมาก ว่าพฤติกรรมและปฏิกิริยาทางจิต และความบังเอิญ อะไรบ้างที่เป็นสัญญาณบอกคู่แท้

ส่วนวิธีการทางโหราศาสตร์นั้น ได้มีความพยายามจะกำหนดว่าโครงสร้างที่เกิดจาก "ดวงซ้อนดวง" โครงสร้างใดบ้างที่อาจจะเป็นสัญญาณคู่แท้ และมีบางสำนักที่พยายามจับคู่พฤติกรรมและปฏิกิริยาทางจิตวิทยา ฯลฯ เข้ากับโครงสร้างความสัมพันธ์ทางโหราศาสตร์ โดยใช้พฤติกรรมฯ และความบังเอิญเป็นเงื่อนไขหลัก โครงสร้างการสมพงศ์ดวงชะตาเป็นเงื่อนไขรอง ตามคำสอนพื้นฐานของท่านอาจารย์พลตรีประยูร พลอารีย์

ในบทความนี้จะรวบรวมนำเสนอพฤติกรรรมทางจิตวิทยาและความบังเอิญ ที่น่าสนใจ บางประเด็น มาใช้เป็นเงื่อนไขหลัก พร้อมทั้งนำเสนอโครงสร้างทางโหราศาสตร์เป็นเงื่อนไขรองสำหรับใช้อธิบายพฤติกรรมทางจิตและความบังเอิญดังกล่าว เนื้อหาในเรื่องนี้คงต้องยอมรับว่าเป็นทฤษฎีและการตั้งสมมติฐานล้วนๆ เนื่องจากเรื่อง "คู่แท้" เป็นเรื่องนามธรรม (Abstract) ในอุดมคติ (Idealism) อย่างแท้จริง และการจะพิสูจน์ด้วยกระบวนการทางสถิติทำได้ยากมาก ผู้ที่สนใจคงจะต้องทดลองนำไปใช้ดูว่าสัญญาณต่างๆที่นำเสนอนี้ มีความเป็นไปได้มากน้อยเพียงใด อย่างไร

3. สัญญาณคู่แท้: จิตวิทยา/โหราศาสตร์ (เงื่อนไขหลัก/เงื่อนไขรอง)

เนื่องจากสัญญาณคู่แท้จากหลักการทางจิตวิทยา และสัญญาณคู่แท้จากหลักการสมพงศ์ดวงชะตาที่ผู้เขียนรวบรวมและเรียบเรียงมาได้นั้น ไม่พอดีกันกล่าวคือมีสัญญาณบางข้อเท่านั้นที่ตอบรับกันพอดีระหว่างจิตวิทยากับโหราศาสตร์ บางข้อของสัญญาณทางจิตวิทยาไม่สามารถค้นหาสัญญาณทางโหราศาสตร์มารองรับได้ และบางข้อของสัญญาณทางโหราศาสตร์ ก็ไม่สามารถหาสัญญาณทางจิตวิทยามารองรับได้ ผู้เขียนจึงสังเคราะห์สัญญาณที่ขาดหายไปขึ้น เพื่อให้ได้เงื่อนไขหลักและเงื่อนไขรองครบสำหรับสัญญาณทุกข้อ โดยมีบางสัญญาณที่ตัดออกไปเพราะไม่สามารถสังเคราะห์สัญญาณตอบรับที่เห็นว่าเหมาะสมได้ หรือเห็นว่าซ้ำซ้อนกับข้ออื่น จึงได้สัญญาณคู่แท้ทางจิตวิทยาที่น่าสนใจและมีโครงสร้างทางโหราศาสตร์รองรับจำนวน 15 สัญญาณดังนี้

1) เงื่อนไขหลัก : "คนนี้ใช่เลย" ถูกชะตาต้องใจในทันทีที่ได้พบ รักแรกพบ รู้สึกมีความสุขที่ได้อยู่ด้วยกันกับเขา

เงื่อนไขรอง:

ก. อังคาร = ศุกร์ (โดยเฉพาะการกุมกันสนิทองศา และจะดียิ่งขึ้นอีกถ้าเป็นอังคารของฝ่ายชายกับศุกร์ของฝ่ายหญิง)

ข. ศุกร์ = จุดเจ้าชะตา (ต้องเป็นการถึงกันในลักษณะของการครบวงจร คือจุดเจ้าชะตาของทั้งสองฝ่ายให้แสงถึงศุกร์ของอีกฝ่ายหนึ่งด้วยกันทั้งคู่ เพราะมิฉะนั้นจะเป็นการรักเขาข้างเดียว!)

ค. อาทิตย์ = จันทร์ (ถูกชะตา พอใจ รู้สึกอบอุ่นใจ มีความสุขที่ได้อยู่กับเขา แต่ไม่เกิดความรักในลักษณะชายกับหญิง ไม่เกิดรักแรกพบ เช่นเดียวกับในกรณี อังคาร/ศุกร์ อาทิตย์ควรเป็นของฝ่ายชายและจันทร์เป็นของฝ่ายหญิง)

2) เงื่อนไขหลัก: "เธอเติมเต็มชีวิตของฉัน"

เงื่อนไขรอง:


ก. อาทิตย์ = จันทร์

ข. ดาวเคราะห์ใกล้โลกที่ชี้บอกเรื่องของบุคคลเป็นสำคัญ (Personal Planets ได้แก่ อาทิตย์ จันทร์ พุธ ศุกร์ อังคาร ในดวงชาตาของฝ่ายหนึ่งทำมุมตรีโกณ 120 องศาระหว่างกันอยู่ และมีดาวเคราะห์ในกลุ่มนี้ในดวงชะตาของอีกฝ่ายหนึ่งสถิตในตำแหน่งที่ทำให้เกิดเป็นสามเหลี่ยมตรีโกณที่สมบูรณ์ (Grand Trine) ยกตัวอย่างเช่น ในดวงชะตาฝ่ายชายมีอาทิตย์ทำมุม 120 องศากับจันทร์อยู่ เมื่อเทียบดวงชะตาดูปรากฏว่าดาวศุกร์ของฝ่ายหญิงทำมุม 120 องศากับทั้งอาทิตย์และจันทร์ของฝ่ายชาย ทำให้เกิดเป็นสามเหลี่ยมตรีโกณที่สมบูรณ์เป็นต้น (ควรเกิดโครงสร้างในลักษณะนี้กลับกันในระหว่างดวงชะตาด้วย จะยิ่งมีอิทธิพลรุนแรงมากขึ้น) การเต็มเต็มในกรณีนี้เป็นการเติมเต็มตามคุณลักษณะของดาวเคราะห์ที่มาประกอบกันเป็นสามเหลี่ยมตรีโกณนั้น

3) .เงื่อนไขหลัก: "หนียังไงก็หนีไม่พ้น?" เธอคือคนที่ฟ้าให้มารึเปล่า? .ใช่บุพเพรึเปล่า?

เงื่อนไขรอง

ก. อาทิตย์ หรือ จันทร์ = ศูนย์รังสี อาทิตย์/จันทร์

ข. ศูนย์รังสีของ(ศูนย์รังสี อาทิตย์/จันทร์) ของฝ่ายชายและฝ่ายหญิง = อาทิตย์ หรือ จันทร์ ของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง

หมายเหตุ: โครงสร้างทั้งสองชุดนี้ตามตำราบอกว่ามีอิทธิพลแรงเท่ากัน และแรงมากด้วย โดยบอกว่าภายหลังจากการเทียบสมพงศ์ดวงชะตาแล้ว ไม่ว่าจะมีโครงสร้างการสมพงศ์ดวงชะตาดีเลิศเพียงใดก็ตาม โอกาสที่จะลงเอยด้วยการแต่งงานอยู่กินเป็นสามีภรรยา หรือมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งในระยะยาวนั้นมีน้อยถ้าไม่ปรากฏมีโครงสร้างนี้อยู่ และให้เผื่อใจไว้สำหรับความผิดหวังบ้าง

4) เงื่อนไขหลัก: "เธอคนเดียวเท่านั้น"

เงื่อนไขรอง

ก. อาทิตย์ = จันทร์

ข. จุดเจ้าชะตาถึงกันหลายจุด

5) เงื่อนไขหลัก: "เคยทำมาแล้ว" รู้สึกว่าเคยมีสัมพันธ์กันเช่นนี้มาก่อน เคยอยู่ร่วมกันในสถานที่เช่นนี้ รู้สึกคุ้นเคยกับสิ่งแวดล้อมสถานที่และผู้คนรอบข้างเขา

เงื่อนไขรอง:

ก. อาทิตย์ หรือ จันทร์ หรือ ศุกร์ หรือ เมอริเดียน หรือลัคนา = ราหู (ควรจะครบวงจร)

6) เงื่อนไขหลัก: "เราเคยรู้จักกันมาแล้ว"

เงื่อนไขรอง:

ก. อาทิตย์ หรือ จันทร์ หรือ ศุกร์ หรือ อังคาร = เมอริเดียน หรือลัคนา (ควรจะครบวงจร)

7) เงื่อนไขหลัก: "ตาของฉันมองเห็นแต่เธอเท่านั้น" รู้สึกว่าเคยพบเธอมาก่อนในความฝัน รู้สึกว่าจำใบหน้าและท่าทางในฝันของเธอได้ด้วย รู้ใจซึ่งกันและกัน อาจจะด้วยทางประสาทสัมผัสที่ 6

เงื่อนไขรอง:

ก. จุดเจ้าชะตา หรือ พุธ หรือ ศุกร์ หรือ อังคาร = เน็ปจูน (ควรจะครบวงจร)

8) เงื่อนไขหลัก: "เธอคือโชคชะตาของฉัน"

เงื่อนไขรอง:

ก. อาทิตย์ = จันทร์

ข. อาทิตย์ หรือ จันทร์ หรือ ศุกร์ หรือ ลัคนา หรือ เมอริเดียน = เวอร์เท็กซ์

9) เงื่อนไขหลัก: "ฟ้าให้เธอมากับฉัน" สังหรณ์ใจตั้งแต่แรกพบว่า สัมพันธภาพครั้งนี้เป็น."ฟ้าให้มา" รู้ตั้งแต่แรกพบว่าจะต้องได้อยู่เคียงคู่กัน รู้สึกว่าเข้าใจกันและกันเป็นอย่างดี รู้สึกมีความผูกพันต่อกันราวกับเป็นญาติสนิท

เงื่อนไขรอง:

ก. อาทิตย์ = จันทร์

ข. อังคาร = ศุกร์ (เป็นความรู้จักเข้าใจกันและกันในเรื่องของความรู้สึกที่เกี่ยวข้องกับความรักระหว่างหญิงกับชาย)

ค. ดาวพระเคราะห์น้อย ไซคีย์ = ดาวพระเคราะห์น้อย อีรอส (ควรจะครบวงจร)

10) เงื่อนไขหลัก: "เธอเกิดมาเพื่อฉัน"

ก. อาทิตย์ = จันทร์

ข. อังคาร = ศุกร์

ค. การสลับราศีกันเช่น ฝ่ายชายมีอาทิตย์ในราศีสิงห์ ศุกร์ในราศีเมษ ฝ่ายหญิงมีอาทิตย์ในราศีเมษ ศุกร์ในราศีสิงห์ (กรณีนี้ทั้งสองฝ่ายจะมีสิ่งดีๆแลกเปลี่ยนกันอย่างน่าพึงพอใจ ตามความหมายของดาวที่ประกอบกันเป็นโครงสร้าง เช่นในกรณีนี้จะเป็นเรื่องของกายและความรัก ฯลฯ เป็นต้น ส่วนข้อ ก เป็นความรู้สึกในภาพรวมด้วยจิตวิญญาณ และข้อ ข เป็นความรู้สึกในภาพรวมด้วยความรักความเสน่หา)

11) เงื่อนไขหลัก: "เธอนำความหมายมาสู่ชีวิตของฉัน"

เงื่อนไขรอง:

ก. ศูนย์รังสี อาทิตย์/จันทร์ = ดาวเคราะห์ใดๆ (ฝ่ายหลังจะเป็นฝ่ายทำให้ฝ่ายแรกเกิดความรู้สึกว่ามีวัตถุประสงค์หรือมีเป้าหมายบางประการในชีวิตตามความหมายของดาวเคราะห์ที่เข้ามาสัมพันธ์กับ อาทิตย์/จันทร์

ข. พุธ หรือ ศุกร์ หรือ อังคาร หรือ พฤหัส หรือ เสาร์ = จุดเจ้าชะตา (ควรจะครบวงจร ถ้าเป็นเสาร์อาจให้ผลร้าย หรือในโครงสร้างที่ดีเป็นการบอกว่าความสัมพันธ์นี้เป็นความสัมพันธ์ที่จริงจังและยั่งยืน!)
หมายเหตุ: ตำราหลายเล่มกล่าวว่า โครงสร้างการสมพงศ์ดวงชะตานั้นควรมีโครงสร้างที่ดีของเสาร์ด้วย เพื่อให้ความสัมพันธ์นั้นมั่นคง ยืนยาว และจริงจัง ซึ่งน่าจะเป็นคุณลักษณะหลักข้อหนึ่งของการเป็น "คู่แท้"

12) เงื่อนไขหลัก: "ทำไมฉันถึงได้เปลี่ยนไปขนาดนี้"

เงื่อนไขรอง

มฤตยู หรือ เนปจูน หรือพลูโต = จุดเจ้าชะตา หรือ ศุกร์ (โดยเฉพาะพลูโต และควรจะครบวงจรด้วย) บางตำราเน้นเฉพาะศุกร์กับพลูโตเท่านั้น ซึ่งแน่นอนในทุกกรณีควรจะต้องครบวงจรอีกด้วย

13) เงื่อนไขหลัก: "เจอะกันเข้าอีกแล้ว ไม่แคล้วคงต้องรักคุณ" มีเหตุบังเอิญนอกเหนือการควบคุมที่ทำให้ทั้งสองคนได้มีโอกาสพบกัน และสร้างความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งขึ้น

เงื่อนไขรอง:

ก. เมอริเดียน หรือ ลัคนา = จุดเจ้าชะตาของอีกฝ่ายหนึ่ง หรือ พุธ หรือ ศุกร์, หรือ อังคาร (ควรจะต้องครบวงจร) และในขณะเดียวกันต้องมีจุดเจ้าชะตาให้แสงถึงระหว่างกันด้วย
หมายเหตุ: เมอริเดียน และลัคนา เป็นจุดกำหนดเรื่องราวที่สำคัญในชีวิตของคนเราทั้ง 12 เรื่องตามจำนวนราศีและเรือนชะตา จึงเป็นจุดสำคัญและยังเป็นเอกลักษณ์ตัวตนของเจ้าชะตาแต่ละคนอีกด้วยเพราะดาวเคราะห์อื่นที่เดินช้าที่สุดคือจันทร์ก็ยังเดินไปด้วยอัตราการโคจรประมาณ 1 องศาต่อ 2 ชั่วโมง ในขณะที่ เมอริเดียนและลัคนาจะเปลี่ยนไป 1 องศาในประมาณทุก 4 นาที ดังนั้นแม้ดาวเคราะห์อื่นในการสมพงศ์ดวงชะตาจะสัมพันธ์ถึงกันหลายโครงสร้าง แต่ถ้าไม่มีเมอริเดียนและลัคนาร่วมอยู่ด้วยแล้ว โอกาสที่ทั้งสองคนจะได้พบกันในจังหวะเวลาและช่วงชีวิตที่เหมาะสมจะมีน้อยมาก

14) เงื่อนไขหลัก: "ดวงกำลังขึ้น" ในขณะที่ได้พบกันนั้น ดาวพฤหัสกำลังโคจรอยู่ในภพที่ 1 ภพที่ 7 หรือภพที่ 5 ในดวงชะตาของคุณ

เงื่อนไขรอง:

เงื่อนไขข้อนี้แสดงเป็นนัยสำคัญว่าจะต้องพิจารณาดวงกำเนิดด้วย โหราศาสตร์ตะวันออกมีความเห็นว่า ถ้าภพที่ 7 มีดาวเคราะห์เกษตรคือดาวเจ้าเรือนสถิตอยู่ เจ้าชะตามีโอกาสจะได้คู่ครองที่เป็นบุพเพสันนิวาส ส่วนโหราศาสตร์ตะวันตกนั้นถือเอาการให้แสงถึงของพฤหัสว่าสำคัญกว่า ดังนั้นดวงชะตาที่มีโอกาสสูงที่จะได้พบกับคู่แท้จึงน่าจะมีดาวพฤหัสในดวงชะตากำเนิดสถิตในภพที่ 7 ภพที่ 5 หรืออย่างน้อยก็ภพที่ 1 และในขณะที่เริ่มความสัมพันธ์นั้น พฤหัสจรบนท้องฟ้าก็ควรจะสถิตอยู่ในภพใดภพหนึ่งดังกล่าว (หลักเกณฑ์ในข้อนี้น่าจะสามารถพิจารณาให้ครอบคลุมออกไปถึงดาวศุกร์ด้วย)

15) เงื่อนไขหลัก: "ไม่รักก็ไม่ต้องฝืนใจ" ถ้าคุณต้องฝืนใจในความสัมพันธ์นี้ เธอไม่ใช่ "คู่แท้" ของคุณ เพราะคู่แท้ของคุณจะสามารถเปิดหัวใจของคุณได้อย่างนุ่มนวลและเป็นไปตามธรรมชาติ

เงื่อนไขรอง:

เงื่อนไขนี้น่าจะหมายถึงในกรณีที่ไม่มีบาปเคราะห์เข้ามาเบียฬโครงสร้าง "คู่แท้" ที่ตรวจพบ แต่หากบาปเคราะห์มีกำลังแรงเข้ามาเบียฬโครงสร้างต่างๆ แน่นอนย่อมมีโอกาสเกิดความติดขัดและการรู้สึกว่าต้องฝืนใจแน่นอน ในกรณีการเบียฬบ่อนนี้หากรุนแรงมาก อาจถึงขั้นทำให้ความสัมพันธ์นอกจากจะไม่ดำเนินไปด้วยดีแล้วยังถึงขั้นยุติลงอย่างเป็นทุกข์ได้อีกด้วย! และอาจตีความว่าเขา/เธอ ไม่ใช่ "คู่แท้" ก็ได้แม้จะปรากฏว่ามีโครงสร้างที่เป็นสัญญาณ "คู่แท้" ปรากฏอยู่หลายโครงสร้างก็ตาม


4. ข้อพิจารณา

สัญญาณทั้ง 15 ข้อนี้เป็นการรวบรวม เรียบเรียง และสังเคราะห์เพิ่มเติมบางส่วนโดยผู้เขียน และนำมาเสนอในบทความตอนนี้ เพื่อใช้เป็นแนวทางอันหนึ่งในการที่จะใช้วิชาโหราศาสตร์เข้าไปตรวจสอบดูเรื่องราวที่อาจกล่าวได้ว่า "ได้รับความสนใจมากที่สุดเรื่องหนึ่งในโลก" โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มคนหนุ่มสาว และคนที่กำลังมีความรักหรือแสวงหาความรักอยู่ก็ตาม แต่ละสัญญาณข้างต้นนั้นบางข้อสามารถนำมาเขียนบรรยายเพิ่มเติมในรายละเอียดได้เป็นบทความอีกตอนหนึ่งได้เลย และยังมีอีกหลายส่วนที่จำเป็นจะต้องค้นหารายละเอียดและเก็บสถิติเพิ่มเติม ในขณะนี้จึงได้แต่เพียงกล่าวถึงข้อสังเกตที่น่าสนใจบางประการเกี่ยวกับสัญญาณทั้ง 15 ข้อดังกล่าวและการนำไปใช้ดังนี้

4.1 การนำไปใช้คงต้องนำไปใช้ทุกข้อและพิจารณาสรุปผลในภาพรวม เนื่องจากแต่ละข้อมีน้ำหนักของอิทธิพลความสำคัญไม่เท่ากัน แต่ก็ไม่สามารถกำหนดเป็นระบบให้คะแนนเพื่อให้ได้ผลลัพธ์เป็นตัวเลขในเชิงปริมาณได้ บางเว็บของฝรั่งให้เงื่อนไขว่า ถ้าพบตั้งแต่หนึ่งโครงสร้างขึ้นไป มีความเป็นไปได้ว่าได้พบแล้วกับความรักที่ผูกพันลึกซึ้งและไม่สามารถอธิบายได้ด้วยเหตุผล ระหว่างคนสองคน ซึ่งอาจเป็น "คู่แท้" ของกันและกันก็ได้ ดังนั้นถ้าจะอนุมานตามกันไปในกรณีของสัญญาณตามบทความนี้ก็ควรจะต้องตรวจพบอย่างน้อยสองหรือสามสัญญาณขึ้นไป อย่างไรก็ตามการนำไปใช้นั้นควรจะต้องอ่านข้อเตือนใจที่เขียนไว้ในบทความชุดนี้ตอนที่หนึ่งก่อน เพื่อให้เป็นการนำไปใช้ให้ได้ผลในทางสร้างสรรค์เท่านั้น

4.2 โครงสร้างการสมพงศ์ดวงชะตาทั้งหมดที่กล่าวถึงตั้งแต่บทความตอนที่ 1 จนถึงตอนที่ 6 นี้ เป็นการกล่าวถึงผลในทางทฤษฎีเฉพาะโครงสร้างนั้นๆเท่านั้น ซึ่งถ้าจะเปรียบเทียบ ก็เหมือนกับการฝึกมวยจีนในหนังกำลังภายในที่มีการฝึกทีละกระบวนท่ากับเสาไม้หรือกระสอบทรายที่เป็นเป้านิ่งไม่มีการเคลื่อนไหวไม่มีการตอบโต้ ซึ่งแน่นอนในการเขียนตำรา หรือการเรียนรู้ในวิชาการแขนงต่างๆก็ต้องเรียนกันในลักษณะนี้แทบทั้งสิ้น ดังนั้นจึงมีแต่การบรรยายถึงคุณภาพและความดีของแต่ละโครงสร้าง ซึ่งบางครั้งก็บรรยายอย่างเลิศเลอ แต่ในชีวิตจริงในโลกแห่งความจริงนั้น คู่ต่อสู้ไม่ใช่กระสอบทรายที่ไม่เคลื่อนไหว แต่เคลื่อนไหวหลบหลีก ปัดป้องและยังอาจเข้าตีตอบโต้รุนแรงยิ่งกว่าอีกด้วย กระบวนท่าที่เรียนรู้ไปนั้นนำไปใช้ได้ แต่จะชนะหรือแพ้ขึ้นอยู่กับการนำไปใช้ว่าจะสามารถประยุกต์พลิกแพลง ให้เข้ากับสถานการณ์ได้เพียงใด และคู่ต่อสู้มีความสามารถเพียงใด

ในการนำโครงสร้างการสมพงศ์ดวงชะตาไปใช้ในชีวิตจริงก็เช่นกัน ถึงแม้จะฟังดูเป็นเรื่องเศร้าแต่ก็เป็นความจริงที่ว่า โลกนี้ ชีวิตนี้มีทุกข์มากว่าสุขเป็นอันมาก ศาสนาใหญ่ๆล้วนมีคำสอนในทำนองเดียวกันนี้ทั้งสิ้น วิชาโหราศาสตร์ก็ชี้ให้เห็นสัจธรรมข้อนี้เช่นเดียวกัน จะเห็นได้ว่าบาปเคราะห์ที่ทำให้ถึงตายได้มีถึง 6 ดวงได้แก่ 4 เสือสิงห์กระทิงแรด อังคาร เสาร์ มฤตยู เน็ปจูน เพิ่มดาวทิพย์เข้าไปอีก 2 ดวงคือ ฮาเดส และแอดเมตอส ในขณะที่ ดาวศุภเคราะห์ที่นับว่าเป็นศุภเคราะห์จริงๆก็มีเพียง 2 ดวงคือดาวพฤหัส และดาวศุกร์เท่านั้น ซึ่งดาวศุภเคราะห์ที่พอจะต้านทานและแก้ไขความร้ายของปาบเคราะห์ได้นั้น (ในกรณีของโหราศาสตร์ตะวันออก ถ้าเป็นโหราศาสตร์ตะวันตก ก็จะร้ายหนักขึ้นไปอีกเพราะไม่มีการแก้ดวงกันได้ ระหว่างโครงสร้างร้ายกับโครงสร้างดี) มีเพียงดาวพฤหัสดวงเดียวเท่านั้น ในขณะที่ดาวพฤหัสนั้นโคจรมาอยู่กับเราเพียงปีเดียวก็พ้นราศีไปแล้ว แต่ดาวเสาร์โคจรมาอยู่กับเราทีเดียวราศีละสองปีครึ่ง! .ในการให้คุณให้โทษก็เหมือนกัน ดาวพฤหัสกว่าจะให้คุณได้ในการพยากรณ์จร (จรบนฟ้า) ต้องให้ครบวงจรก่อนถึงจะมั่นใจได้ ในขณะที่ดาวเสาร์นั้นแค่จรมาถึงจุดเจ้าชะตาจุดเดียวก็เพียงพอแล้วที่จะนำทุกข์โทษมาให้ จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำใมในชีวิตจริงนั้น คนเราส่วนใหญ่จึงผิดหวังมากกว่าสมหวัง มีทุกข์มากกว่ามีสุข และคนจนมีจำนวนมากกว่าคนรวยอย่างเทียบกันไม่ได้!

เมื่อนำโครงสร้างร้ายจากบาปเคราะห์ เข้ามาร่วมพิจารณาด้วยในการสมพงศ์ดวงชะตา โครงสร้างการสมพงศ์ดวงชะตาที่รวมถึงสัญญาณคู่แท้ที่กล่าวถึง ในบทความตอนนี้ด้วย จึงมักไม่สามารถให้ผลดีได้เลิศเลอเหมือนกับที่ตำราบอกไว้ เพราะบาปเคราะห์มีจำนวนมากกว่าศุภเคราะห์มากดังได้กล่าวมาแล้ว โดยหลักความน่าจะเป็น โอกาสที่จะเกิดโครงสร้างดีๆในการสมพงศ์ดวงชะตาก็มีไม่มากอยู่แล้ว แต่โอกาสที่โครงสร้างดีๆที่เกิดขึ้นจะไม่ถูกเบียนจากบาปเคราะห์ดูจะยิ่งน้อยลงไปอีก และเป็นหน้าที่ของนักโหราศาสตร์ที่จะต้องประเมินกำลังของโครงสร้างดีร้ายต่างๆว่าผลที่สุดแล้วเป็นอย่างไร ผู้เขียนจึงกล่าวไว้เสมอมาตั้งแต่ตอนที่ 1 ว่าในการนำทฤษฎีไปใช้นั้น ในชีวิตจริงในโลกแห่งความเป็นจริงไม่เคยมีวิชาไหนนำไปใช้ได้ง่ายๆเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งวิชาโหราศาตร์ ลองนึกถึงภาพโครงสร้างการสมพงศ์ดวงชะตาที่ อาทิตย์ชายกุมสนิทองศากับจันทร์ของฝ่ายหญิง แต่ขณะเดียวกันก็มี อ้งคาร และมฤตยู ในดวงฝ่ายชายเข้ามาตั้งฉาก พร้อมทั้งมีเสาร์และฮาเดสในดวงฝ่ายหญิงเข้ามาเล็งจุดนี้อีกด้วย ผลสรุปจะเป็นอย่างไร ทั้งสองคนยังจะเติมเต็มซึ่งกันและกันและจะรักกันผูกพันกัน จิตวิญญาณจะหล่อหลอมรวมกัน ไม่ว่าจะเกิดเรื่องเลวร้ายใดๆขึ้นก็จะไม่แยกจากกัน จะอยู่ด้วยกันตราบความตายมาพรากอยู่อีกตามคำทำนายที่มีมาแต่โบราณนับพันๆปีอยู่อีกหรือ?

4.3 ปัญหาใหญ่มากข้อหนึ่งในการใช้ระบบยูเรเนี่ยนเข้ามาพิจารณาการสมพงศ์ดวงชะตาก็คือเรืองของระยะเชิงมุมว่าจะใช้มุมชุดใดดี ที่เป็นปัญหาก็เพราะ

4.3.1 ตำรับตำราโหราศาสตร์ในระบบยูเรเนี่ยน มีพูดถึงเรื่องการสมพงศ์ดวงชะตาน้อยมาก ที่เคยเห็นก็มี "Handbook of Techniques for the Hamburg School" ซึ่งก็เขียนไว้เป็นบทเล็กๆบทหนึ่งเนื้อหาไม่มากนัก รายละเอียดอ่านได้จากบทความของคุณโรจน์ในเรื่องดวงความสัมพันธ์-ดวงสมพงศ์ และก็มีของ Penelope Publication เคยลงโฆษณาไว้ว่ามีหนังสือว่าด้วยเรื่องการสมพงศ์ดวงชะตา แต่ผู้เขียนยังไม่เคยอ่านหนังสือดังกล่าว ส่วนทีเคยอ่านผ่านตาก็มีบางเล่มพูดถึงเรื่องนี้บ้างโดยเอาศูนย์รังสีเข้ามาพิจารณาในดวงซ้อนดวงด้วย ซึ่งในความเห็นของผู้เขียนเห็นว่าถ้าไม่ใช่ศูนย์รังสีที่สำคัญจริงๆแล้วไม่น่านำมาพิจารณา เพราะลำพังโครงสร้างปัจจัยเดี่ยวจากดวงซ้อนดวงก็มีมากมายจนกลั่นกรองและตีความกันจะไม่ถูกอยู่แล้ว ในคำสอนของอาจารย์ประยูรก็มีพูดไว้ไม่มากเช่นกัน โดยเป็นการกล่าวอ้างอิงถึงในคำสอนที่กล่าวถึงเรื่องอื่นๆ ส่วนในโหราศาสตร์คลาสสิคนั้นมี่ตำราว่าด้วยการสมพงศ์ดวงชะตามากมายนับไม่ถ้วน และมีตำราเล่มใหม่ออกสู่ท้องตลาดเป็นระยะๆอยู่แทบจะตลอดเวลา ซึ่งสามารถสรุปได้ว่า เนื้อหาเรื่องการสมพงศ์ดวงชะตาในโหราศาสตร์ตะวันตกนั้นเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์มาจากโหราศาสตร์คลาสสิค

4.3.2 ลำพังตำรับตำรามีน้อยยังไม่เป็นไร เพราะสามารถใช้เนื้อหาทฤษฎีจากโหราศาสตร์คลาสสิคได้ แต่ปัญหาใหญ่ก็อยู่ตรงระยะเชิงมุมที่ใช้นี่แหละเพราะระบบคลาสสิคนั้นส่วนใหญ่ถือโดยเคร่งครัดว่า มุมเป็นจำนวนเท่าของ 30 องศาให้ผลดี มุมเป็นจำนวนเท่าของ 45 องศาให้ผลร้าย ดังนั้นในตำราสมพงศ์ดวงชะตาจึงนำผลจากระยะเชิงมุมมาใช้ด้วย ตัวอย่างที่เห็นกันชัดๆเช่นกรณีอาทิตย์ถึงจันทร์นั้น แน่นอนมุม 0 องศานั้น เห็นด้วยกันทุกระบบว่าดีแน่ แต่คลาสสิคถือว่ามุม 45, 90, 135, 180 ไม่ดี ดังนั้นถ้าอาทิตย์ถึงจันทร์ด้วยมุมกระด้างดังกล่าว แทนที่จะทายว่าเป็นโครงสร้างการสมพงศ์ดวงชะตาที่ดี ตำราคลาสสิคส่วนใหญ่กลับให้คำทำนายตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิงกลายเป็นว่า เข้ากันไม่ได้เลย จะมีปัญหาการทะเลาะเบาะแว้ง จิตวิญญาณไม่สามารจะหล่อหลวมรวมกันได้จนถึงขั้นอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อกัน ถ้าแต่งงานกันไปโอกาสที่ชีวิตสมรสจะล้มเหลวมีสูงมาก ฯลฯ

ปัญหาใหญ่ก็คือระบบยูเรเนี่ยนใช้แต่มุมกระด้าง (จำนวนเท่าของ 45 องศา) เท่านั้นในการพยากรณ์ ซึ่งก็มีเหตผลหนักแน่นเพราะมุมกระด้างเป็นมุมที่ทำให้เกิดเหตุการณ์ (Action) และแสดงอิทธิพลในรูปของพลังงานจลน์ (Kinetic Energy) ในขณะที่มุมอ่อน (จำนวนเท่าของ 30 องศา) ทำให้เกิดความกลมกลืน (Harmony) แต่ว่าเฉื่อยชาอยู่กับที่ และสะสมอิทธิพลในรูปของพลังงานศักย์ (Potential Energy) การพยากรณ์การเกิดขึ้นของเหตุการณ์ จึงควรใช้มุมกระด้างตามแนวคิดของระบบยูเรเนี่ยน แต่เมื่อนำมาใช้กับการสมพงศ์ดวงชะตา ซึ่งเน้นน้ำหนักที่ความสอดคล้องต้องกัน ความเข้ากันได้ ความสงบกลมกลืนนั้นมุมจำนวนเท่าของ 30 องศาอาจจะให้ผลดีได้มากกว่ามุมกระด้างก็ได้ ครั้นจะหาตำรามาช่วยประกอบในการตัดสินใจกลับยิ่งสับสนหนักขึ้นไปอีก เพราะผู้เขียนพบว่าตำราของท่าน Reinhold Ebertin ปรมาจารย์แห่งสำนัก Cosmobiology ซึ่งทราบกันดีอยู่ว่าระบบของท่านนั้นเหมือนกับระบบยูเรเนี่ยนตรงที่ใช้ศูนย์รังสีในการพยากรณ์ด้วยมุมกระด้างเท่านั้น และเคร่งครัดกว่าแนวทางของอาจารย์ประยูรฯเสียอีก เพราะใน Cosmobiology นั้นไม่ใช้มุมเป็นจำนวนเท่าของ 60 องศาเลยไม่ว่าในกรณีใด และไม่ใช้เรื่อนชะตาด้วย แ ต่พอมาถึงเรื่องการสมพงศ์ดวงชะตาท่านกลับเขียนไว้ในหนังสือชื่อ Cosmic Marriage ซึ่งเป็นตำราว่าด้วยการสมพงศ์ดวงชะตาล้วนๆในทำนองว่า ท่านเห็นด้วยว่าในการพิจารณาสมพงศ์ดวงชะตานั้น มุม 60องศา และ 120 องศาดี ส่วนมุม 45 องศา 90 องศา และ 180 องศา เป็นมุมขัดแย้ง ซึ่งแม้จะท่านจะมีความเห็นว่าไม่ควรถือดี/ร้ายจากตำแหน่งสัมพันธ์ดังกล่าวเกินไป แต่ควรจะพิจารณาจากชนิดของดาวเคราะห์ที่มาสัมพันธ์ถึงมากกว่า แต่ในสูตรพระเคราะห์สนธิสำหรับการพิจาณาสมพงศ์ดวงชะตาท้ายเล่ม มีหลายโครงสร้างที่ท่านเขียนไว้ชัดเจนว่าผลจากมุมจำนวนเท่าของ45 องศานั้นไม่ดี ดังตัวอย่างต่อไปนี้

a) "Good aspects between Sun (man) and Moon (woman) are favorable for marriage prospects; unfavorable aspects between Sun and Moon can bring about a dissonance between the dreamed-of ideal an reality. Favorable configurations of Venus and Mars are indicative of a harmonious instinctual life, unfavorable aspects are apt to lead to corresponding disturbances." แปลเป็นไทยได้ว่า "ตำแหน่งสัมพันธ์ทางองศาที่ดีระหว่าง อาทิตย์ (ผู้ชาย) กับ จันทร์ (ผู้หญิง) เป็นโครงสร้างที่พึงประสงค์สำหรับการครองคู่ในชีวิตสมรส ระยะเชิงมุมที่ไม่ดีระหว่างอาทิตย์กับจันทร์สามารถทำให้เกิดความขัดแย้งระหว่างความต้องการในอุดมคติกับความเป็นจริงที่ได้พบ เช่นเดียวกันโครงสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างศุกร์กับอังคาร เป็นเครื่องชี้วัดความเข้ากันได้ทางสัญชาติญาณของชีวิต โครงสร้างความสัมพันธ์ที่ไม่ดีสามารถนำไปสู่ความขัดแย้งทางสัญชาติญาณได้"

b) เมื่อมาดูสูตรพระเคราะห์สนธิสำหรับการเทียบสมพงศ์ดวงชะตาในท้ายเล่มที่ท่านจัดไว้สำหรับ กรณีอาทิตย์/จันทร์ และ อังคาร/ศุกร์ ท่านเขียนไว้ดังนี้

Sun : Moon (อาทิตย์/จันทร์)

+ C Spiritual harmony, the blending of mind and soul, the entrance of I into Thou. (Especially favorable with Sun in the male and Moon in the female sign.)
ความสอดคล้องต้องกันทางจิตวิญญาณ จิตและวิญญาณของทั้งสองหล่อหลอมรวมเข้าด้วยกัน การเข้าไปสู่เธอของฉัน (โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่ เป็นอาทิตย์ของฝ่ายชาย และจันทร์เป็นของฝ่ายหญิง)

- Spiritual and emotional conflicts, contradiction of mind and soul, living more alongside of than within each other.
ความขัดแย้งทางจิตวิญญาณและอารมณ์ การแตกแยกทางจิตและวิญญาณ มีชีวิตอยู่ด้วยกันในลักษณะคู่ขนานไม่สามารถจะปรองดองกันได้

Venus : Mars: (อังคาร/ศุกร์)

+ Harmonious physical adjustment, happy satisfaction, ever-new mutual fascination, shows of sexual inclinations.
ความสอดคล้องต้องกันทางกายภาพ มีความสุขสมปราถนา ไม่เคยเบื่อหน่ายในเรื่องทางเพศระหว่างกัน

- C Love at first sight, sensual rapture followed by sudden coming down to earth, excess desire leads to disadvantages, alienation, illness.
รักแรกพบ ความสุขสมทางอารมณ์อย่างที่สุดซึ่งตามมาด้วยการเสื่อมสภาพ และกิเลสตัณหาที่เกินเลยซึ่งนำไปสู่ความเสียหาย ความห่างเหิน และความเจ็บป่วย

Note: "Since the conjunction enjoys particular significance in every case, it has been specially marked C. The symbol + and - generally appertain to sextile and trine, and square and opposition respectively.

เนื่องจากตำแหน่งกุมกัน (0 องศา) มีความสำคัญมากในทุกๆกรณี จึงให้เครื่องหมาย C ไว้ ในขณะที่เครื่องหมาย + และ - หมายถึงการทำมุม 60, 120 องศา และ 90, 180 องศาตามลำดับ

ในหนังสือเล่มนี้แม้ว่าท่านเอเบอร์ตินจะเขียนไว้ในหลายแห่งว่า จะพิจารณาความดี/ร้าย จากมุมสัมพันธ์อย่างเดียวไม่ได้ต้องพิจารณาจากดาวและปัจจัยที่มาสัมพันธ์กัน และภาพรวมของโครงสร้างที่เกิดขึ้นด้วย เช่นกรณี อาทิตย์ตั้งฉากกับพฤหัสจะทายว่าไม่ดีไม่ได้นั้น แต่ในหลักการแสดงว่าท่านเอเบอร์ยอมรับมุม 60, 120 องศาว่ามีความสำคัญและต้องนำมาใช้ในการพิจารณาสมพงศ์ดวงชะตาด้วย และดูเหมือนว่าท่านจะยอมรับกลายๆว่ามุม 90,180 องศามีส่วนไม่ดีในการสมพงศ์ดวงชะตาอยู่ด้วย

4.4 ในเรื่องของระยะชิงมุมที่นำมาใช้ในการพิจารณาสมพงศ์ดวงชะตานั้น ผู้เขียนมีความเห็นดังนี้

4.4.1 ควรใช้มุมเป็นจำนวนเท่าของ 45 องศาเป็นหลัก เนื่องจากความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นจะให้ผลชัดเจนกว่าชุดของมุมอ่อน ในกรณีความสัมพันธ์ระหว่างจุดเจ้าชะตากับจุดเจ้าชะตา จุดเจ้าชะตากับศุภเคราะห์ และศุภเคราะห์กับศุภเคราะห์นั้น มุมชุดนี้ไม่น่าจะก่อให้เกิดผลร้ายอะไร

4.4.2 กรณีที่ปัจจัยในความสัมพันธ์ฝ่ายหนึ่งเป็นบาปเคราะห์ มุมกระด้างตามข้อ 4.4.1 จะให้ผลร้ายได้รุนแรงมาก ในทางกลับกันถ้าเป็นศุภเคราะห์ก็จะให้ผลดีที่รุนแรงเช่นกัน อย่างไรก็ตามดังที่ได้กล่าวมาก่อนหน้านี้แล้วว่าเป็นสัจธรรมที่น่าเศร้าของชีวิต เพราะบาปเคราะห์มีมากกว่าศุภเคราะห์สามเท่าตัว ดังนั้นโอกาสที่จะได้รับแสงจากบาปเคราะห์จึงมีมากกว่าศุภเคราะห์มาก และนี่อาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้โบราณกำหนดไว้เลยว่า มุมฉากเป็นมุมแรงเกินไป ก่อให้เกิดความขัดแย้ง เกิดผลร้ายและให้โทษ

4.4.3 มุมอ่อน (จำนวนเท่าของ 30 องศา) นั้น ถ้าเป็นมุมจากบาปเคราะห์มักไม่ให้ผลร้ายอะไร ตรงกันข้ามถ้าเป็นมุมจากปัจจัยใดที่ไม่ใช่บาปเคราะห์มักจะให้ผลดีแม้ไม่รุนแรงเท่าชุดของมุมกระด้างก็ตามเช่นในกรณี อาทิตย์ 120 องศา กับ จันทร์ ควรต้องนำมาพิจารณาว่าเป็นโครงสร้างสำคัญมากโครงสร้างหนึ่งและให้ผลดีเหมือนกรณีอาทิตย์กุมจันทร์แต่ไม่แรงเท่าเป็นต้น

4.4.4 เรื่องระยะเชิงมุมนี้ในทางทฤษฎีน่าสนใจมาก จำได้ว่าอาจารย์ประยูรฯเคยพูดในชั้นเรียนว่า ในธรรมชาตินั้นความถี่ของคลื่นที่มุมกระด้างจะทำให้เกิดงานมากที่สุด (อะไรทำนองนี้) แต่เนื่องจากท่านพูดด้วยศัพท์เทคนิคในวิชาฟิสิกซ์สำหรับคลื่นพลังงานแม่เหล็กไฟฟ้า ทำให้ผู้เขียนไม่อาจจะเข้าใจได้เพราะเรียนฟิสิกซ์มาเกือบ 30 ปีแล้ว จำอะไรเกี่ยวกับเรื่องของคลื่นพลังงานแม่เหล็กไฟฟ้าไม่ได้เลย จับใจความได้อย่างเดียวที่ท่านบอกว่า ถ้าพิจารณาจากโมเมนท์ของแรงก็จะเห็นชัดเจนเช่นกัน เพราะในการออกแรงให้ได้งานมากที่สุดนั้นจะต้องออกแรงในแนวตั้งฉาก (90 องศา) กับแกนของโมเม้นท์เท่านั้น นอกจากนี้ผู้เขียนเคยอ่านเจอเรื่องทำนองนี้ในหนังสือโหราศาสตร์เล่มหนึ่ง ที่ห้องสมุดมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ซึ่งมีภาพแสดงคลื่นต่างๆประกอบด้วย น่าเสียดายที่ตอนนั้นเรื่องนี่ไม่ได้อยู่ในความสนใจเลยจึงจำชื่อหนังสือไม่ได้

4.5 ตำราว่าด้วยการสมพงศ์ดวงชะตาเกือบทุกเล่มจะกล่าวตรงกันว่า ก่อนเทียบสมพงศ์ดวงชะตาจะต้องพิจารณาดวงของแต่ละฝ่ายโดยละเอียดก่อน เพื่อให้ทราบแนวโน้มอุปนิสัยใจคอ และโชคชะตาที่เกี่ยวเนื่องกับเรื่องความรักและครอบครัวของแต่ละฝ่าย ซึ่งผู้เขียนเห็นว่าเรื่องต่างๆที่เกี่ยวข้องดังกล่าวนั้นที่สำคัญที่สุดก็คือเรื่องที่เกี่ยวข้องกับความรัก และคู่ครอง เพราะถ้าพื้นดวงไม่บอกเลยว่าเจ้าชะตาจะมีความสุขสมปราถนาในเรื่องของความรักและคู่ครองแล้ว โอกาสที่เขาจะได้พบกับ "คู่แท้" หรือ "บุพเพสันนิวาส" คงจะเป็นไปได้ยาก ซึ่งจะเห็นได้จากสัญญาณที่ 14 ที่แม้กระทั่งในการพิจารณาจรยังต้องคำนึงถึงความเข้มแข็งของเรือนที่ 7 และ 5 ด้วย

4.6 โดยข้อเท็จจริงทุกดวงชะตาย่อมต้องมีบุคคลเพศตรงข้าม ที่มีตำแหน่งดาวเคราะห์สมพงศ์ดีกับเจ้าชะตาจำนวนมาก ยกตัวอย่างเช่นในกรณีโครงสร้าง อาทิตย์/จันทร์ นั้น ย่อมต้องมีคนที่มีอาทิตย์ สัมพันธ์กับจันทร์ของอีกฝ่ายหนึ่งจำนวนมาก แต่การที่จะได้พบกันและพบในเวลาที่เหมาะสมย่อมต้องมีโครงสร้างอื่นที่เป็นเครื่องชี้บอก ผู้เขียนคิดว่าน่าจะเป็นโครงสร้างที่มี เมอริเดียนหรือลัคนาเป็นองค์ประกอบสำคัญอยู่ด้วย (นอกเหนือจากการต้องมีจุดเจ้าชะตาให้แสงถึงกัน ตามรายละเอียดในบทความชุดนี้ตอนที่ 4) มิฉะนั้นแม้ว่าจะมีโครงสร้างการสมพงศ์ที่ดีเพียงใดก็ตามหากไม่มีโอกาสได้พบกันในเวลาและสถานที่ที่เหมาะสม โครงสร้างดีๆเหล่านั้นก็ไม่เกิดประโยชน์แต่อย่างใดได้เลย นอกจากนี้โครงสร้างพระเคราะห์จรทั้งไดเร็คชั่นและจรบนท้องฟ้าจะต้องมีจังหวะสนับสนุนอีกด้วย

4.7 ถ้าจะว่ากันตามตัวหนังสือแล้ว ตำราฝรั่งแต่เดิมมาหลายสำนักบอกว่า โครงสร้างคู้แท้ คือ การที่อาทิตย์ฝ่ายชายทับจันทร์ฝ่ายหญิงสนิท ซึ่งถือกันว่าเป็นโครงสร้างศักดิ์สิทธิ์ของโบราณ ดังนั้นเมื่อมีบางความเห็นใหม่ๆในปัจจุบันพยายามจะกำหนดว่าโครงสร้างการสมพงศ์ดวงชะตาโครงสร้างใดเป็นสัญญาณคู่แท้ จึงมักจะไม่เคยลืมที่จะต้องใส่โครงสร้าง อาทิตย์/จันทร์ ไว้ด้วยเสมอ ผู้เขียนเคยพบดวงชะตาที่เข้าข่ายอาทิตย์ถึงจันทร์มาบ้าง แต่ทั้งหมดที่พบล้วนมีโครงสร้างร้ายร่วมอยู่ด้วย ผลก็คือทุกคู่ที่พบมีความสัมพันธ์ที่ลึกซื้งต่อกัน มีความผูกพันกัน แต่ไม่ได้แต่งงานอยู่กินด้วยกันก็มี ได้แต่งงานอยู่กินด้วยกันก็มี และในทุกกรณีถ้าไม่มีโครงสร้างที่บอกว่าจะเกิดความรักขึ้นแล้ว ก็ไม่เกิดความรักแบบชู้สาวเลยแม้จะได้แต่งงานหรือไม่ได้แต่งงานก็ตาม ยิ่งในกรณีที่มีบาปเคราะห์เบียฬโครงสร้างนี้แรงๆ ดูเหมือนว่าจะทำให้เกิดความทุกข์และความพลัดพรากมากมายในความสัมพันธ์อีกด้วย
ผู้เขียนเห็นว่าถ้าจะเป็นจริงอย่างที่โบราณบอก น่าจะเป็นกรณีที่อาทิตย์ทับจันทร์สนิทองศา โดยไม่มีบาปเคราะห์ใดๆเบียฬ และยังได้รับแสงจากศุภเคราะห์ พฤหัส และ/หรือศุกร์อีกด้วย โดยเฉพาะในกรณีที่เป็นศุกร์ก็จะเกิดความรักแบบหญิงกับชายขึ้นพร้อมกันด้วย ส่วนกรณีอาทิตย์ถึงจันทร์อื่นๆนั้นน่าจะบอกเพียงว่าเป็นความสัมพันธ์ที่ประทับใจและก่อให้เกิดความผูกพันเท่านั้น

4.8 เช่นเดียวกัน ถ้าจะว่ากันตามตัวหนังสือแล้วในขณะที่ตำราโหราศาสตร์ตะวันตกยกย่องโครงสร้างอังคาร/ศุกร์ ว่าเลอเลิศจนหลายตำราบอกว่าเหนือกว่าโครงสร้าง อาทิตย์/จันทร์ ด้วยนั้น แต่ผู้เขียนยังไม่เคยพบตำราของฝรั่งที่บอกว่าโครงสร้างนี้เป็นโครงสร้าง "คู่แท้" อย่างไรก็ตามในสมัยปัจจุบันเมื่อมีบางความเห็นใหม่ๆพยายามจะกำหนดโครงสร้างที่เป็นสัญญาณคู่แท้ขึ้น จึงมักจะรวมโครงสร้างอังคาร/ศุกร์ ไว้ด้วยเสมอ ผู้เขียนเห็นว่าการแสดงผลของโครงสร้างนี้คงจะเป็นไปในทำนองเดียวกันกับโครงสร้าง อาทิตย์/จันทร์ ทุกประการ คือควรจะไม่มีบาปเคราะห์ใดๆมาเบียฬบ่อน และยังได้รับแสงจากศุภเคราะห์ พฤหัสอีกด้วย
ท่านอาจารย์เทพย์ สาริกบุตร เขียนไว้ในตำราของท่านว่าโครงสร้าง อังคาร/ศุกร์ เป็นเครื่องชี้ว่าหญิงชายคู่นั้นมี "บุพเพสันนิวาส" กันมาแต่ชาติปางก่อน ซึ่ง "บุพเพสันนิวาส" ของไทยเรา นั้น ต่างจาก "คู่แท้" ของฝรั่ง ตามคำจำกัดความที่เคยเขียนไว้ในบทความชุดนี้ตอนที่ 2 ซึ่งจะกล่าวถึงโครงสร้าง "บุพเพสันนิวาส" ในโอกาสต่อไป
จากประสบการณ์เคยพบดวงชะตาสามีภรรยาคู่หนึ่งมีโครงสร้างนี้ แต่อังคารเป็นของฝ่ายหญิงและศุกร์เป็นของฝ่ายชาย เท่าที่สังเกตดูทั้งคู่รักกันดี แต่แปลกตรงที่ว่าฝ่ายชายปกติเป็นคนร่ำรวยเป็นเจ้าของกิจการใหญ่โต พูดจาโวยวายเสียงดัง ลูกน้องลูกจ้างกลัวกันมาก และอายุก็มากกว่าฝ่ายหญิงเป็นสิบๆปี แต่พออยู่กับผู้หญิงคนนี้กลับกลายเป็นว่าไม่เคยว่าอะไรภรรยาเลย มีแต่ต้องคอยทำตัวให้ภรรยาพอใจจะได้ไม่ถูกภรรยาว่าเอา

4.9 โครงสร้างตามสัญญาณที่ 3 นั้นจากประสบการณ์ผู้เขียนพบว่ามีความแม่นยำเฉียบขาดตรงตามที่ตำราบอกไว้ โดยมีดวงชะตาที่เคยผ่านตามาประมาณ 5-6 คู่ที่มีโครงสร้างในลักษณะนี้ระหว่างกัน อย่างไรก็ตามผู้เขียนไม่ได้สังเกตเห็นเลยว่าคู่รักดังกล่าวจะมีความสุขเต็มอิ่มตามคำจำกัดความคู่แท้แต่อย่างใด ซึ่งอาจจะเป็นเพราะทุกคู่ดังกล่าวล้วนมีโครงสร้างบาปเคราะห์เบียนค่อนข้างหนักหนากันแทบจะทุกคู่ เช่นคู่หนึ่งมีสัญญาณที่ 3 นี้ครบทั้งสองโครงสร้าง แต่มีอาทิตย์ชาย จันทร์ชาย ให้แสงถึง เสาร์หญิง ในขณะที่อาทิตย์หญิง ราหูหญิงก็ถึงเสาร์ชายเช่นเดียวกัน คู่นี้น่าจะเรียกคู่เวรคู่กรรมกันมากกว่า เพราะไม่มีความรัก ความปรองดองต่อกันหลงเหลืออยู่เลย มีปัญหาหยั่งรากลึกซึ่งเท่าที่ทราบไม่มีทางปรองดองกันได้ แม้จะไม่ใช่เรื่องชู้สาวหรือการนอกใจก็ตาม แต่ทั้งสองคนก็ได้มาพบกันแต่งงานกันมีครอบครัวมีลูกด้วยกันด้วยความเต็มใจด้วยกันทั้งคู่ ซึ่งน่าจะเป็นอิทธิพลของสัญญาณที่ 3 นี้ แต่สัญญาณนี้แทบจะไม่ได้ให้ร่องรอยของความสุขสมตามคำจำกัดความของ "คู่แท้" เหลือไว้เลยแม้แต่น้อย? ส่วนอีกคู่หนึ่งที่เคยพบสัญญาณที่ 3 นี้ครบทั้งสองโครงสร้างเช่นเดียวกัน แต่ก็มีโครงสร้างร้ายของบาปเคราะห์ที่เข้ามาเบียนหลายโครงสร้างเช่นกัน คู่นี้เท่าที่สังเกตดูแม้จะอยู่กันไปได้แต่ก็คล้ายๆคู่แรกเพียงแต่เบากว่า คือค่อนข้างมีปัญหาบ้าง และที่สำคัญคือคู่นี้ศุกร์ของฝายหญิงไม่ได้รับแสงจากจุดเจ้าชะตาของฝ่ายชายเลย จึงดูเหมือนว่าไม่ได้มีความสดชื่นจากความรักในชีวิตสมรส แสดงว่าโครงสร้างตามสัญญาณที่ 3 นี้ไม่สามารถชดเชย ความสุขในรักที่เกิดจากดาวศุกร์ได้เลย? ผู้เขียนมีความเห็นว่าโครงสร้างนี้เป็นโครงสร้างที่ชี้บอก การเป็น "คู่กรรม, fated relationship" กล่าวคือทั้งคู่มีกรรมเก่าที่รุนแรงร่วมกันมาในอดีตชาติ และจะต้องมาชดใช้กันในชาตินี้ด้วยการครองชีวิตคู่ร่วมกัน ส่วนว่าจะเป็นชีวิตคู่ที่ ดีหรือไม่ดี สุข หรือ ทุกข์ นั้นขึ้นอยู่กับกรรมเก่าที่เป็นตัวกำหนดให้ทั้งคู่ต้องมาครองชีวิตคู่ด้วยกันว่าเป็นกรรม "ดี" หรือ "เลว" โดยคู่รักคู่นี้ไม่จำเป็นต้องเป็น "คู่แท้" หรือ "บุพเพสันนิวาส" เลย

5. ดวงชะตาตัวอย่าง

เมื่อไม่กี่วันมานี้ได้พบพรรคพวกคนหนึ่ง เขาแสดงความกังขามากว่า นาตาลี เกลโบวา นางงามจักรวาล ยอมมาแต่งงานกับ ภราดร ศรีชาพันธ์ ได้ยังไง แล้วก็ร่ายความไม่เหมาะสมตามความเห็นของเขาออกมาเป็นชุดๆ โดยผู้เขียนได้แต่ฟังแต่ไม่รู้จะออกความเห็นอย่างไรดี แต่โดยที่เป็นผู้สนใจวิชาโหราศาสตร์ผู้หนึ่ง และก็ยังอุตส่าห์เขียนบทความเรื่อง ความรัก คู่แท้ บุพเพสันนิวาส ฯ มาจนถึงตอนที่ 6 แล้ว ซึ่งเป็นตอนที่กล่าวถึง "สัญญาณคู่แท้" อีกด้วย หากจะไม่ทดลองนำสัญญาณคู่แท้ที่เขียนในบทความนี้มาใช้กับคู่สมรสแห่งปี 2550 คือ ภราดร ศรีชาพันธ์ กับ นาตาลี เกลโบว่าแล้วก็รู้สึกว่าบทความตอนนี้น่าจะขาดเนื้อหาที่สำคัญยิ่งไปส่วนหนึ่งแน่ๆ
จึงค้นหาวันเดือนปีเกิดของภราดร ศรีชาพันธ์ จากอินเตอร์เน็ทได้ว่าเป็นวันที่ 14มิถุนายน 2522 เวลา 12.18 น. ส่วนวันเดือนปีเกิดของนาตาลี เกลโบว่านั้นมีอยู่แล้ว (11 พฤศจิกายน 2524 เวลา 12.02 น.) เพราะเคยใช้ในบทความเรื่อง "ความงามของสตรีในทัศนะโหราศาสตร์ ตอนที่ 2" แม้จะไม่ได้เวลาเกิดมาแต่ก็สามารถใช้ตรวจสอบสัญญาณคู่แท้ทีไม่ได้เกิดจาก เมอริเดียน ลัคนา และจันทร์ได้ เพราะปัจจัยอื่นๆล้วนเดินไม่เกินวันละ 1 องศาทั้งสิ้น นอกจากนี้ยังใช้การผูกดวงด้วยเวลาประมาณเที่ยงวันโดยให้เมอริเดียนทับอาทิตย์พอดี ซึ่งพอจะอนุโลมใช้ได้ในกรณีที่ไม่ทราบเวลาเกิดของบุคคล และเนื่องจากจุดที่เมอริเดียนกุมพระทิตย์ในวันเกิดคือจุดที่เมอริเดียนมีกำลังสูงสุดของวันจึงอาจประยุกต์ใช้กฎแห่งกรรมในการพยากรณ์ได้ว่า เมื่อเจ้าชะตาบรรลุจุดสูงสุดในชีวิตแล้วเขาจะเป็นอย่างไร ซึ่งในกรณีของคู่รักทั้งสองคนถือว่าได้ประสบความสำเร็จสูงสุดในชีวิตด้วยกันแล้วทั้งคู่

จากการเปรียบเทียบดวงชะตาโดยพิจารณาเฉพาะปัจจัยที่เดินช้า คือตั้งแต่พุธขึ้นไปโดยอนุโลม จันทร์ (ด้วยเหตุผลในวรรคก่อน) ไม่พิจารณา เมอริเดียน ลัคนา ดาวพระเคราะห์น้อย เวอร์เท็คซ์ และศูนย์รังสีของ อาทิตย์/จันทร์ พบโครงสร้างสัญญาณที่น่าสนใจคือ

A. อังคาร (ชาย) = ศุกร์ (หญิง) 135 องศา วังกะ 39 ลิบดา
ศุกร์ (ชาย) = อังคาร (หญิง) 135 องศา วังกะ 2 ลิบดา
(โครงสร้างนี้ครบวงจรด้วย)

B. อาทิตย์ (ชาย) = จันทร์ (หญิง) 45 องศา วังกะ 59 ลิบดา

C. อาทิตย์ชาย = เนปจูนหญิง 180 องศา วังกะ 43 ลิบดา
สะท้อนอังคารชาย = เนปจูนหญิง 45 องศา วังกะ 14 ลิบดา
อย่างไรก็ตามมีโครงสร้างการเบียฬจากบาปเคราะห์ดังนี้

D. เสาร์ (หญิง) = สะท้อนอังคาร (หญิง) 0 องศา วังกะ 50 ลิบดา = ศุกร์ (ชาย) 135 องศา วังกะ 52 ลิบดา = พลูโต (ชาย) 0 องศา วังกะ 39 ลิบดา = สะท้อนโครโนส (ชาย) 90 องศา วังกะ 49 ลิบดา
สัญญาณ อังคาร (ญ) = ศุกร์ (ช) มีเสาร์เบียนอยู่

E. อังคาร (ช) = -อพอลลอน (ช) = -แอดเมตอส (ช) = ศุกร์ (ญ) = จันทร์ (ญ) = -เน็ปจูน (ญ) = -คิวปิโด (ญ) = -แอดเมตอส (ญ)
สัญญาณ อังคาร (ช) = ศุกร์ (หญิง) มี บาปเคราะห์ เน็ปจูน และแอดเมตอสเบียนอยู่

F. เนปจูน (หญิง) = จันทร์ (หญิง) = คิวปิโด (ญ) = แอดเมตอส (ญ) = -ศุกร์ (ญ) = อาทิตย์ (ช) = พฤหัส (ช) = แอดเมตอส (ช) = -อพอลลอน = -อังคาร(ช)
สัญญาณ อาทิตย์ (ช) = จันทร์ (ญ) มีทั้งบาปเคราะห์ เนปจูน อังคาร และ แอดเมตอส เบียนอยู่ แต่ก็มีพฤหัสอยู่ในโครงสร้างด้วย

จะเห็นได้ว่าคู่รักคู่นี้มีโครงสร้างการสมพงศ์ดวงชะตาชั้นเยี่ยม ที่เชื่อถือกันมาแต่โบราณทั้งสองโครงสร้าง โครงสร้างอังคาร/ศุกร์นั้น ครบวงจรอีกด้วย แต่ก็มีบาปเคราะห์เบียนอยู่ทั้งสองโครงสร้างที่ครบวงจรนั้น ส่วนโครงสร้าง อาทิตย์/จันทร์นั้น แม้จันทร์อาจคลาดเคลื่อนได้มาก แต่การใช้ดวงขณะที่เมอริเดียนทับอาทิตย์ซึ่งหมายความว่า เป็นดวงชะตาตามกฏแห่งกรรมในการพยากรณ์ เมื่อเจ้าชะตาบรรลุจุดสุดยอดในชีวิตแล้ว ซึ่งก็คือการได้ตำแหน่งผู้หญิงที่สวยที่สุดในโลกของเธอนั่นเอง ตีความได้ว่าเมื่อเธอบรรลุจุดสูงสุดในชีวิตแล้ว เธอ (จันทร์ในดวงนี้) จะมีวาสนาผูกพันกับผู้ชายคนนี้ (อาทิตย์ฝ่ายชาย) โครงสร้างนี้แม้จะมีบาปเคราะห์เน็ปจูน อังคาร และแอดเมตอสเบียนอยู่ แต่ก็อยู่ในโครงสร้างของพฤหัสด้วย

ที่สำคัญยิ่งอีกโครงสร้างหนึ่ง ซึ่งแม้จะไม่เกี่ยวข้องกับความรักระหว่างชายกับหญิง (อังคาร/ศุกร์) และไม่เกี่ยวกับความผูกพันทางจิตวิญญาณ (อาทิตย์/จันทร์) แต่อาจารย์ประยูร พลอารีย์เคยสอนในชั้นเรียนว่า ถ้าจะดูสมพงศ์ดวงชะตาหญิงกับชายต้องดูพฤหัสเป็นสำคัญด้วย กล่าวคือต้องให้มีจุดเจ้าชะตาของอีกฝ่ายหนึ่งให้แสงถึงพฤหัสของอีกฝ่ายหนึ่ง ถ้าได้ครบวงจรด้วยเป็นดีที่สุด ผู้เขียนคิดว่าเหตุผลของอาจารย์น่าจะเป็นเพราะถ้าอยู่ด้วยกันแล้ว พฤหัสของคนใดคนหนึ่งหรือทั้งสองคนทำงาน ย่อมหมายความว่า เป็นดวงชะตาที่ส่งเสริมกัน ชีวิตการครองคู่จะเป็นชีวิตสมรสที่ประสบโชคลาภความสำเร็จและสมปราถนา ซึ่งอาจจะเป็นหลักประกันความมั่นคงผาสุขของชีวิตสมรสได้ดีกว่าโครงสร้าง "คู่แท้" ทุกๆโครงสร้างก็ได้ เพราะคนเราถ้ารู้สึก "สมปราถนา" ก็น่าจะเพียงพอแล้ว ไม่เห็นจะต้องไปเดือดร้อนกับเรื่องอะไรอื่นอีกเลย ในดวงชะตาคู่รักคู่นี้พบว่าต่างก็กระตุ้นพฤหัสของอีกฝ่ายหนึ่งให้ทำงาน (พฤหัสครบวงจร) คือ ราหู (ช) = พฤหัส (ญ) ในขณะที่ จันทร์ (ญ) = พฤหัส (ช)

โครงสร้างการสมพงศ์ดวงชะตาที่กล่าวถึง มีผลทำให้ทั้งสองคนได้แต่งงานเป็นคู่สามีภรรยากันแล้ว ที่จะต้องจับตามองต่อไปก็คือว่า โครงสร้างที่น่าสนใจดังกล่าวนั้นจะนำพาชีวิตสมรสของทั้งสองคนไปสู่ดวงดาวได้ดังที่ปราถนาหรือไม่ ภายใต้การเบียนบ่อนของบาปเคราะห์หลายดวงต่อโครงสร้างดังกล่าว ในภาพรวมเท่าที่มีข้อมูลอยู่และเท่าที่ทำการวิเคราะห์มาข้างต้นทั้งหมด แม้โครงสร้างหลักคือ อังคาร/ศุกร์ ที่ครบวงจรจะถูกเบียนอย่างแรงจากบาปเคราะห์ และโครงสร้าง อาทิตย์/จันทร์ อยู่ในโครงสร้างทั้งของบาปเคราะห์และพฤหัส แต่การที่พฤหัสครบวงจรในการเทียบดวงชะตา อย่างน้อยทั้งสองคนน่าจะรูสึกในที่สุดว่าสมปราถนาในความสัมพันธ์ระหว่างกัน ดังนั้นผู้เขียนเชื่อว่าแนวโน้มชีวิตสมรสของทั้งสองคนจึงน่าจะไปได้ดี ซึ่งอนาคตจะเป็นผู้ค่อยๆเปิดเผยคำตอบที่แท้จริงให้เราได้เห็นกันต่อไป

6. สรุป
เรื่อง "คู่แท้" แม้จะเป็นเรื่อง นามธรรม (Abstract) และเป็นเรื่องในอุดมคติ (Idealism) อย่างสุดโต่งตามความเชื่อของอารยะธรรมตะวันตกตามหลักปรัชญาของเขา แต่ก็เป็นเรื่องที่ได้รับความสนใจมากที่สุดเรื่องหนึ่งในโลกก็อาจจะว่าได้ ความเชื่อเรื่องคู่แท้นี้ได้แพร่หลายไปทั่วโลกที่อารยะธรรมตะวันตกแผ่เข้าไปถึง ซึ่งรวมถึงประเทศไทยของเราด้วย ในประเทศไทยเราปัจจุบันมีการนำคำว่า "คู่แท้" มาใช้อย่างแพร่หลายไม่น้อยกว่าคำว่า "บุพเพสันนิวาส" ซึ่งเป็นความเชื่อดั้งเดิมมาแต่โบราณของไทยเรา และดูเหมือนคนไทยทั่วไปจะเข้าใจว่าคำทั้งสองนี้มีความหมายเหมือนกัน ซึ่งจากคำจำกัดความและที่มาของคำแล้ว ทั้งสองคำมีที่มาจากคนละต้นกำเนิดที่แตกต่างกันในเรื่องความเชื่อถือและปรัชญาชีวิต (รายละเอียดในบทความชุดนี้ตอนที่สอง) แต่ก็เป็นคำที่ใช้บอกถึง "ความรักระหว่างชายกับหญิง" ในอุดมคติที่พึงปรารถนาที่สุดเหมือนกัน จึงมีความหมายบางอย่างที่สอดคล้องร่วมกันอยู่ บทความนี้เป็นความพยายามในเบื้องต้นที่จะรวบรวมสัญญาณคู่แท้ทางจิตวิทยา ความบังเอิญ และสัญญาณคู่แท้จากโครงสร้างการสมพงศ์ดวงชะตาทางโหราศาสตร์ ที่น่าสนใจ มาอยู่ในรูปที่เป็นเหตุเป็นผลรองรับกันตามแนวคำสอนเรื่อง เงื่อนไขหลัก และ เงื่อนไขรอง ของท่านอาจารย์พลตรีประยูร พลอารีย์ และนำเสนอไว้สำหรับผู้สนใจที่อาจจะทดลองนำไปใช้ในการพิจารณาสมพงศ์ดวงชะตา และศึกษาวิเคราะห์เพื่อปรับปรุงเปลี่ยนแปลงให้ดียิ่งๆขึ้นต่อไป

ชาญชัย เดชะเสฏฐดี
วันที่ 7 ธันวาคม 2550

----------

ขอ ขอบคุณ ท่านผู้เขียนบทความที่ให้ความกรุณาแก่เว็บไซต์แห่งนี้  อย่างไรก็ตาม ความแตกต่างทางความคิดย่อมมีได้ และผมขอจำกัดความรับผิดชอบในฐานะเจ้าของเว็บ เท่าที่กฎหมายและกติกาสังคมกำหนด ท่านที่ประสงค์จะร่วมเขียนบทความเช่นนี้ โปรดติดต่ webmaster@rojn-info.com

 




บทความสมทบ

การใช้ระยะวังกะ ในโหราศาสตร์นิรายะนะ (โหราศาสตร์ตะวันออก) วันที่ 23/11/2015   09:31:52 article
ดวงธิปู (ดวงสู้ตาย) วันที่ 11/04/2014   09:43:36 article
ความรัก คู่แท้ บุพเพสันนิวาส กับวิชาโหราศาสตร์และการสมพงศ์ดวงชะตา ตอนที่ 10 – แต่งงานอยู่กินกันแล้ว จะทุกข์ สุข ดี ร้าย ประการใด ??? วันที่ 11/04/2014   09:43:22 article
เส้นสมรส โดย อาจารย์ อาคม ชูจันทร์ วันที่ 18/03/2013   11:39:49 article
ความรัก คู่แท้ บุพเพสันนิวาส กับวิชาโหราศาสตร์และการสมพงศ์ดวงชะตาตอนที่ 9: มังคลิกาโยค (Kujadosha) : โครงสร้างร้ายในการสมพงศ์ดวงชะตา วันที่ 18/03/2013   11:39:36 article
ความงามของสตรีในทัศนะโหราศาสตร์ ตอนที่ 5: ดารานางเอก กับ โครงสร้างความงามในดวงชะตา (สืบเนื่องจากตอนที่ 2) วันที่ 10/11/2012   11:02:02
หลักเกณฑ์ทางโหราศาสตร์ที่ใช้ในการตั้งชื่อบุคคล วันที่ 04/12/2011   08:33:19 article
ความงามของสตรีในทัศนะโหราศาสตร์ ตอนที่ 4 “ดวงชะตา ผู้หญิงที่สวยที่สุดในประวัติศาสตร์ คลีโอพัตรา – ความงามที่พลิกแผ่นดิน" วันที่ 01/03/2011   20:39:13
ความงามของสตรีในทัศนะโหราศาสตร์ ตอนที่ 3: โครงสร้างชี้บอกความงามของสตรีในระบบนิรายะนะ วันที่ 27/03/2011   19:44:41
บทวิเคราะห์เรื่อง “ท่าน อ.มานิตย์ ธีรเวชชโรกุล กับความเป็นนักค้นคว้า โหราศาสาตร์ยุคไอที” วันที่ 01/03/2011   20:40:59
บทวิเคราะห์ เรื่องการเสียชีวิตของท่าน อ.มานิตย์ ธีรเวชชโรกุล วันที่ 01/03/2011   20:41:30
ยุบสภา (ปีพ.ศ.2529) วันที่ 13/03/2009   22:01:33 article
องคลาภกับการวิเคราะห์อุบัติเหตุระเบิดที่โรงงานผลิตจรวด กรมสรรพาวุธทหารบก บางซื่อ วันที่ 27/02/2009   22:21:53 article
พยากรณ์อากาศจากดวงดาว โดย พล.อ.ต. ม.ร.ว. สุกษม เกษมสันต์ วันที่ 28/04/2011   20:38:49 article
ความรัก คู่แท้ บุพเพสันนิวาส กับวิชาโหราศาสตร์ และการสมพงศ์ดวงชะตา ตอนที่ 8: สัญลักษณ์แห่งบุพเพสันนิวาส วันที่ 01/03/2011   20:41:56
ความรัก คู่แท้ บุพเพสันนิวาส กับวิชาโหราศาสตร์ และการสมพงศ์ดวงชะตา ตอนที่ 7: ปีที่แต่งงาน การสมพงศ์ดวงชะตา แต่งงานช้าหรือไม่แต่งงานเลย และดวงพระยาเทครัว วันที่ 01/03/2011   20:42:21
ความงามของสตรีในทัศนะโหราศาสตร์ ตอนที่ 2: โครงสร้างเพ็ญศุกร์กับความงามของสตรี วันที่ 29/06/2012   22:38:33
ความงามของสตรีในทัศนะโหราศาสตร์ (หลักเกณฑ์ทางโหราศาสตร์ที่ใช้ในการชี้บอกความงามของสตรี) ตอนที่ 1 วันที่ 01/03/2011   20:43:33
ความรัก คู่แท้ บุพเพสันนิวาส กับวิชาโหราศาสตร์และการสมพงศ์ดวงชะตา ตอนที่ 5: วิธีการพื้นฐานในการสมพงศ์ดวงชะตา (ดวงซ้อนดวง) วันที่ 01/03/2011   20:44:01
ความรัก คู่แท้ บุพเพสันนิวาส กับ วิชาโหราศาสตร์และการสมพงศ์ดวงชะตา ตอนที่ 4: ใครผูกพันกับใครในจักรวาล วันที่ 01/03/2011   20:46:23
ความรัก คู่แท้ บุพเพสันนิวาส กับวิชาโ หราศาสตร์ และ การสมพงศ์ดวงชะตา ตอนที่ 3: จักราศีสมพงศ์ วันที่ 01/03/2011   20:46:51
ความรัก คู่แท้ บุพเพสันนิวาส กับวิชา โหราศาสตร์ และการสมพงษ์ดวงชะตา (ตอนที่ 2 บุพเพสันนิวาส กับ คู่แท้) วันที่ 01/03/2011   20:47:43
ความรัก คู่แท้ บุพเพสันนิวาส กับวิชา โหราศาสตร์ และ การสมพงษ์ ดวงชะตา (ตอนที่ 1) วันที่ 01/03/2011   20:48:07
การวิเคราะห์และประเมินความแรงของ ดาวพฤหัส ในดวงชะตาเชิงปริมาณ วันที่ 01/03/2011   20:48:35
ความสำคัญ ของ ดาวพฤหัส ใน ดวงชะตา ในทัศนะของ โหราศาสตร์ตะวันตก และ โหราศาสตร์ตะวันออก วันที่ 01/03/2011   20:49:00
กฎของ การครบวงจร ใน การพยากรณ์ ดาวพระเคราะห์ จร วันที่ 01/03/2011   20:49:25
พฤหัส ดี และ เสาร์ ร้าย จริงๆ หรือ วันที่ 27/07/2009   08:56:20 article
บทเรียน ที่ต้องเรียน จาก สึนามิ (Tsunami) วันที่ 01/03/2011   20:50:01
ปฏิทินโหร โดย พล.อ.ต. ม.ร.ว. สุกษม เกษมสันต์ วันที่ 28/04/2011   20:30:28 article
ปัญหาเรื่องอยนางศ โดย พล.อ.ต. ม.ร.ว. สุกษม เกษมสันต์ วันที่ 28/04/2011   20:21:50 article
อยนางศ โดย พล.อ.ต. ม.ร.ว. สุกษม เกษมสันต์ วันที่ 28/04/2011   20:26:07 article



Copyright © 2010 All Rights Reserved.
| โหรา-ประวัติศาสตร์ | โหรา-ไอที | หลักโหรโดนใจ | บทความสมทบ | โหรา-โปรแกรม | ผู้จัดทำ/ผู้สนับสนุน | Site Map |

Custom Search


ติดต่อนายโรจน์ E-mail: webmaster@rojn-info.com
หรือ Mobile: 08-1697-3098
(อาจไม่สะดวกรับสายในบางเวลา)
ยังไม่เปิดสอนและไม่รับพยากรณ์เป็นส่วนตัว
กรุณาอย่าใช้โทรศัพท์หรือส่งอีเมล์มาขอดูดวง เพราะไม่มีเวลาตอบ



มูลนิธิสมาคมโหรแห่งประเทศไทยในพระสังฆราชูปถัมภ์ โหราศาสตร์แนว อ.จรัญ พิกุล - AstroClassical.com HoraUranian.com ดูดวง
โหราศาสตร์กับเครื่องประดับ บ้านฮวงจุ้ย (fengshuihut.com) ตลาดวิชาฮวงจุ้ยและดวงจีน ผูกดวง/ยูเรเนียนออนไลน์ (MyHora.com)

รวมลิงค์ : เว็บอื่นๆ ที่น่าสนใจ
eXTReMe Tracker