|
 |
ทดลองเล่น Wireless LAN (Wi-Fi) ในบ้าน  วันที่ 00/00/0000 00:00:00




|
หลายปีก่อน ในวงสนทนาของเพื่อนๆ พี่ๆ ที่ศึกษาโหราศาสตร์ที่สมาคมโหรแห่งประเทศไทยในพระบรมราชินูปถัมภ์ มีพี่คนหนึ่งกล่าวขึ้นว่า คนที่จะเรียนโหราศาสตร์ได้นั้นจะต้องเป็นโหรมาแต่ชาติก่อน (เข้าทำนองเดียวกับท่าน อังคาร กัลยาณพงศ์ ที่อ้างว่าเป็นกวีมาแต่ชาติก่อนนั่นเชียว)
โดยความซื่อและปากไว (ไม่ได้เจตนาอย่างอื่นจริงๆ ) ก็หลุดปากถามออกไปทันทีว่า แล้วคนที่เป็นนักคอมพิวเตอร์นี่ชาติก่อนเกิดเป็นอะไรล่ะครับ
ทำเอาอึ้งกันทั้งวงไปพักหนึ่ง ก่อนพี่คนเดิมจะตอบอย่างระมัดระวังว่า น่าจะเป็นฤษีมีฤทธิ์หรือพวกเล่นของคุณไสย อะไรทำนองนี้
ในวันนั้นเห็นอาการพี่แกเหมือนคนถูกเบรค ก็เลยไม่ได้ถามหรือซักค้านอะไรต่อ ทั้งที่ออกจะเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง
แต่พอเวลาผ่านไป ยิ่งรู้สึกว่าคำตอบของพี่คนนั้นน่าจะมีส่วนจริงอยู่ไม่น้อย สังเกตจากเวลาที่ผมได้ไปแก้ปัญหาคอมพิวเตอร์ให้ใครต่อใครได้สำเร็จ ตัวเจ้าของปัญหามองผลงานของผมราวกับเป็นสิ่งมหัศจรรย์ รายหนึ่งถึงกับเรียกผมว่า พ่อมดไอที เลย ถัดจากเรื่องส่วนตัวมาดูในวงการคอมพิวเตอร์และอินเตอร์เน็ตโดยรวม ปัญหาเกี่ยวกับไวรัส สปายแวร์ โทรจันฮอร์ส และอะไรอื่นๆ ที่สร้างปัญหาการใช้คอมพิวเตอร์ของสุจริตชนทั้งหลาย คิดๆ ดูแล้ว พฤติกรรมของผู้สร้างปัญหาเหล่านี้ ก็ไม่ต่างไปจากพวกเล่นคุณไสยใช้อิทธิฤทธิ์เสกหนังความเข้าท้องคู่อริ หรืออะไรทำนองเดียวกันนั่นเอง
มาดูในเชิงสร้างสรรค์ที่เป็นหัวเรื่องสำคัญของบทความนี้กันบ้าง แต่เดิมที การแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างคอมพิวเตอร์ตั้งแต่หนึ่งเครื่องขึ้นไปนั้น หากไม่ใช่สื่อบันทึกข้อมูลอย่างแผ่นดิสก์ แผ่นซีดี หรือที่ปัจจุบันพัฒนากันจนเป็นแฟลชไดรฟ์แล้ว ก็ใช้การเชื่อมโยงผ่านระบบเครือข่าย ตั้งแต่ขนาดเล็กๆ ระบบ LAN ไปจนถึงเครือข่ายใหญ่ๆ อย่างอินเตอร์เน็ต ซึ่งวิธีการเหล่านี้ ยังมีตัวสื่อ หรือเส้นสายให้เห็น ว่าได้มีการเอาแผ่นจากเครื่องนั้นไปใส่เครื่องนี้ หรือต่อสายจากเครื่องนั้นไปเครื่องนี้
แต่เดี๋ยวนี้เราสามารถส่งข้อมูลจากคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งไปยังอีกเครื่องหนึ่ง โดยไม่ต้องดึงแผ่นเข้าๆ ออกๆ หรือต่อสายระโยงระยาง โดยใช้เทคโนโลยีแลนไร้สาย หรือ Wireless LAN แล้วครับ เป็นสิ่งที่มหัศจรรย์คล้ายเวทย์มนต์คาถา และซับซ้อนกว่าการใช้รีโมททีวีหลายเท่า
การรับส่งข้อมูลไร้สายนั้นมีอยู่หลายแบบ แบบที่เราเริ่มได้ยินชื่อกันมากในระยะหลัง คือ บลูทูธ (Bluetooth) ที่หลายคนใช้กับเครื่องโทรศัพท์มือถือหรือพีดีเอ แต่ Wireless LAN ที่ผมกล่าวถึงในที่นี้ เป็นอีกเทคโนโลยีที่ใช้เป็นมาตรฐานสำหรับคอมพิวเตอร์ โดยได้พัฒนากันมาพอสมควร แต่ในระยะแรกในยังมีราคาค่อนข้างแพง จนเริ่มถูกลงและแพร่หลายมากขึ้นในระยะหลัง เรียกว่า มาตรฐานเครือข่ายไร้สาย IEEE 802.11 หรือชื่อที่เรียกกันง่ายๆ ว่า Wi-Fi
ปี 2545 ในระยะแรกที่ผมได้โอนย้ายมาอยู่ที่สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาตินั้น ปรากฏว่าได้มีอาจารย์จากสถาบันที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่ง ได้เสนอให้สำนักงานฯ ใช้ระบบแลนไร้สาย แต่ด้วยราคาอุปกรณ์ที่แพง และไม่มีข้อเสนอเกี่ยวกับระบบงานที่จะนำมาใช้ จึงไม่ได้รับความสนใจใดๆ จนกระทั่งในปี 2548 นี้ เมื่อสำนักงานฯ มีแนวโน้มจะต้องย้ายที่ทำการ ผู้บังคับบัญชาบางท่านจึงได้เริ่มมองความเป็นไปได้ที่จะใช้ Wireless LAN ในสถานที่ใหม่ ทำให้ผมต้องเริ่มศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้มากขึ้น ประกอบกับเจ้าโน้ตบุ๊คโตชิบามือสองของผมเริ่มมีอาการรวนบ่อยครั้ง จนนึกว่าพอร์ตยูเอสบีเสียไปแล้ว ในปลายเดือนมิถุนายนจึงได้ตัดสินใจซื้อโน้ตบุ๊คตัวใหม่มือหนึ่ง ยี่ห้อ Atec รุ่น Vegus 195 ซึ่งมี Wireless LAN แบบ Built-in ติดตั้งมาให้ในตัว ด้วยความอยากรู้อยากเห็น จึงต้องเสียเงินอีกต่อหนึ่งมาเพื่อซื้อ Wireless LAN แบบ USB มาติดตั้งที่เครื่องตั้งโต๊ะที่บ้าน
การใช้ Wireless LAN ในสำนักงานนั้น นอกจากตัว LAN Card แบบ Wireless ประจำคอมพิวเตอร์แต่ละเครื่องแล้ว ยังจะต้องมีอุปกรณ์อื่นๆ ประกอบอีก เช่น Access Point ทำหน้าคล้าย HUB ในระบบ LAN ใช้สาย คือกระจายสัญญาณไปยังคอมพิวเตอร์อื่นๆ อีกทั้ง Bridge, Print Server เป็นต้น ตัวหนึ่งที่พยายามโปรโมทกับผู้ใช้ตามบ้าน คือ Wireless ADSL Router ซึ่งทำหน้าที่เป็นทั้ง ADSL Modem และ Access Point ที่จะกระจายสัญญาณให้คอมพิวเตอร์ตัวอื่นในบริเวณเดียวกันใช้อินเตอร์เน็ตพร้อมๆ กันได้ แต่เพื่อการประหยัดในยุคนี้ การเชื่อมโยงสัญญาณระหว่างเครื่องต่อเครื่องโดยใช้แต่เพียง LAN Card ของแต่ละเครื่อง เรียกว่าการติดตั้ง Wireless Network แบบ Ad-hoc ก็ค่อนข้างเพียงพอ รายละเอียดอยู่ในเว็บไซต์ http://www.thelordofwireless.com/ ในบทความชื่อ การติดตั้ง Wireless Network แบบ Ad-hoc (http://www.thelordofwireless.com/modules.php?name=Content&pa=showpage&pid=13)
แล้วระบบแลนไร้สายนี้ มีประโยชน์มากน้อยแค่ไหนสำหรับผู้ใช้ตามบ้าน? เป็นสิ่งฟุ่มเฟือยเกินไปหรือไม่? ประโยชน์ที่พอจะเห็นได้ก็ดังที่กล่าวในตอนต้นๆ คือการแลกเปลี่ยนข้อมูลโดยไม่ต้องใช้สื่อหรือการเชื่อมโยงสายใดๆ และที่กล่าวถึงกันมากๆ ตามนิตยสารและเว็บไซต์เกี่ยวกับ Wireless LAN ที่ว่าเราสามารถเล่นอินเตอร์เน็ตที่ไหนในบ้านก็ได้ และใช้พร้อมกันได้หลายคน แต่ถ้าคุณเป็นมนุษย์ไอทีคนเดียวในบ้านดังเช่นผมนี่จะคุ้มหรือไม่? การใช้แฟลชไดรฟ์ในการแลกข้อมูลระหว่างเครื่องตั้งโต๊ะกับโน้ตบุ๊ค หรือการต่อสายแลนแบบสายไขว้ก็อาจจะเพียงพอ ถ้าอยากเล่นอินเตอร์เน็ตก็มาเล่นที่เครื่องตั้งโต๊ะในห้องส่วนตัวก็ได้ไม่ใช่หรือ? คำตอบอาจอยู่ที่งบประมาณเป็นอันดับแรก ตามด้วยคำกล่าวที่ว่า ใช้แล้วจะติดใจ ดังที่ได้กล่าวว่า Wireless LAN แบบ USB ที่ผมซื้อมาติดที่เครื่องตั้งโต๊ะนั้น ที่จริงมันเหมาะกับโน้ตบุ๊กรุ่นเก่าที่ไม่มี Wireless มาให้ ตามหลักแล้วผมควรจะซื้อแบบการ์ด PCI ต่างหาก ในตอนที่ตัดสินใจซื้อมานั้น เข้าใจว่านานๆ จะใช้ที แต่พอได้ลองใช้ งานจริงๆ โดยนำโน้ตบุ๊คไปอยู่คนละห้องแล้วใช้งานต่างๆ ทั้งดูไฟล์ copy ไฟล์ และเล่นอินเตอร์เน็ต ฯลฯ มันเป็นความสะดวกอย่างที่บางคนในเว็บเกี่ยวกับ Wireless บอกว่า รู้งี้ใช้ตั้งนานแล้ว ตอนนี้ผมเก็บสายแลนแบบไขว้ที่เคยใช้อยู่แต่เดิม และแทบจะไม่ได้ใช้แฟลชไดรฟ์ในบ้านอีกเลย
สำหรับการใช้งานตามสำนักงาน ห้างร้าน องค์กรต่างๆ นั้น ยังไม่ค่อยได้ยินว่ามีการนำ Wireless LAN ไปใช้กับระบบงานภายในมากน้อยเพียงใด เท่าที่มีการโปรโมทกันมากๆ มักจะเป็นเรื่องการให้บริการลูกค้าประเภทผู้เช่าอพาร์ตเมนท์/คอนโดมิเนียม หรือร้านกาแฟหรูๆ อย่างสตาร์บั๊ค ซึ่งเขาจะมีคอมพิวเตอร์แม่ข่ายพร้อม Wireless Access Point หรือที่เรียกกันว่า Hotspot ไว้ให้บริการเท่านั้น ส่วนเครื่องลูกทั้งหลายก็คือเครื่องของลูกค้านั่นเอง ซึ่งจะประหยัดกว่าอินเตอร์เน็ตคาเฟ่ที่ใช้แลนแบบเดิม เพราะไม่ต้องลงทุนในการซื้อและบำรุงรักษาหรืออัพเกรดเครื่องลูกเป็นจำนวนมาก แต่ทั้งนี้ก็ต้องเป็นกิจการที่ให้บริการลูกค้าประเภทมีเงินและมีความเป็นมนุษย์ไอทีพอสมควร ก่อนหน้าที่ผมจะเขียนบทความนี้ ก็เคยมีผู้ตั้งกระทู้เกี่ยวกับการนำไอทีมาใช้กับร้านคาราโอเกะ ผมก็ได้เสนอว่าระบบ Wireless ก็น่าจะเป็นทางเลือกที่น่าสนใจตัวหนึ่ง
ส่วนท่านใดที่มีคอมพิวเตอร์ที่บ้านมากกว่าหนึ่งเครื่อง และมีความจำเป็นต้องแลกเปลี่ยนข้อมูลกันเป็นระยะๆ หรือใช้อินเตอร์เน็ตพร้อมๆ กัน ก็น่าจะพิจารณาติดตั้งการ์ดหรืออุปกรณ์ Wireless ดู ราคาเริ่มต้นที่ตัวละพันกว่าบาท รายละเอียดทางเทคนิคอื่นๆ ศึกษาได้จากเว็บไซต์ http://www.thelordofwireless.com/ ครับ แล้วท่านอาจจะติดใจกับความสะดวกแบบไร้สาย ที่น่าอัศจรรย์ราวกับเวทย์มนต์เลยก็ได้ครับ
| |
โหราศาสตร์-ไอที
|