ขอบคุณครับ อ.โรจน์ ผมได้ข่าวจากเว็บนี้ก่อนใครเลย....

  ข่าวเพิ่มเติมจากคุณภารต ถิ่นคำ ว่าปีนี้ไม่เสียค่าลงทะเบียน..แต่มีกล่องให้บริจาคหน้างานครับ ...อ.โรจน์ กับ Astroman ไปรึเปล่าครับ ผมจะได้กราบสวัสดีตัวเป้นๆ 

งานแบบนี้ผมไม่ได้ไปร่วมมาหลายครั้งแล้ว  รวมถึงครั้งนี้ก็พึ่งขอถอนตัวจากการเป็นวิทยากร ด้วยเหตุทางด้านทัศนคติส่วนตัวบางประการที่ไม่อยากให้บานปลาย สำหรับวันนี้ถ้ามีคนสนใจอยากนัดพบจริงๆ อาจจะโผล่ไปนั่งฟังสักช่วงครับ

อาจารย์โรจน์ก็ถือว่าเป็นแกนนำระดับแถวหน้าเรื่องยูเรเนียนเมืองไทย โดยเฉพาะด้านโปรแกรม ไม่ทราบว่ามีเหตุผลส่วนตัวอะไรถึงไปไม่ได้คะ เสียดายจัง

อยากให้อาจารย์โรจน์ไปงานนี้ครับ อยากเจอตัวมากครับ อยากสัมผัสพบตัวจริงๆ คิดแบบเดียวกันกับคุณเสียดาย

โปรดทราบ
แจ้งเรื่องผู้ดำเนินราการ ไข้หวัดใหญ่สายพันธ์ใหม่2009

เนื่องจากศ.จ.พ.ญ. ดร.รวงผึ้ง สุทเธนทร์ ติดภาระกิจต่างประเทศ
จึงได้เปลี่ยนผู้บรรยายเป็น ผ.ศ. ดร. ศันสนีย์ เสนะวงษ์ เป็นผู้บรรยายแทน

ข่าวสารจากอ.ทรงยศ รัศมีพงศ์

ชมภาพบางส่วนครับ ที่ http://www.uranianfs.com/showdetail.asp?boardid=86

คิดว่าถึงเวลาที่จะต้องปิดกระทู้นี้ เนื่องจากงานดังกล่าวได้ผ่านพ้นไปเป็นเวลาพอสมควรแล้ว  ก่อนจบกระทู้คงต้องขอชี้แจงบางสิ่งกับผู้ที่สงสัยว่าทำไมระยะหลังๆ ผมจึงไม่ไปร่วมงานในลักษณะนี้ อันได้แก่การรำลึกถึงอาจารย์ พลตรี ประยูร พลอารีย์ ในทุกเดือนมีนาคม และการรำลึกถึงอาจารย์จรัญ พิกุล ในทุกเดือนกันยายน

หนึ่่งในหลายๆ เหตุผลคือ กลุ่มผู้จัดงานนั้นเพียงแต่รวมตัวกันหลวมๆ ในลักษณะของ "ชมรม" ซึ่งผมไม่เคยเป็นสมาชิกของชมรมใดๆ เลย ไม่เคยทราบว่าชมรมเหล่านั้นมีกฎระเบียบอะไร มีการบริหารการงานการเงินกันอย่างไร  เคยทราบจากผู้รู้กฎหมายคนหนึ่งว่า การรวมตัวเป็นชมรมนั้น เป็นเพียงสิทธิในการรวมตัวกันของประชาชนตามรัฐธรรมนูญ แต่ ไม่มีฐานะเป็นนิติบุคคลและไม่สามารถทำนิติกรรมใดๆทั้งสิ้น

เคยคุยกับท่านผู้หนึ่งที่ร่วมจัดงานเหล่านี้ ท่านเคยบอกว่าอยากจะจัดตั้ง "มูลนิธิ" ให้กับอาจารย์พลตรีประยูรฯ แต่ต่อมาเมื่อพบกันอีกครั้งท่านกลับบอกว่า การจัดตั้งมูลนิธิมีความยุ่งยากในเรื่องของการตรวจสอบทรัพย์สินของกรรมการ และอะไรอื่นๆ จนต้องล้มความคิด  ทำให้ผมเกิดความสงสัยว่ามันยุ่งยากอย่างนั้นจริงๆ หรือ  จึงต้องลงมือค้นคว้าหากฎหมายที่เกี่ยวข้องมาอ่านทั้งที่ไม่เคยเรียนกฎหมายมา ก่อน  ข้อสรุปส่วนตัวกลับเห็นว่าไม่น่าจะเป็นเรื่องยุ่งยากจนเกินไป คือถ้ามีเงินทุนตามที่กฎหมายกำหนดคงตั้งมูลนิธิอะไรสักแห่งเองได้เลย และยังได้คุยกับเพื่อนรุ่นพี่ที่เป็นผู้ตรวจสอบภายในของที่ทำงาน พี่เขาก็เห็นดีด้วยว่า ถ้ามีการจัดตั้งเป็นมุลนิธิแล้ว จะทำให้การทำงานชัดเจนยิ่งขึ้น

ในช่วงปีแรกๆ หลังการเสียชีวิตของอาจารย์แต่ละท่าน การที่มีผู้รับผิดชอบงานเป็นเพียงชมรมหรือกลุ่มบุคคลที่ไม่จำเป็นต้องมีฐานะ เป็นนิติบุคคลใดๆ ย่อมเป็นไปตามสถานการณ์ แต่เมื่อกลุ่มคนเหล่านั้นยังคงจัดงานในลักษณะดังกล่าวต่อเนื่องกันหลายๆ ปี มีความรับผิดชอบที่จะต้องบริหารจัดการวงเงินจำนวนหนึ่ง ต้องขอความร่วมมือกับบุคคลหลายฝ่าย และยังอาจจะต้องมีการส่งเสริมความรู้ด้านโหราศาสตร์ในรูปแบบอื่นๆ อีก  ฯลฯ การเป็นแต่เพียง "ชมรม" จะเพียงพอหรือไม่?

ถ้าเทียบรูปแบบของ นิติบุคคลระหว่าง "มูลนิธิ" กับ "สมาคม" แล้ว รูปแบบของสมาคมดูคล้ายจะเหมาะสมกว่าตรงที่เป็นการรวบรวมกลุ่มคนที่มีความ สนใจตรงกัน  แต่บทเรียนจากสมาคมต่างๆ ที่เคยได้ยินคำเล่าลือมานั้นคือ หากไม่สามารถจำกัดคุณสมบัติของสมาชิกให้รัดกุมแล้ว ก็จะเกิดการยึดสมาคมด้วยการระดมคนมาเป็นสมาชิกเพื่อโหวตให้ตัวเองได้เป็น นายกสมาคมได้  ส่วน "มูลนิธิ" นั้น เป็นการจัดสรรเงินมาเพื่อดำเนินการตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้แต่แรก

ผม เคยลองนำข้อบังคับของมูลนิธิ 2-3 แห่งที่หาได้จากอินเตอร์เน็ตมาดัดแปลงเป็นร่างข้อบังคับของมูลนิธิที่จะเป็น อนุสรณ์แก่อาจารย์ทั้ง 2 ท่าน ส่งให้กับคุณจรัสโรจน์ บถดำริห์ ทายาทอาจารย์จรัญ พิกุล และคุณปานใจ พลอารีย์ ทายาทอาจารย์ พลตรี ประยูร พลอารีย์ ทางอีเมล์ ให้ลองพิจารณาดูพอเป็นไอเดียเบื้องต้น แต่จนบัดนี้ก็ยังไม่เคยได้รับคำตอบหรือความคิดเห็นใดๆ กลับมาเลย

ขอ ฝากทิ้งท้ายว่า การที่จะจัดงานเพื่อรำลึกถึงครูบาอาจารย์ กับการเผยแพร่วิชาโหราศาสตร์ให้กว้างขวางขึ้น และเป็นที่ยอมรับของสังคมมากขึ้นนั้น จะยังคงใช้รูปแบบ "ชมรม" หรือจะจัดตั้ง "มูลนิธิ" หรือจะใช้รูปแบบวิธีการอย่างใด ด้วยเหตุผลอะไร จึงจะสามารถเรียกศรัทธาและระดมกำลังคนกำลังเิงินมาเพื่อให้บรรลุวัตถุประ สงค์ที่่ต้องการได้  ทั้งนี้ ผมไม่ได้มีจุดประสงค์ที่จะสร้างการต่อรองหรือความขัดแย้งใดๆ ไม่ว่าท่านจะดำเนินการในรูปแบบเดิมหรือรูปแบบอื่นใด ไม่จำเป็นต้องมาเรียกร้องให้ผมไปอยู่ในตำแหน่งอะไรด้วย  หากคณะผู้จัดงานรำลึกอาจารย์ทั้งสองจะยังยืนยันการทำงานในลักษณะเช่นที่ผ่าน มาก็ตามแต่ปรารถนา เพียงแต่ผมไม่ประสงค์ที่จะร่วมด้วยเท่านั้น