|
 |
ก่อนจะเรียน เคล็ดลับ  วันที่ 26/07/2009 22:57:58
ในการศึกษาวิชาโหราศาสตร์ในเมืองไทยนั้น มีความเชื่อกันอยู่ว่าการจะศึกษาให้ได้ดีมีความรู้พอที่จะพยากรณ์ให้แม่นยำและรวดเร็วนั้น จะต้องแสวงหาเกร็ดความรู้หรือเทคนิคจำนวนหนึ่งจากผู้เชี่ยวชาญซึ่งยกย่องกันว่าเป็น "อาจารย์" และโดยเหตุที่ "อาจารย์" เหล่านี้มักจะไม่ยอมเปิดเผยเรื่องเช่นนี้กับใครง่าย ๆ ด้วยสาเหตุต่าง ๆ นานาสุดแล้วแต่ตัวบุคคล จึงมักเรียกเกร็ดความรู้หรือเทคนิคเหล่านี้ว่า "เคล็ดลับ" ความเชื่อนี้เป็นที่แพร่หลายอย่างยิ่งดังในกรณีสมาคมโหรฯ ของเราเองที่ดำริจะรวบรวมเคล็ดลับอาจารย์ต่าง ๆ มารวบรวมไว้ในหนังสือเล่มเดียวกันเพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ ในวโรกาสทรงมีพระชนมายุครบ 60 พรรษา ซึ่งอันที่จริงก็คงเป็นแนวทางเดียวกับการจัดพิมพ์หนังสือกฎการพยากรณ์แห่งโหรสยามในคราวสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปีมาแล้ว
ในส่วนตัวผู้เขียนอยากจะตั้งข้อสังเกตสำหรับผู้ที่กำลังศึกษาโหราศาสตร์ว่าวิชาโหราศาสตร์นั้นก็เช่นเดียวกับวิชาการอื่น ๆ ที่ควรจะได้ศึกษาเรียนรู้กันอย่างเป็นลำดับขั้นตอนจากพื้นฐานไปสู่เรื่องที่ยากขึ้นเป็นลำดับ หากเรามุ่งหวังแต่สิ่งที่เป็น "เคล็ดลับ" กันจนเกินไปโดยไม่คำนึงถึงการพัฒนาความรู้ของตนเองอย่างเป็นขั้นตอนแล้ว มันก็เหมือนกับการที่จะหัดมวยไทยกันโดยมุ่งจะหัดกันแต่แม่ไม้เด็ด ๆ ประเภทจระเข้ฟาดหาง กวางเดินดง ศอกกลับ ฯลฯ โดยไม่ได้ผ่านพื้นฐานการจรดมวย การย่างสามขุม การออกหมัด การหลบหลีก และพื้นฐานอื่น ๆ ให้ชำนาญเสียก่อน ก็รังแต่จะหัวร้างข้างแตกระหว่างการฝึกหรือเป็นมวยแบบงู ๆ ปลา ๆ แล้วถูกส่งขึ้นเวทีไปให้เขาเถือเอาได้ง่าย ๆ ในบทความนี้จึงขอพูดถึงบางสิ่งบางอย่างที่ควรจะปฏิบัติให้เป็นนิสัย เพื่อเสริมสร้างพื้นฐานความรู้ทางโหราศาสตร์ของเราให้มั่นคงพอที่จะรองรับความรู้หรือ "เคล็ดลับ" ต่าง ๆ ที่จะศึกษากันในขั้นต่อ ๆ ไปได้
อันดับแรกสุดที่นักโหราศาสตร์จะต้องฝึกฝนอยู่เป็นประจำ คือการผูกดวงด้วยตัวเอง แม้ว่าเจ้าชะตาจะเอาดวงที่เคยผูกกับผู้อื่นมาแล้วมาให้เราพยากรณ์ก็ไม่ควรไว้ใจว่าจะถูกต้องเสมอไป เนื่องจากผู้ที่ผูกดวงให้อาจจะใช้ปฏิทินแตกต่างจากที่เราใช้ แม้แต่ผู้ที่ใช้ปฏิทินแบบเดียวกันก็อาจจะกระทำผิดพลาดเผอเรอได้เสมอ นอกจากนี้การที่เราผูกดวงเองทุกครั้งจะเป็นการเริ่มสร้างสมาธิกระตุ้นเตือนตัวเราให้มีความพร้อมก่อนที่จะต้องเผชิญปัญหาในขั้นของการพยากรณ์ เสมอเหมือนการวอร์มอัพของนักกีฬาเลยทีเดียว ในการผูกดวงนั้นก็ควรจะมีรายละเอียดให้มากเท่าที่แนวการพยากรณ์ของท่านจำเป็นจะต้องใช้เช่นการมีสมผุส ตรียางค์ นวางค์ ฤกษ์ หรืออย่างน้อยที่สุด ผู้ที่นิยมใช้แต่เพียงดวงราศีจักรก็ควรจะมีวันเดือนปีขึ้นแรมแบบไทยกำกับไว้ด้วยเสมอ และดวงที่ท่านได้ผูกเองนี้ก็ควรจะได้มีการจัดเก็บไว้เป็นสถิติสำหรับทบทวนความรู้และจดจำหลักไปใช้พยากรณ์ผู้อื่นต่อไป
อย่างไรก็ตาม บรรดาดวงชะตาต่าง ๆ ที่เราได้ผูกเองและสะสมไว้เป็นสถิติจะไม่มีความหมายอะไรหากเราไม่มีความสามารถในการทายจรเลย และสิ่งที่จะเป็นพื้นฐานในการพยากรณ์จรก็คือการหมั่นติดตามดาวจรจากปฏิทินนั่นเอง ดังนั้นเราจึงควรมีปฏิทินดาวจรประจำปีในระบบเดียวกับที่เราใช้ในการผูกดวง เพื่อที่จะนำมาใช้อ้างอิงได้เสมอทุกเวลา และไม่ใช่เอามาดูเฉพาะเวลาที่มีคนมาขอพยากรณ์เท่านั้น นักโหราศาสตร์ท่านหนึ่งเคยกล่าวไว้ว่าถ้าใครไม่รู้ว่าวันนี้จันทร์สถิตราศีอะไรแล้วอย่าเป็นนักโหราศาสตร์ดีกว่า นั่นคือเราควรจะได้ติดตามความเคลื่อนไหวของดาว(ซึ่งควรจะรวมถึงดาวทุกดวง) ตลอดเวลาเช่นเดียวกับการติดตามข่าวประจำวัน ว่าดาวแต่ละดวงกำลังอยู่ในราศีใด กำลังแสดงผลกุมเล็งกับดาวจรหรือดาวเดิมในดวงชะตาอย่างไรบ้าง อันจะช่วยให้ท่านเห็นแนวทางในการพยากรณ์จรได้มากดังจะได้กล่าวถึงในตอนต่อไป เพื่อให้การติดตามดาวเป็นไปอย่างเข้มข้นยิ่งขึ้น ควรจะหาซื้อกระดานไวท์บอร์ดขนาดที่ท่านเห็นว่าพอเหมาะ มาลอกตำแหน่งดาวประจำวันจากปฏิทินแขวนไว้ในที่ที่ท่านจะแลเห็นได้อย่างชัดเจนเสมอ เพื่อจะได้ทราบข้อมูลทางโหราศาสตร์ที่ต้องการได้ในทันทีเช่นเดียวกับการดูเวลาจากนาฬิกา จะลอกสมผุสดาวด้วยหรือไม่ก็อยู่ที่ท่านจะศึกษาละเอียดเพียงใด และถ้าวันนั้นมีดาวย้ายราศีก็ควรเขียนไว้ด้วยว่าดาวนั้นย้ายเวลาอะไร
ทีนี้เมื่อท่านมีดวงสถิติต่าง ๆ ไว้มากพอ ตลอดจนได้ติดตามตำแหน่งดาวจรทุกวันอันเปรียบเหมือนการมีข้อมูลดิบทางโหราศาสตร์ไว้แล้ว ก็มาถึงขั้นที่ท่านจะต้องพิสูจน์ทบทวนว่าเคล็ดลับทฤษฎีต่าง ๆ ที่อาจารย์และตำราทั้งหลายกล่าวถึงมันถูกต้องเพียงใด ในส่วนของพื้นดวงทั้งหลายแหล่รวมทั้งดวงเราเองก็ต้องหมั่นเอามาศึกษาหาเหตุผลว่า ดวงที่มีตำแหน่งดาวในแบบที่เขาว่าดีร้ายต่าง ๆ นั้นมันเป็นจริงหรือเปล่า หรือคิดในทางกลับกันจากข้อมูลที่เรารู้แล้วว่าทำไมดวงนั้นจึงมีชีวิตอย่างนั้น มีนิสัยมีอาชีพอย่างนั้นอย่างนี้ ในส่วนของดาวจรที่ติดตามอยู่ทุกวันนั้น ส่วนหนึ่งก็เอามาใช้ประกอบกับดวงของเราและดวงที่มีเป็นสถิติว่า ในเวลาที่มีดาวดีดาวร้ายมากระทบนั้นมันเกิดเหตุตามที่ตำราว่าไว้หรือไม่ หรือวันดีคืนดีเกิดเหตุอะไรกับตัวเราหรือเจ้าชะตาเหล่านี้ก็เอามาศึกษาหาคำตอบให้ได้ว่าเกิดจากดาวอะไรซึ่งนอกจากจะเป็นการฝึกพยากรณ์จรแล้ว หากดวงใดมีเวลาเกิดที่ไม่แน่นอนก็จะสามารถใช้ข้อมูลเหล่านี้ในการปรับแก้ดวงชะตาได้เป็นอย่างดีด้วย นอกจากการฝึกดูดาวจรกระทบดาวเดิมแล้ว ในยุคที่การเสนอข่าวทางสื่อมวลชนต่าง ๆ เป็นไปอย่างเฟื่องฟูเช่นนี้ เราสามารถเอา "ข่าวคน" กับ "ข่าวดาว"มาฝึกคิดหาเหตุผลแบบ "หวยออกแล้ว" ได้ว่า ทำไมสหรัฐฯจึงรบกับอิรัค ทำไมจึงเกิดเหตุรสช.ยึดอำนาจทำไมจึงเกิดเหตุปัญหาข้าราชการตุลาการ ทำไมแม่น้ำภาคอีสานจึงเน่าปลาตายเป็นเบือ ฯลฯ เมื่อเราได้ "หวยออกแล้ว" เป็นสถิติมากพอเราก็จะสามารถหาหลักเกณฑ์เอามาทำนาย "หวยงวดหน้า" ได้ว่าดาวจรในลักษณะอย่างนั้นอย่างนี้จะทำให้เกิดอะไรขึ้นได้ พวกนักพยากรณ์ที่ชอบอวดตัวเป็นนอสตราดามุสจนดังโครม ๆ อย่างที่เราได้ยินชื่อเสีย(ง)กันอยู่เสมอก็ใช้วิธีการในทำนองนี้แหละครับ เพียงแต่บางรายอาจจะยังฝึกฝนหรือสรุปคำทำนายกันอย่างฉาบฉวยไปหน่อย ถ้าเราฝึกฝนตนเองได้ดีกว่าเขาและไม่ด่วนอวดตัวตั้งตัวเป็นอาจารย์ก่อนเวลาอันสมควรแล้ว เราอาจจะทำนายได้แม่นยำกว่าคนพวกนั้นเสียด้วยซ้ำ
ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ก็เป็นเสมือนการให้แบบฝึกหัดที่นักโหราศาสตร์ควรจะปฏิบัติให้เป็นนิสัยตลอดไปซึ่งคนชอบเอาเร็วเข้าว่าแบบ "ไวไว" อาจจะเห็นเป็นเรื่องน่าเบื่อ แต่สำหรับผู้ที่ขยันหมั่นเพียรไม่นิยมสิ่งฉายฉวยแล้วย่อมเป็นเสมือนการเอาเงินหยอดกระปุกทุกวันที่มีแต่จะสะสมความชำนาญให้แก่ท่านยิ่ง ๆ ขึ้นไป และเป็นประโยชน์ไม่น้อยไปกว่าการตามล่าหา "เคล็ดลับ" ต่าง ๆ ที่นิยมกระทำกัน แต่ถ้าท่านยังรักที่จะศึกษาเคล็ดลับเหล่านั้นไปพร้อม ๆ กับการฝึกฝนตัวเองตามที่แนะนำมาแล้ว ท่านก็จะตัดสินได้เองว่า "เคล็ดลับ" อันไหนที่ควรแก่การเชื่อถือ หรือถ้าโชคดีท่านอาจจะค้นพบ "เคล็ดลับ" บางอย่างด้วยตัวเองก็ได้
สมาชิก 4521
วาระการตีพิมพ์
พยากรณ์สาร ปีที่ 13 ฉบับที่ 10 ประจำเดือนมิถุนายน พ.ศ.2535 หน้า 23-25
|
หลักโหรโดนใจ
|