ช่วงเช้าค่อนข้างสายของวันเสาร์ที่ 24 กรกฎาคม 2564 ซึ่งตรงกับวันอาสาฬหบูชา ก็จะเป็นวันเวลาจันทร์เพ็ญอีกครั้ง  อันที่จริงในสถานการณ์แบบนี้ก็ไม่อยากพูดอะไรมากนอกจากนำดวงมาคอนเฟิร์มว่าเรายังต้องอดทนกันต่อไป  โดยที่จันทร์เพ็ญในขณะที่อาทิตย์ใกล้จะกุมกับดาวทิพย์วัลคานุส และสัมพันธ์กับจุดสะท้อนของโครโนส และจันทร์กำลังโคจรเข้าหาดาวเสาร์  บรรยากาศโดยทั่วไปของชาวโลกจึงยังวนเวียนอยู่กับความอึดอัดอันเนื่องจากมาตรการต่าง ๆ ของรัฐที่งัดออกมาสู้กับโรคระบาด  ซึ่งแต่ละที่ก็จะมีปัญหาในรายละเอียดแตกต่างกันไป  กรณีของไทยนั้น ดวงชะตา ณ กรุงเทพฯ มีลัคนาที่เล็งกับเนปจูน ในวังกะที่เกิน 1 องศาเล็กน้อย ถือว่าลัคนา เมอริเดียน และเนปจูน ทำมุมเชื่อมโยงกันในรูปแบบ T Square หรือตามที่เห็นในจานคำนวณ 90 องศาจะเป็นเมอริเดียนอยู่กลางระหว่างลัคนากับเนปจูน ที่ตามตำราให้ความหมายว่า "ได้รับความทุกข์ทรมานจากการหลอกลวงของผู้อื่น" ซึ่งในสถานการณ์นี้จะว่าใครหลอกลวงใคร หรือจะตีความว่าประชาชนยังลำบากกับการบริหารที่ไม่มีประสิทธิภาพของรัฐบาลได้หรือเปล่าไม่ทราบ  ขอจบดื้อ ๆ ตรงนี้เพื่อทำใจรอรับช่วงเวลาเข้าพรรษาดีกว่าครับ