|
เกมะทรุมโยค โครงสร้างที่ร้ายที่สุดในระบบโหราศาสตร์ภารตะ? | |
ชาญชัย | อาจารย์เทพย์ฯเคยกล่าวถึงสิ่งที่ท่านได้พบและน่าสนใจจากการเข้าไปศึกษาคัมภีร์อินเดียโบราณฉบับต่างๆทั้งในชั้นเรียน และระหว่างการสนทนากับท่านนอกชั้นเรียนในโอกาสต่างๆ เนื้อหาส่วนที่น่าสนใจที่ผมจำได้ที่สุดก็คือท่านบอกว่ามีโครงสร้างเด่นๆที่สำคัญสองประการคือโครงสร้างที่ดีที่สุดและโครงสร้างที่ร้ายที่สุด แต่ในรายละเอียดว่ามีโครงสร้างอะไรบ้างนั้นผมจำไม่ได้แล้ว ที่จำได้แน่ๆก็คือโครงสร้างที่ร้ายที่สุดตามความเห็นของท่านคือ “เกมะทรุมโยค” เพราะโครงสร้างนี้นอกจากจะให้ร้ายแก่ดวงชะตาแล้ว ยังมีผลทำให้โครงสร้างที่ให้ผลดีอื่นๆทั้งหมดสูญสลายไปสิ้น ท่านกล่าวถึงเกมะทรุมโยคไว้โดยละเอียดใน “แนวทางศึกษาโหราศาสตร์” หน้าที่ 512 ไว้ดังนี้ “ถ้าในภพที่ 2 และ 12 จากตำแหน่งของจันทร์ในดวงชะตา ไม่มีดาวเคราะห์ใดๆสถิตอยู่เลยแม้แต่ดวงเดียว โดยไม่นับอาทิตย์ (คือถึงแม้จะมีอาทิตย์อยู่ในตำแหน่งที่ 2 หรือภพที่ 12 ก็ไม่นับ โดยถือว่าไม่มีดาวเคราะห์เช่นกัน เนื่องจากอาทิตย์เมื่ออยู่ใกล้ตำแหน่งกับจันทร์ เป็นข่ายเขตของจุดดับหรืออามาวสี) ราหู และเกตุ สากล รวมทั้งเกตุไทย ด้วยท่านเรียกชาตาชนิดนี้ว่า “เกมะทรุมโยค” ซึ่งเป็นโยคที่บันดาลความวิบัติให้อย่างยิ่งใหญ่ในดวงชะตา แต่ก็มีท่านผู้รู้ได้ให้ความเห็นเพิ่มเติมในเรื่องเกมะทรุมโยคเอาไว้ว่า ถ้าหากในภพเกณฑ์จากจันทร์ คือภพที่ 1, 4, 7, 10 มีดาวเคราะห์แม้แต่เพียง 1 ดวง เจ้าชะตามิได้เกมะทรุมโยค หรือจันทร์ในดวงชะตานั้นเป็นจันทร์เพ็ญคือมีอาทิตย์เล็งอยู่ อำนาจของจันทร์เพ็ญสามารถลบล้างเกมะทรุมโยคให้สิ้นไปได้ (ผมมีความเห็นว่า สรุปคือนับเฉพาะดาวพระเคราะห์ที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่าทั้ง 5 ดวงคือ อังคาร พุธ พฤหัส ศุกร์ และเสาร์เท่านั้น ดาวที่ค้นพบใหม่คือ มฤตยู เน็ปจูน พลูโต และดาวทิพย์ทั้งหลายในยูเรเนี่ยนก็ไม่นับ เพราะในยุคที่มหาฤาษีและปราชญ์โบราณเขียนคัมภีร์โหราศาสตร์นั้นยังไม่พบดาวเคราะห์เหล่านี้)
ทำไมโหรจึงเกลียดกลัวเกมะทรุมโยคนี้นัก ก็เนื่องจากเหตุว่า ถ้าหากดวงชะตาที่ได้กฎเกณฑ์ของโยคที่ดีอย่างอื่น แต่ถ้าหากเกิดเกมะทรุมโยคขึ้น อำนาจของเกมะทรุมโยคจะล้างผลาญผลดีของโยคอื่นๆให้สิ้นไป ผู้ใดที่เกิดมามีเกมะทรุมโยคในดวงชาตา จะเป็นคนที่อาภัพอย่างหนัก ถึงแม้จะเป็นพระราชโอรส หรือเป็นบุตรของมหาเศรษฐีก็ดี ผู้นั้นจะประสพความวิบัติอย่างใหญ่หลวง มีอนาคตไม่สุกใส จะรักษาทรัพย์สมบัติไว้ไม่ได้ จะมีแต่ความระทมทุกข์ มองโลกในแง่ร้าย ปราศจากผู้ที่เหลียวแลและเห็นอกเห็นใจ นอกจากนั้นยังถูกสิ่งแวดล้อม หรือผู้มีอิทธิพลบีบบังคับให้กระทำการ ซึ่งไม่ดีไม่งามต่างๆ ผู้ใดที่เกิดมาในดวงชาตามีเกมะทรุมโยค ผู้นั้นจะเป็นเจ้าชู้ มีจิตใจอยากได้ของอันเป็นที่รักของบุคคลอื่น ชอบอาศัยบ่าคนอื่นเป็นบันไดทอดพาตัวไปสู่ความดี มักทำอะไรผิดๆพลาดๆเสมอ เข้าตำราที่ว่าเห็นกงจักรเป็นดอกบัว เป็นคนมีนิสัยเหนียวหนี้และเป็นทาสอารมณ์
เกมะทรุมโยคตามที่กล่าวมานี้ กล่าวแต่เพียงที่คิดจากหลักเกณฑ์ของจันทร์เท่านั้น เมื่อได้สำรวจดวงชะตาดูแล้ว หากไม่ปรากฏว่ามีเกมะทรุมโยคจากจันทร์แล้ว ต้องพิจารณาจากลัคน์ประกอบด้วย เพราะเกมะทรุมโยคนี้ อาจจะเกิดจากลัคนาในดวงชะตาได้เหมือนกันกล่าวคือ 1. ถ้าเจ้าเรือนของภพที่ 9 จากลัคนา เข้าไปอยู่ในภพที่ 12 จากลัคนา และเจ้าเรือนภพที่ 12 นั้น ได้ตำแหน่งเข้มแข็ง เข้าไปสถิตอยู่ในภพที่ 2 จากลัคนา ทั้งยังมีดาวบาปเคราะห์อยู่ในภพที่ 3 จากลัคนาด้วย ถ้าเข้ากับกฎเกณฑ์เช่นนี้ ดวงชาตานี้จัดว่าอยู่ในเกณฑ์ของเกมะทรุมโยค เช่น ลัคนาอยู่ในราศีธนู ดาวเกษตรเจ้าเรือนภพที่ 9 (สิงห์) อันได้แก่อาทิตย์ เข้าไปสถิตอยู่ในภพที่ 12 (พิจิก) ดาวเกษตรเจ้าเรือนภพที่ 12 (พิจิก) อันได้แก่อังคาร เข้าไปอยู่ในราศีมังกรภพที่ 2 ได้ตำแหน่งอุจจ แล้วมีบาปเคราะห์เช่นราหูอยู่ในภพที่ 3 (กุมภ์) 2. ถ้าเจ้าเรือนภพที่ 9 จากลัคนา เข้าไปอยู่ในภพที่ 12 จากลัคนา และเจ้าเรือนที่ 12 เข้าไปอยู่ในภพที่ 2 จากลัคนา และไม่เข้มแข็ง มีดาวบาปเคราะห์เข้าไปอยู่ในภพที่ 3 จากลัคนาด้วย ดังนี้ก็เข้าเกณฑ์ของเกมะทรุมโยคด้วย เช่น ลัคนาอยู่ในราศีมีน ดาวเกษตรเจ้าเรือนภพที่ 9 (พิจิก) อันได้แก่อังคาร เข้าไปสถิตอยู่ในภพที่ 12 (กุมภ์) ดาวเกษตรเจ้าเรือนภพที่ 12 (กุมภ์) อันได้แก่เสาร์ เข้าไปสถิตอยู่ในราศีเมษภพที่ 2 ไม่เข้มแข็งเพราะได้ตำแหน่งนิจ มีบาปเคราะห์เช่นราหูอยู่ในภพที่ 3 (พฤศภ) 3. ภพเกณฑ์จากลัคนา อันได้แก่ภพที่ 1, 4, 7, และ 10 มีจันทร์ , เสาร์, ศุกร์ สามดาวเคราะห์แยกกันอยู่ พร้อมกันนั้นก็มีอาทิตย์กับอังคาร แยกกันอยู่ในภพที่ 8 หรือภพที่ 12 จากลัคนา ชาตานี้ก็เข้ากับกฎเกณฑ์ของเกมะทรุมโยค เช่น ลัคนาอยู่ราศีเมษ มีจันทร์กุมลัคนา (ภพ 1) ศุกร์อยู่ในราศีกรกฎ (ภพ 4) เสาร์อยู่ในราศีตุล (ภพ 7) อาทิตย์เข้าไปอยู่ในราศีพิจิก (ภพ 8) พร้อมกันนั้นอังคารก็ไปอยู่ในราศีมีน (ภพ 12)”
อาจารย์ประยูร พลอารีย์เคยพูดถึงโครงสร้าง “เกมะทรุมโยค” ในชั้นเรียนว่า โหราศาสตร์ตะวันตกก็พิจารณาการที่จันทร์อยู่โดดเดี่ยวในจักราศีว่าเป็นโครงสร้างร้ายเช่นเดียวกัน เพราะจันทร์เป็นดาวเคราะห์ ที่อ่อนไหวมากอยู่แล้ว การอยู่โดดเดี่ยวโดยไม่มีดาวเคราะห์ใดอยู่หน้าหรือหลังเลยจึงเป็นสถานะภาพที่ไม่ดียิ่งสำหรับจันทร์ในดวงชะตา”
ดวงชะตาที่แนบมากับกระทู้นี้เป็นดวงชะตาตัวอย่างสำหรับเกมะทรุมโยค ซึ่งเจ้าชะตาอนุญาตให้ผมนำมาเขียนประกอบกระทู้นี้ได้ ดวงชะตานี้เป็นดวงชะตาของนายแพทย์ท่านหนึ่งซึ่งวิถีชีวิตของท่านน่าจะสะท้อนภาพของเกมะทรุมโยคในดวงชะตาได้ค่อนข้างชัดเจน นายแพทย์ท่านนี้สมัยเรียนหนังสือระดับมัธยมปลายถือว่าเป็นคนเก่งในระดับแนวหน้าของประเทศได้คนหนึ่ง ภายหลังเรียนจบแพทย์แล้วท่านก็รับราชการเป็นนายแพทย์ในพื้นที่ภาคอีสานส่วนที่ได้ชื่อว่าแห้งแล้งที่สุดในประเทศไทย ทำงานด้วยความทุ่มเทเสียสละ และได้ลาออกจากราชการในตำแหน่งผู้อำนวยการโรงพยาบาลแห่งหนึ่งเพื่อไปทำงานกับภาคเอกชน หน้าที่การงานไปได้ดีระดับหนึ่งจนได้รับการเสนอให้เป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลที่ท่านทำงานอยู่ ซึ่ง ณ เวลานั้นก็เป็นจุดเริ่มต้นของการหักเหในชีวิตที่สำคัญ ท่านไม่รับตำแหน่งผู้อำนวยการโดยให้เหตุผลกับเจ้าของว่าเงินเดือนแค่นั้นท่านพอแล้ว หลังจากนั้นท่านก็เริ่มมีแนวคิดในทำนองว่าวิชาแพทย์นี้แท้จริงแล้วน่าจะนำความทุกข์ทรมานมาให้กับคนไข้มากกว่าการช่วยให้พ้นทุกข์ เพราะส่วนใหญ่แล้วเป็นการรักษาจากปลายเหตุ โดยไม่สามารถทราบสาเหตุของโรค การรักษาส่วนใหญ่จึงก่อให้เกิดผลสืบเนื่องข้างเคียง ที่ผลโดยรวมแล้วนำความทุกข์ทรมานมาสู่คนไข้และเป็นผลร้ายมากกว่าผลดี และยังเป็นการเปิดช่องให้วงการแพทย์บางส่วนใช้เป็นเงื่อนไขในการหลอกเรียกเอาเงินมากเกินเลยไปมากๆจากการตรวจรักษาที่ไร้ประโยชน์เหล่านี้ (ยุคนี้อาจไม่ใช่บางส่วน แต่เป็นส่วนใหญ่ก็ได้) แนวคิดนี้ของท่านเข้มข้นรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ในที่สุดท่านก็ลาออกจากงานและใช้ชีวิตอย่างสมถะจนถึงปัจจุบัน (แต่ก็สามารถดูแลคนในครอบครัวให้อยู่ได้โดยไม่ลำบาก) การที่ท่านไม่ทำงานก่อให้เกิดผลข้างเคียงกับครอบครัว ญาติพี่น้อง ที่มองคนไม่ทำงานด้วยภาพพจน์ที่ไม่ดีเลยตามค่านิยมในสังคมโดยทั่วไป ประกอบกับเหตุการณ์จรอีกหลายๆเรื่องในชีวิตที่ทำให้ในที่สุดขณะนี้ท่านอยู่ในสภาพที่ต้องใช้ชีวิตอย่างสันโดษและสมถะมากๆในห้องเช่าเล็กๆราคาถูกๆ ในระดับเดียวกับผู้ใช้แรงงานที่ต้องหาเช้ากินค่ำ ซึ่งท่านอาจจะต้องอยู่ในสภาวะเช่นนี้ไปจนวาระสุดท้ายของชีวิต สภาพการณ์ของท่านตอนนี้น่าจะเป็นผลของเกมะทรุมโยคที่อาจารย์เทพย์และคัมภีร์อินเดียโบราณเกือบทุกฉบับกล่าวไว้ตรงกัน
ถึงแม้สภาพทางกายและทางวัตถุท่านจะตกอยู่ในสภาพคนที่อาภัพหนักหนาสาหัสจากผลของโครงสร้างร้ายยิ่งก็ตาม แต่ในทางจิตใจแล้วท่านมีความรู้สึกยอมรับสภาพและความเป็นไปในชีวิต ไม่ดิ้นรนขัดขืนต่อความเป็นไปของโชคชะตา ยอมรับความจริงว่าตนเองเป็นเพียงเศษธุลีในท่ามกลางกระแสธารอันไม่มีวันสิ้นสุดของธรรมชาติ ไม่ได้โลภ ไม่ได้ต้องการอะไร ไม่นึกว่าตัวเองอาภัพอับวาสนาแต่อย่างใด ตรงกันข้ามท่านกลับมีจิตใจที่เป็นสุข สงบจากความทุกข์ ความโลภ ได้เป็นส่วนใหญ่ (เท่าที่ผมรู้จักท่านมา และคบหากับท่านมาเกือบห้าสิบปีแล้ว) ตลอดชีวิตของท่านที่ผ่านมาก็มีแต่ประกอบกรรมดีเป็นส่วนใหญ่ ไม่เคยทุจริต คดโกง หรือละโมบหลอกหลวงใคร คำอธิบายทางโหราศาสตร์ก็คือ ในดวงชะตานี้แม้จะมีเกมะทรุมโยค ซึ่งสามารถทำลายล้างโครงสร้างดีๆทุกโครงสร้างที่มีอยู่ในดวงชะตาให้สูญสิ้นไปได้หมด แต่ในขณะเดียวกันดวงชาตานี้ก็มี “อริษฎะภังคะโยค” หรือโยคล้างวิบัติ ที่ผมเคยเขียนไว้ในบทความเรื่อง “ความสำคัญของดาวพฤหัสในดวงชาตาฯ” ซึ่งทุกคัมภีร์อินเดียโบราณกล่าวตรงกันถึงผลของโครงสร้างนี้ไว้ดังนี้ “ในดวงชะตาใดถ้ามีดาวพฤหัสบดีที่เข้มแข็ง อยู่ในภพเกนทระกับลัคนา ดาวพฤหัสบดีในดวงชะตาจะสามารถทำลายล้างความวิบัติต่างๆในดวงชะตาได้หมดสิ้น ไม่ว่าความวิบัตินั้นจะยิ่งใหญ่สักเพียงใด เปรียบเหมือนตรีศูลของพระศิวะเจ้าย่อมสามารถปราบอสูรร้ายมารชั่วต่างๆได้หมดสิ้น” ในดวงชะตานี้ ดาวพฤหัสสถิตในราศีกุมภ์เป็นเจ็ดกับลัคนา มีดาวสลับเกษตร 4 ดวง ได้แก่ พฤหัสอยู่เรือนเสาร์ เสาร์อยู่เรือนอังคาร อังคารอยู่เรือนพุธ พุธอยู่เรือนพฤหัส ดาวพฤหัสจึงเสมือนหนึ่งเป็นเกษตรอีกด้วย และพิจารณาได้ว่าเข้มแข็ง
อาจารย์เทพย์ฯ เคยสอนผมนอกชั้นเรียนว่า ในดวงชะตาใด ถ้ามีดาวพฤหัสที่เข้มแข็งอยู่ในภพเกนทระจากลัคนา ดาวพฤหัสดวงนั้นจะเป็นเสมือนหนึ่งโซ่ตรวนแห่งคุณธรรมที่ผูกมัดเจ้าชะตาไว้ทำให้ไม่สามารถจะกระทำการที่ชั่วร้ายได้ ผมคิดว่านี่เป็นเหตุผลทางโหราศาสตร์ที่นายแพทย์ท่านนี้ไม่ได้เคยกระทำการต่ำช้าเลวทรามภายใต้อิทธิพลของเกมะทรุมโยคอย่างที่ตำราบอกไว้ ผลแห่งการปะทะกันระหว่างพระศิวะเจ้า กับ จอมมาร หรือระหว่าง พระเจ้ากับซาตานในดวงชะตานี้ จอมมารซาตานอาจชนะในเรื่องของสภาพทางกายและทางวัตถุ แต่ในด้านของจิตใจ เรื่องของคุณธรรม ความเมตตา กรุณา การมีจิตใจที่เป็นสุข สงบจากความทุกข์ ความโลภ ได้เป็นส่วนใหญ่ นั้น พระศิวะเจ้าเป็นฝ่ายชนะ! บทสรุปที่สำคัญอยู่ตรงประเด็นที่ว่า แล้วถ้าดวงชะตาเราพบว่ามี เกมะทรุมโยค โดยไม่มีอริษฎะภังคะโยค ด้วย เราจะทำอย่างไรละ ผมคิดว่าถึงแม้ในกรณีนั้นเราก็ยังต้องต่อสู้ต่อไปครับ เพราะคนเราถ้าตรวจดวงชะตาแล้วพบว่าดวงไม่ดี ก็เลยต้องฆ่าตัวตายไปเลยนั้น ไม่ถูกต้องแน่ๆ ชีวิตเป็นเรื่องซับซ้อน ยังมีสิ่งต่างๆอื่นๆอีกมากมาย ที่เป็นเรื่องเร้นลับของชีวิตเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ในขณะที่วิชาโหราศาสตร์นั้นไม่ถูกต้องโดยสมบูรณ์เหมือนคณิตศาสตร์ที่ หนึ่งบวกหนึ่งต้องเป็นสอง แน่นอน คำทำนายทางโหราศาสตร์อาจผิดได้ทุกเมื่อ ชีวิตเป็นสิ่งที่มีคุณค่าและมีความหวังเสมอตราบใดที่มนุษย์เรายังไม่สิ้นหวัง และถ้ากรรมใหม่ไม่สามารถผันแปรกรรมเก่าได้ คนที่เกิดมาดวงบอกว่าเป็นคนเลว ก็จะต้องเป็นคนเลวแน่ๆตามที่ดวงชะตาบอก ศาสนาทุกศาสนาในโลกนี้ที่สอนให้คนป็นคนดีก็จะไม่มีประโยชน์อะไรเลย! |
ผู้ตั้งกระทู้ ชาญชัย (chanchai-dot-d-at-chaiyo-dot-com) :: วันที่ลงประกาศ 2013-02-24 22:41:45 IP : 58.9.168.184 |
1 |
ความคิดเห็นที่ 1 (4034355) | |
natee | ขอบคุณสำหรับข้อมูลนะครับ
|
ผู้แสดงความคิดเห็น natee วันที่ตอบ 2017-01-30 18:29:52 IP : 134.196.19.130 |
1 |
Copyright © 2010 All Rights Reserved. |
Visitors : 784799 |