แล้วถ้าคนที่บอกว่าฝนแล้งนั้นคือนักอุตุนิยมวิทยาซึ่งเป็นวิทยาศาสตร์แขนงหนึ่งล่ะครับ   นักโหราศาสตร์เดี๋ยวนี้แทบไม่เห็นใครทายเรื่องดินฟ้าอากาศ  พวกหมอดูที่ชอบออกสื่อเห็นทายแต่เรื่องดารากับเรื่องการเมืองกันทั้งนั้น

จริงจริงแล้วขึ้นอยู่กับเรื่องหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องใช่ไม๊ครับ เพราะ ผมไม่แน่ใจว่า โหราศาสตร์ สามารถล่วงรู้ถึงเหตุการทุกเรื่อง หรือวิทยาศาสตร์สามารถเปลี่ยนแปลงแก้ไขโหราศาสตร์ในบางเรื่อง

เหมือนกับที่ผมเคยเห็น เดียวนี้คนเราไปเปิดขายหมู่บ้านจากที่ดินที่เคยเป็นสุสาน แล้วให้ผู้ชำนาญการมาเชิญดวงวิญญาณไปสิงสถิตที่อื่นอะไรทำนองนี้

ทุกอย่างเปลี่ยนได้ใช่ไม๊ครับขึ้นอยู่กับศาสตร์ใดศาสตร์หนึ่งที่เกี่ยวข้อง

ดูจากการตั้งคำถามแบบชงเองกินเอง กับที่เขาไปแสดงความเห็นในอีกกระทู้ เข้าใจว่าคงเจตนาป่วน  แต่ถ้าตอบดีๆ ก็อาจพลิกวิกฤตเป็นโอกาสในการทำความเข้าใจซึ่งกันและกันได้

ถ้าดูแต่หัวข้อที่ว่าวิทยาศาสตร์กับโหราศาสตร์เกี่ยวกันอย่างไรโดยยังไม่ดูที่เขายกตัวอย่างมา  สำหรับผมไม่เคยคิดจะเอาโหราศาสตร์ไปก้าวก่ายศาสตร์อื่นใด  และยังจะต้องพึ่งพาอาศัยศาสตร์อื่นๆ ด้วยซ้ำ ปฏิทินโหรที่ใช้อยู่ทุกวันก็ใช้ปฏิทินที่ตรงตามหลักดาราศาสตร์เป็นหลัก  (แม้แต่ปฏิทินระบบสุริยยาตร์ที่โหราไทยหลายสำนักยังใช้ที่จริงมันก็คือดาราศาสตร์หรือวิทยาศาสตร์ของคนโบราณที่ไม่อัพเดทแล้ว)  การพยากรณ์อะไรก็พยายามชี้แจงแสดงเหตุผลที่พอจะพิสูจน์ได้  จะเรียกว่าวิทยาศาสตร์หรือไม่ก็ตามใจ  พยากรณ์แล้วก็ยังอยากให้ตรวจสอบกับข้อมูลด้านอื่นประกอบกันไป

ในส่วนที่เอาเรื่องฝนแล้งฝนตกมานั้น  เขาคงเข้าใจโหราศาสตร์เพียงผิวเผินว่าเป็นศาสตร์ที่ทายเหตุการณ์แบบตายตัว  แต่หลายครั้งโหราศาสตร์ก็เช่นเดียวกับศาสตร์อื่นที่ต้องมีคำอธิบายที่มีเหตุมีผลประกอบ  การที่เราจะทายสรุปเพียงว่า "ฝนแล้ง" โดยไม่บอกเหตุผลความเป็นมาอะไรนั้น  คนที่ไม่รู้ศาสตร์อะไรเลยก็แอบอ้างทายได้  หากจะใช้โหราศาสตร์หรือศาสตร์ใดๆ ก็ตามทายว่า "ฝนแล้ง" โดยมีเหตุผลประกอบว่าเพราะไม่มีลมมรสุมพัดผ่าน  แล้วจะมีนักวิทยาศาสตร์คิดหาวิธีให้ฝนตกโดยสร้างฝนเทียมจากก้อนเมฆ  มันก็ไม่ใช่เรื่องที่คนทายว่า "ฝนแล้ง" จะเสียหน้า  เพราะเป็นการแก้ปัญหานอกเหนือเงื่อนไขการพยากรณ์  สรุปว่าไม่ใช่ศาสตร์ไหนไปกำหนดศาสตร์ไหน  หรือจับเอาศาสตร์หนึ่งมาชนกับอีกศาสตร์หนึ่งแบบฉาบฉวย  แต่ศาสตร์ทุกศาสตร์สามารถช่วยเหลือเกื้อกูลกันได้ครับ

ขอบคุณครับ ผมก็เป็นคนที่สงสัย เพราะเชื่อว่าโหราศาสตร์นั้นเป็นเรื่องที่ลี้ลับ แต่หากท่านผู้รู้ได้ทายผลว่าจะออกมาอย่างไร เราก็สามารถที่จะระวังตัว หรือหาแนวทางป้องกันครับ

เพียงแต่บางเหตุการณ์ มีบุคคลเป็นผู้กำหนดและเปลี่ยนแปลงได้ด้วยกลไกของวิทยาศาสตร์ จึงอยากทราบว่าเกี่ยวข้องกันได้หรือเปล่า

ไม่ได้ก่อกวนน๊ะครับเพียงแต่มีข้อสงสัยว่าบางสิ่งบางอย่างนั้น เป็นเรื่องที่ตายตัวหรือเปล่า แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เคารพในคำแนะนำครับ

ขอบคุณครับ

โหราศาสตร์ไม่ได้เป็นเรื่องลี้ลับครับ เป็นศาสตร์แขนงหนึ่งที่มีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่องและหยุดชะงักเป็นบางช่วง ปัจจัยทางโหราศาสตร์บ่งบอกลักษณะทางปรัชญาของสิ่งที่จะเกิด ซึ่งอาจเกิดได้หลายลักษณะ ไม่ได้เป็นกฎตายตัว 100% ว่าจะเกิดอย่างนั้นอย่างนี้ การถอดความหมายของปัจจัยทางโหราศาสตร์มาเป็นคำพยากรณ์นั้น ต้องใช้ศิลปะผสมด้วย

วิทยาศาสตร์เองก็ไม่สามารถบ่งบอกอนาคตแม้กระทั่งในห้องทดลองได้ถูกต้องร้อยเปอร์เซ็นต์หรอกครับ เห็นได้ชัดจากทฤษฎีความไม่แน่นอนของไฮเซนเบิร์ก ที่ว่า "ไม่มีทางระบุตำแหน่งและโมเมนตัมของอนุภาคได้แม่นยำพร้อมกัน" คือหากวัดตำแหน่งอนุภาคแม่นยำ ก็จะไม่สามารถบอกโมเมนตัมของอนุภาคได้แม่นยำ หรือกลับกัน หากวัดโมเมนตัมแม่นยำ ก็ไม่สามารถบอกตำแหน่งได้แม่นยำ

การถกเถียงว่า อนาคตถูกลิขิตไว้แน่นอนแล้ว (พรหมลิขิต หรือ Fate) หรือมนุษย์สามารถปรับแก้ได้ (กรรมลิขิต หรือ Freewill) มีมาตั้งแต่โบราณกาลแล้ว สำหรับผมในฐานะชาวพุทธที่ศึกษาโหราศาสตร์ มีความเชื่อว่า มนุษย์เราสามารถปรับเปลี่ยนอนาคตได้ด้วยการกระทำของตน ภายใต้กรอบความเป็นไปได้ที่มาจากผลของปัจจัยต่างๆเช่นกรรมในอดีต, ปัจจัยแวดล้อม ครับ

ที่แท้คุณโหราศาสตร์คือคนเดียวกับผู้ตั้งกระทู้หรอกหรือ  ผมลืมสังเกตไอพีไป  ดูในกระทู้รู้สึกว่าพูดจาชอบกลๆ พอมาดูในความเห็นที่ 2 เหมือนเป็นคนละคนกัน  ขออภัยถ้าบางคำจะเหน็บแนมไปบ้าง เจตนาเดิมของคุณจะอย่างไรถ้ายังรับฟังเหตุผลกันอย่างนี้ก็ยินดีที่แลกเปลี่ยนความเห็นกันครับ  และขอบคุณคุณ Pallas ที่ช่วยเสริม

ฝนตกน่ะไม่ยากหรอกคับ ฤดูกาลมันบังคับ อุตุโหราเขาทำได้   แต่ตกที่ไหนเวลาเท่าไหร่มากน้อยลีลายังไงเนี่ย  โหรที่ทำได้มีถมเถไปคับ  อ้ายที่คิดว่าไม่มีนั้น   ความเป็นจริงก็มีอยู่  คนที่พูดที่คิดเช่นนี้ต่างหากที่ไม่มีวาสนาจะเจอ

ก่อนปีใหม่ ตรุษจีน สงกรานต์ และลอยกระทง  ก่อน เปิดเทอม 16 พฤภา  จะมีฝนตก

สิงหาตกภาคเหนือ  กันยา ตกกรุงเทพ 

อาทิตย์มี เคคลิเนชั่น ถึงไหน ทีนั่นฝนตก

ลมก็เช่นกัน ฤดูกาลเดือนไหน พื้นที่นั้นมาจากทิศไหน อุตุโหรา เขารู้เขาเรียนกันมานานแล้ว

มันยากตรงที่ว่า  พื้นที่นี้ เวลาไหนฝนจะตก  กี่โมง  ซึ่งเขาก็มีวิธีการคำนวณกันตรงไม่เกิน 4-5 นาที

เรื่องพวกนี้เป็นวิทยาศาสตร์   เพราะ ใช้อาทิตย์บังคับ  อาทิตย์เป็นธาตุไฟและความร้อนก็จริง แต่หมายถึงฝน

เพราะเมื่อมี เคคลิเนชั่นตรงหัว ในพื้นที่ไหน ตรงนั้น น้ำจะร้อน ไอน้ำระเหยมากเกิดเป็นเป็นเมฆฝน

อากาศร้อนบนพื้นดิน มีมาก พอลอยสูงขึ้น อากาศเย็นจากทะเลก็เข้ามาแทนที่ เกิดเป็นลม พัดเอาฝนมาตก

โหรน่ะมือจ๊าบๆ เขาเล่นกันถึงขนาดว่า  ตกเวลาไหนขาดเม็ดเวลาไหน  ฟ้าร้องหรือเปล่าด้วยซ้ำ

ไม่ใช่แค่ ทายได้ว่า  ปีนี้ฝนแล้ง 

อันนั้นเขาเรียกเสี่ยงทาย  ไม่ใช่โหราศาสตร์