คุณกำลังเจอปัญหา !! ผัวหน่าย ...

คุณกำลังเจอปัญหา !! ผัวหน่าย เมียหนี แฟนนอกใจ ทรมานจนทนไม่ไหวรึป่าว ลองมาดูทางนี้สิ!!!
apple	คุณกำลังเจอปัญหา !! ผัวหน่าย เมียหนี แฟนนอกใจ ทรมานจนทนไม่ไหวรึป่าว ลองมาดูทางนี้สิ!!! คุณเป็นคนนึงที่มีปัญหาเรื่องความรักหรือป่าว คุณกำลังมีปัญหาที่รู้สึกว่ามันหนักหน่วงมากในชีวิตคุณหรือป่าว ถ้าคุณมีปัญหาเหล่านี้ ลองมาอ่านตรงนี้ค่ะ มันอาจเป็นทางออกสำหรับการแก้ปัญหาของคุณได้ค่ะ มนุษย์เกือบทุกคนล้วนมีความรัก และที่ใดมีรักก็ย่อมมีทุกข์ เปิ้ลเชื่อว่ามนุษย์เกือบทุกคนล้วนมีความทุกข์จากความรักด้วยกันทุกคน แต่จะมีสักกี่คนที่จะจัดการปัญหาในเรื่องความรักได้ บางคนสามารถจะปลงในเรื่องนี้ แต่อีกหลายคนที่ยังทำใจไม่ได้ก็ต้องวนเวียนในความทุกข์จากความรัก อยู่อย่างทรมานใจ และทรมานกาย เปิ้ลเองก็เป็นหนึ่งคนที่เจอกับปัญหาความรัก คือตัวเปิ้ลมีแฟนที่เรียนด้วยกัน ณ มหาลัยแห่งหนึ่ง เปิ้ลรักเค้ามากค่ะ วันนึงก็เจอปัญหาความรัก ที่ชายหญิงหลายๆคนเจอเช่นเดียวกัน คือคนรักนอกใจ มีผู้หญิงอื่นมาพัวพัน ด้วยความที่รักมาก เราจึงกล้ำกลืนฝืนใจ เปิ้ลไม่ใช่คนดีเลิศที่จะตัดใจจากเรื่องความรัก เข้าวัดเข้าวาแล้วตัดใจคิดเสียว่ามันเป็นกรรมได้ เปิ้ลทำไม่ได้ เปิ้ลไม่อยากยอมแพ้ แต่คุณเคยรู้สึกไหม ว่าปัญหา บางเรื่องก็เกินกว่าที่ความสามารถเราๆทำได้ เปิ้ลได้คุยกับเพื่อนคนนึงถึงปัญหาที่ประสบ เพื่อนเค้าก็ได้แนะนำให้มาพบท่านอาจารย์ท่านหนึ่งค่ะ เพราะท่านได้ช่วยแก้ปัญหาความรักที่เพื่อนของเปิ้ลประสบมาเหมือนกัน ท่านอาจารย์ผู้นี้คือท่านอาจารย์เสือ เข็มเทวดาค่ะ เปิ้ลได้เข้าไปพบท่านอาจารย์ และได้สักยันต์น้ำมันเสน่ห์ค่ะ คือสักแล้วเป็นรอยแดงแค่ไม่กี่วัน รอยก็หายไป แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือความอัศจรรย์จากการสักยันต์นี้ค่ะ ยันต์ที่เปิ้ลสักคือ ยันต์มหาภูติพิศวาส ซึ่งเป็นยันต์น้ำมันเสน่ห์ที่มีชื่อเสียงมากของชมรมอนุรักษ์การสักยันต์ไทย ยันต์นี้มีพุทธคุณในการดึงดูดผู้คนทั้งชายและหญิงให้เข้าหาเรา รักใคร่ เมตตาเรา ให้ความช่วยเหลือ มีเสน่ห์ เป็นมหาละลวยแก่ผู้คนที่พบเจอเรา เรียกได้ว่ารอบด้านทั้งการงาน การเรียน และความรัก และอีกยันต์หนึ่งที่เสน่ห์รุนแรงไม่แพ้กันคือยันต์แม่เป๋อ(เสน่ห์นางรับ) รับทั้งความรัก และโชคลาภรุนแรง ทำให้เพศตรงข้ามหลงใหล แฟนหลงใหล ไม่จากเราไปไหน ซึ่ง 2 ยันต์นี้เป็นยันต์มหาเสน่ห์ที่เรียกได้ว่า มาแรงแซงโค้งเลยก็ว่าได้ โดยท่านอาจารย์เมตตาลงนะหน้าทอง และสาลิกาลิ้นทองให้ด้วยค่ะ พอเปิ้ลไปเจอแฟน จากพฤติกรรมคนที่เย็นชากับเราก็เปลี่ยนไป แคร์เรามากขึ้น ฟังเรามากขึ้น มีกิจกรรมที่โรแมนติกร่วมกันมากขึ้น และเค้าก็กลับมาหาเรา รักกันเหมือนเดิม ซึ่งแปลกมากๆ เพราะแฟนเปิ้ลเค้าบอกเลิกกับเปิ้ลแล้ว แต่เรายังคงเจอกันที่มหาลัย และเปิ้ลกับเค้าก็กลับมาเป็นแฟนกันเช่นเดิม เค้าเลิกเจ้าชู้ นอกจากนี้ ไม่เพียงมีเสน่ห์กับแฟนเท่านั้นนะคะ หนุ่มๆที่มหาลัยก็เข้ามาคุยกับเรามากขึ้น แข่งกันเทคแคร์ จากที่เราเป็นฝ่ายกลุ้มที่มีสาวๆมาพัวพัน ก็กลายเป็นแฟนเปิ้ลที่กลุ้มแทน เพราะหนุ่มๆเล่นมาขายขนมจีบไม่เว้นแต่ละวัน เปิ้ลรู้สึกว่าจากเราเป็นถูกเลือก เราก็เป็นฝ่ายที่เลือกคนที่เข้ามาในชีวิต ทุกวันนี้แฟนก็ได้แต่บ่นว่าไปทำอะไรมา ทำไมเรารู้สึกรัก หลงตัวเองจัง เพื่อนๆเชื่อมั้ยค่ะ ทุกวันนี้เปิ้ลมีความสุขมาก อยากออกไปเจอผู้คนทุกๆวัน นอกจากนี้อาจารย์ เพื่อนๆที่มหาลัยก็รักใคร่ ช่วยเหลือ ขอความช่วยเหลือ ขอความกรุณาใดๆก็มีแค่คนให้ความร่วมมือ ผู้ใหญ่เมตตา สำหรับตัวเปิ้ล เปิ้ลเคยบอกกับตัวเองว่า หากเสน่ห์ที่สำนักท่านอาจารย์เสือ เข็มเทวดาเป็นของจริง ได้ผล เพราะตัวเปิ้ลเองอยากได้เจอของจริงๆ ไม่หลอกลวง วันนี้เปิ้ลรู้สึกโชคดีที่เจอท่านอาจารย์ที่ใจดี มีเมตตา เป็นเสมือนหมอที่ช่วยปัดเป่าความทุกข์ให้ออกจากใจเปิ้ลได้ เปิ้ลสัญญากับตัวเองว่าจะขอเผยแพร่คุณความดีของท่านอาจารย์ บอกให้คนที่มีปัญหารู้ว่า ที่นี่หล่ะ ของจริง หากคุณเป็นคนนึงที่ไม่อยากอยู่กับความทุกข์ที่เราไม่อยากเลือกวิธีการตัดใจ เพราะเปิ้ลเชื่อว่า คนเราไม่ได้เจอคนที่ถูกใจ ที่เรารักได้ง่ายๆ ถ้าคุณเป็นคนที่ไม่เชื่อ หรือคุณมีความอดทนต่อความทุกข์เหล่านี้ได้ ก็ขอให้ไปดูเวปอื่นได้เลย แต่หากคุณไม่สามารถตัดใจที่จะเลิกรักใครได้ง่ายๆ หรือทำใจให้ทนต่อความทุกข์จากความรักได้ ซึ่งมันนำไปสู่ความย่ำแย่ในทุกๆด้านตามมา ยิ่งบางคนอาจนำไปสู่ปัญหาครอบครัว ลองมาพิสูจน์ด้วยตัวคุณเองด้วยยันต์มหาเสน่ห์ 2 ยันต์ ยันต์มหาภูติพิศวาส และยันต์แม่เป๋อ นี้ดูสิค่ะ แล้วคุณจะรู้ว่ามนต์ขลังจากการสักยันต์คืออะไร และคุณจะรู้ว่าปัญหาที่มันเกินที่กำลังเราจะรับมือได้ ท่านอาจารย์เสือ เข็มเทวดาท่านนี้ช่วยได้ ที่ชมรมอนุรักษ์การสักยันต์ไทย ในซ. จรัญฯ 85 ค่ะ ลองปรึกษาพี่หมวย น่ารัก ใจดีมากๆที่เบอร์ 089-4488-422 ได้ค่ะ หากเจอปัญหาเรื่องงาน เรื่องเงินก็ลองถามพี่เค้าดูนะคะ แล้วคุณจะพบทางออก และมีความสุขแบบที่เปิ้ลมาแบ่งปันในครั้งนี้นะคะ ดูข้อมูลอาจารย์เสือที่ www.tattoobuddha.com จ้า
ผู้ตั้งกระทู้ apple :: วันที่ลงประกาศ 2009-06-03 13:06:31 IP : 58.64.51.245

ความคิดเห็นที่ 1 (3016520)
โรจน์-อินโฟ	โปรดอ่านด้วยวิจารณญาณ!!!
ผู้แสดงความคิดเห็น โรจน์-อินโฟ (webmaster-at-rojn-info-dot-com)วันที่ตอบ 2009-06-03 15:32:49 IP : 203.114.104.116

ความคิดเห็นที่ 2 (3018741)

โรจน์-อินโฟ

หลักธรรมในการเลือกคู่ครอง คือ สมชีวิธรรม 4 เราควรเลือกคู่ครองที่มีลักษณะดังนี้

สมชีวิธรรม 4 (qualities which make a couple well matched)

เป็นธรรมที่จะทำให้คู่สมรส ครองรักกันได้ราบรื่น กลมกลืน และยาวนาน ได้แก่

1. สมสัทธา (to be matched in faith)

คือ มีศรัทธาสมกัน มีความเชื่อในสิ่งเดียวกัน มีทัศนคติในการมองโลก มองชีวิต ไปในทางเดียวกัน ก็จะทำให้เข้าใจกันง่าย ไม่มีความขัดแย้งกัน

2. สมสีลา (to be matched in moral)

คือ มีศีลสมกัน ทั้งฝ่ายชายและฝ่ายหญิง ต้องมีหลักในการประพฤติปฏิบัติตนเรื่องผิดชอบชั่วดีเหมือนๆกัน เช่น ถ้าคนหนึ่งไม่ชอบการโกหก อีกคนหนึ่งต้องไม่ชอบการโกหกด้วย ถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมักโกหกเป็นนิสัย อีกฝ่ายหนึ่งย่อมเกิดความไม่ไว้วางใจ และอยู่ด้วยกันอย่างไม่มีความสุข หรือถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ชอบเล่นการพนัน แต่อีกฝ่ายชอบมัวเมากับการพนัน ก็ไม่ควรเลือกมาเป็นคู่ครอง เพราะจะมีแต่ความขัดแย้ง อยู่ด้วยกันไปก็ไม่มีความสุข

3. สมจาคา (to be matched in generosity)

คือ มีจาคะสมกัน มีใจเมตตากรุณา โอบอ้อมอารี เหมือนๆกัน ชอบเกื้อกูลสนับสนุนญาติพี่น้อง และคนที่ตกทุกข์ได้ยาก ถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเป็นคนตระหนี่ ก็ย่อมเกิดความไม่พอใจทุกครั้งที่อีกฝ่ายหนึ่งช่วยเหลือแบ่งปันแก่ผู้อื่น หากอยู่ร่วมกันไป ชีวิตย่อมจะมีแต่ความขัดแย้ง ไม่มีความสงบราบรื่น

4. สมปัญญา (to be matched in wisdom)

คือ มีปัญญาสมกัน ทั้งชายและหญิง ต้องมีระดับสติปัญญาใกล้เคียงกัน มีความเฉลียวฉลาด พอๆกัน ความคิดความอ่านต้องไปกันได้ มีการใช้วิจารณญาณในการมองปัญหา แก้ปัญหา และตัดสินใจ ไปในทิศทางเดียวกัน เช่น ถ้าฝ่ายหนึ่งชอบใช้เหตุผลในการพิจารณาแก้ปัญหา แต่อีกฝ่ายหนึ่งชอบใช้อารมณ์ ก็ไม่ควรจะเลือกมาเป็นคู่ครอง เพราะชีวิตสมรส จะมีแต่การทะเลาะเบาะแว้ง ไม่เข้าใจกันได้ คนที่มีอะไรคล้ายๆกัน ย่อมเข้าใจกันได้ดีกว่า หรือถ้าฝ่ายหนึ่งฉลาดและเข้าใจอะไรได้ง่ายๆ อีกฝ่ายหนึ่งเป็นคนสมองทึบ เข้าใจอะไรได้ช้า การอยู่ด้วยกันทุกวัน จะทำให้เกิดความไม่กลมกลืนกัน ไม่สมดุลย์กัน คุยกันไม่รู้เรื่อง มีแต่ความอึดอัดรำคาญใจ ก็ไม่ควรเลือกมาเป็นคู่ครอง

คู่ครองตามที่่กล่าวไว้ใน สิทธิการิยะฯ มี 4 แบบ คือ

1. คู่เวรคู่กรรม

ได้แก่ คู่สามีภรรยาที่อยู่ด้วยกันแล้วทะเลาะเบาะแว้ง บางคู่ถึงขั้นตบตีกันแต่ก็ไม่เลิกรากันไป ยังคงใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน แต่มักมีเรื่องบาดหมางขัดใจกัน ทะเลาะกันอยู่เป็นประจำ ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งอาจไม่ซื่อสัตย์ อาจสุรุ่ยสุร่าย ล้างผลาญเงินทอง อาจดูถูกดูหมิ่นอีกฝ่ายหนึ่ง ไม่ยกย่องให้เกียรติ ไม่มีความเคารพเกรงใจกัน แม้การใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันไม่มีความสุข แต่ก็ยังต้องอยู่ด้วยกันต่อไป

2. คู่ทุกข์คู่ยาก

ได้แก่ คู่สามีภรรยาที่ลำบากลำบนมาด้วยกัน ฟันฝ่าอุปสรรคของชีวิตมาด้วยกัน แต่ก็รักและเห็นอกเห็นใจกันเสมอ

3. คู่สร้างคู่สม

ได้แก่ คู่สามีภรรยาที่อยู่ร่วมกัน ชีวิตมีแต่ความสุข มีโชคดี ไม่มีปัญหาและอุปสรรคใดๆ รักและให้เกียรติยกย่องกันและกัน มีความสุขอยู่ด้วยกันจนวันตาย

4. คู่อาศัย

ได้แก่คู่รัก หรือคู่สามีภรรยา ที่รักกันได้ไม่นาน ก็มีอันต้องเลิกรากันไป

ถ้า คู่สมรสคู่ใด ที่ครองรักกันอย่างมีความสุขในชีวิตนี้ และมี ศรัทธา ศีล จาคะ ปัญญา สมกัน แม้ตายจากกันไปแล้ว ชาติต่อไปก็ย่อมได้เกิดมาเป็นคู่ครองกันอีก เรียกว่า คู่แล้วไม่แคล้วกัน

จาก อังคุตตรนิกาย มีพระสูตรที่ 2 ปฐมสังวาสสูตร และทุติยสังวาสสูตร แห่งปุญญาภิสันทวรรค ทุติย- ปัณณาสก์ จตุกกนิบาต ที่่ว่าด้วยการอยู่ร่วมกันระหว่างสามีภรรยามี 4 แบบ โดยเปรียบเทียบว่า คนทุศีลเป็นเสมือนผี คนมีศีลเป็นเสมือนเทวดา ดังนี้

1. การอยู่ร่วมกันแบบผีอยู่ร่วมกับผี

หมาย ถึงสามีทุศีลอยู่ร่วมกับภรรยาทุศีล ต่างฝ่ายต่างชั่วพอๆกัน บางคู่อาจเข้าใจกันดี ไปกันได้ดี อยู่ด้วยกันได้อย่างกลมกลืน บางคู่อาจเป็นแบบ ขิงก็รา ข่าก็แรง

2. การอยู่ร่วมกันแบบผีอยู่ร่วมกับเทวดา

หมาย ถึงสามีทุศีลอยู่ร่วมกับภรรยามีศีล สามีเลวแต่อยู่ร่วมกับภรรยาที่ดี ฝ่ายสามีจะเป็นฝ่ายที่เอาเปรียบภรรยา ปฏิบัติต่อภรรยาไม่ดี การอยู่ด้วยกัน ไม่ทำให้มีความสุข

3. การอยู่ร่วมกันแบบเทวดาอยู่ร่วมกับผี

หมาย ถึงสามีมีศีลอยู่ร่วมกับภรรยาทุศีล สามีดีอยู่ร่วมกับภรรยาที่เลว ฝ่ายภรรยาเป็นภาระของสามี เอารัดเอาเปรียบสามี ปฏิบัติต่อสามีไม่ดี อาจไม่ซื่อสัตย์ นอกใจ หรือ ล้างผลาญสมบัติ การอยู่ด้วยกัน ย่อมไม่มีความกลมกลืน เข้ากันไม่ได้ดี

4. การอยู่ร่วมกันแบบเทวดาอยู่ร่วมกับเทวดา

หมาย ถึงสามีมีศีลอยู่ร่วมกับภรรยามีศีล ต่างฝ่ายต่างดีพอๆกัน รักใคร่ปรองดองกัน ถนอมน้ำใจกัน ยกย่องให้เกียรติกันและกัน สามีภรรยาแบบนี้อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขตลอดไป

พระ พุทธเจ้า ได้จำแนกภรรยาไว้ 7 แบบ ดังนี้ ถ้าท่านต้องการภรรยาแบบไหน ย่อมเลือกลักษณะหญิงที่ท่านจะเลือกมาเป็นคู่ครองได้ตามลักษณะดังกล่าวนี้ คือ

ภรรยา 7 (seven types of wives)

ภรรยาแบบต่างๆ ซึ่งจำแนกโดยคุณธรรม ความประพฤติลักษณะนิสัย และการปฏิบัติต่อสามี ดังนี้

1. วธกาภริยา (a wife like a slayer; destructive wife)

ภรรยาเยี่ยงเพชฌฆาต

ได้แก่ ภรรยาที่คิดร้ายกับสามี เป็นผู้หญิงที่ซื้อได้ด้วยเงิน เห็นแก่เงิน ไม่ได้อยู่กินกับสามีด้วยความรัก มักเจ้าชู้ มีใจยินดีในชายอื่น ดูหมิ่นไม่ยกย่องให้เกียรติ ไม่เคารพสามี

2. โจรีภริยา (a wife like a robber; thievish wife)

ภรรยาเยี่ยงโจร

ได้แก่ ภรรยาผู้ล้างผลาญทรัพย์สมบัติ ใช้เงินสุรุ่ยสุร่าย ไม่รู้จักประหยัด อาจติดการพนัน หรือชอบความหรูหราฟุ่มเฟือย ใช้เงินเกินตัว ไม่รู้จักประมาณตน

3. อัยยาภริยา (a wife like a mistress; Madam High and Mighty)

ภรรยาเยี่ยงนาย

ได้แก่ ภรรยาที่เกียจคร้าน ไม่ใส่ใจการงาน กินมาก ปากร้าย หยาบคาย ใจเหี้ยม ชอบข่มสามี

4. มาตาภริยา (a wife like a mother; motherly wife)

ภรรยาเยี่ยงมารดา

ได้แก่ ภรรยาที่หวังดีเสมอ คอยห่วงใยเอาใจใส่สามี เหมือนมารดาปกป้องบุตร และประหยัดรักษาทรัพย์ที่หามาได้

5. ภคินีภริยา (a wife like a sister; sisterly wife)

ภรรยาเยี่ยงน้องสาว

ได้แก่ ภรรยาผู้เคารพรักสามี ดังน้องรักพี่ มีใจอ่อนโยน รู้จักเกรงใจและคล้อยตามสามี

6. สขีภริยา (a wife like a companion; friendly wife)

ภรรยาเยี่ยงสหาย

ได้แก่ ภรรยาที่เป็นเหมือนเพื่อน พบสามีเมื่อใด ก็ปลาบปลื้มดีใจเหมือนเพื่อนพบเพื่อนที่จากไปนาน เป็นผู้มีการศึกษาอบรม มีกิริยามารยาท ความประพฤติดี ภักดีต่อสามี เป็นคู่คิดคู่ครอง เคียงบ่าเคียงไหล่สามี

7. ทาสีภริยา (a wife like a handmaid; slavish wife)

ภรรยาเยี่ยงทาสี

ได้แก่ ภรรยาที่ยอมอยู่ในอำนาจสามี ถูกขู่ตะคอกเฆี่ยนตี ก็อดทนไม่โกรธตอบ รักสามีมาก ยอมรับใช้และทำทุกอย่างเพื่อความสุขของสามี

พระพุทธเจ้าทรงสอนให้ภรรยาสำรวจตนเองว่า ตนเป็นภรรยาประเภทไหน และจะให้ดีควรจะเป็นภรรยาประเภทใด

สำหรับชาย อาจใช้เป็นหลักสำรวจอุปนิสัยของตนว่าเหมาะแก่หญิงประเภทใดที่จะเลือกมาไว้เป็นคู่ครอง และสำรวจหญิงที่จะเป็นคู่ครองว่าเหมาะกับอุปนิสัยของตนหรือไม่

การปฏิบัติต่อสามีหรือภรรยา มีกล่าวไว้ใน ทิศ 6 (directions; quarters)

บุคคลประเภทต่างๆ ที่เราต้องเกี่ยวข้องสัมพันธ์ทางสังคม ดุจทิศที่อยู่รอบตัว

ภรรยานั้น ถือเป็นทิศที่ 3 ปัจฉิมทิศ (ทิศตะวันตก)

ปัจฉิมทิศ (wife and children as the west or the direction behind)

ทิศเบื้องหลัง ทิศตะวันตก ได้แก่ บุตรภรรยา เพราะติดตามเป็นกำลังสนับสนุนอยู่ข้างหลัง

ก. สามีบำรุงภรรยา ผู้เป็นทิศเบื้องหลัง ดังนี้

           1) ยกย่องให้เกียรติสมกับฐานะที่เป็นภรรยา
           2) ไม่ดูหมิ่น
           3) ไม่นอกใจ
           4) มอบความเป็นใหญ่ในงานบ้านให้
           5) หาเครื่องประดับมาให้เป็นของขวัญตามโอกาส

ข. ภรรยาย่อมอนุเคราะห์สามี ดังนี้

           1) จัดงานบ้านให้เรียบร้อย
           2) สงเคราะห์ญาติมิตรทั้งสองฝ่ายด้วยดี
           3) ไม่นอกใจ
           4) รักษาทรัพย์สมบัติที่หามาได้
           5) ขยันไม่เกียจคร้านในงานทั้งปวง

ที่มา http://www.oknation.net/blog/print.php?id=247600

ผู้แสดงความคิดเห็น โรจน์-อินโฟ (webmaster-at-rojn-info-dot-com)วันที่ตอบ 2009-06-09 09:45:00 IP : 203.114.104.116

ความคิดเห็นที่ 3 (3019077)
สังคามาระตา	เขาเอาความเชื่อมาเป็นองค์ความรู้ แล้วชักจูงให้คนอื่น เชื่อตาม แบบว่า เชื่อแล้วรวย โดยเขารวยแต่ คนที่งมงายเชื่อ ทั้งเจ็บ ทั้งโง่ เสียรู้ และเสียเงิน ....
ผู้แสดงความคิดเห็น สังคามาระตา (thepresident-at-whitehouse-dot-org)วันที่ตอบ 2009-06-10 00:28:21 IP : 118.172.34.251

ความคิดเห็นที่ 4 (3019421)
ลูกศิษย์พระ	เวรกรรม เวรกรรม มนุษย์ย่อมเป็นไปตามกฏแห่งกรรม มิมีผู้ใดพ้นบ่วงกรรมไปได้ เป็นบาปอย่างมหันต์นะที่จะฝืนลิขิต จะจริงหรือเท็จอย่างไรโปรดพิจารณา หากจะว่าไม่ดีก็ไม่ได้ จะว่าดีก็ไม่ถูก ทำไมท่านไม่ทำให้ตัวท่านเองก่อน ให้คนรักท่านมากๆ มีแต่โชคลาภรุนแรง มีคนหลงใหล หากเป็นจริงดั่งว่า ตอนนี้ท่านคงมีคนไปมาหาสู่เต็มบ้านไปหมด มีโชคมีลาภรุนแรงไม่อดไม่อยาก ไม่ต้องให้คุณเจ้าของกระทู้มาช่วยโฆษณาให้หรอก หากจริงอยากคุณเปิ้ลว่า ปานนี้คนทั่งประเทศเขาคงเล่าสู่กันฟัง ดังไปทั่วโลกแล้ว ไม่มีคนเกลียด ไม่มีคนจนมีแต่คนรวย เพราะไปสักแล้วดีทุกอย่าง ประเทศไทยจะดังไปทั่วโลก เพราะมีแต่คนรักและความสมหวังและร่ำรวย ไม่มีคนจน เศรษกิจโลกจะตกก็ไม่เป็นไรเพราะคนไทยมียันต์วิเศษ สักกันทุกคน ทำให้รวย รวย รวย โกหกนั้นตายตกนรก สาธุ สาธุ
ผู้แสดงความคิดเห็น ลูกศิษย์พระ วันที่ตอบ 2009-06-10 17:02:04 IP : 119.31.39.146

ความคิดเห็นที่ 5 (3027396)
ลูกศิษย์ครูท่าน	การที่บุคลใด เหล่าใดมีความศรัธา มีความเชื่อ เลื่อมใส ในศาสตร์นั้นๆนะก็ถูกต้องแล้วล่ะ เขาไม่ได้ ผิดหรือทำไม่ถูกแต่อย่างใด เพราะขึ้นชื่อว่าเป็น ศาสตร์นั้น ย่อมมีการสืบทอดการศึกษา เรียนรู้ มีกฎมีเกณญ์ ระเบียบแบบแผน ในการปฎิบัติ ต่อกันกับศาสตร์นั้นมานานแล้วล่ะถึงจะใด้เรียกว่าเป็นศาสตร์ได้ เช่น ไสยศาสต์ โหราศาสตร์ วิทยาศาสต์ เป็นต้น แต่ล่ะศาสตร์ก็มีการ พิสูจณ์ หรือ ยืนความจริงแตกต่างกันไป ดังนั้นความสำเร็จ หรือประโยชน์จะได้รับย่อมแตกต่าง กันตามศาสตร์ นั้นได้ตั้งหรือกำหนดเอาไว้ แต่เราผู้รับรู้ข้อมูล หรือผู้รับฟังข้อมูลมานั้น มีความเข้าใจหรือภูมิความรู้ ในแต่ล่ะศาสตร์ที่แตกต่างกัน ก็เลยมีความเห็นไม่เหมื่อนกันเป็นธรรมดา ก็น่ารับฟังหรือเปิดใจให้กว้างรับฟังบ้างนะ อย่าไปว่าเขาเหล่านั้นเลย หรือเอาไปโยงใยให้ใหญ่โต ขนาดนั้นล่ะ เพราะที่เขาอธิบาย มานั้นก็บอกแล้วล่ะว่า เป็นศาสตร์แบบไหน เพราะอย่างน้อยเราดำรงอยู่ได้ จนปัจจุบัน ก็ศาสตร์แขนงนี้ล่ะครับ ส่วนหนึ่งที่สร้างขวัญกำลังใจ ให้คนหรือผู้ทำหน้าที่รักษา พืนแผ่นดินนี้ให้คงอยู่ชั่วลูกสืบหลานมาจนทุกวันนี้ แม้แต่ทุกวันนี้ ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นมา จากการร้ายหลายๆ ที่ผู้ที่ทำหน้าที่ดูแลความสงบยังต้องพึ่งพา อาศัยศาสตร์แขนงนี้อยู่เลย เพราะตอนหน้าสิวหน้าขวาน หรือมองไม่เห็นว่าความปลอดภัยเป็น แบบไหนอย่างน้อยสิ่งยึดเหนียวจิตใจหนึ่งในหลายๆอย่างของท่านหรือเขาเหล่านั้นก็ศาสตร์แขนงนี้ล่ะท่านนะ เพราะอย่างน้อยก็ยังพอมีหวังได้กลับบ้านเกิดใด้เห็นหน้าผู้ที่รักและเคารพ ของได้บ้างนะ ลองเปิดใจให้กว้างนะ
ผู้แสดงความคิดเห็น ลูกศิษย์ครูท่าน วันที่ตอบ 2009-07-04 02:48:57 IP : 58.9.201.252

ความคิดเห็นที่ 6 (3027654)

บัว 4 เหล่า

พระพุทธองค์ได้ทรงแสดงว่า พาหุง เว สรณังยันติ ปัพพตานิวนานิจ อารามะ สุกขะ เจตยานิ มนุสสาภยะตัชชิตา เนตัง โข สรณัง เขมัง เนตัง สรณะมุตตมัง เนตัง สรณะมาคัมมะ สัพพะทุกขา ปมุจจะติโย จ พุทธัญจะ ธัมมัญจะ สังฆัญจะ สรณัง คตา จตุตริ อริยะสัจจานิ สมุมัปปัญญายะ ปัสสติ ทุกขัง ทุกขัสสมุปปาทัง ทุกขัสสะจะ อติกุมมัง อริยญจตุถัง คิกังมัคคัง ทุกขูปะสะมะ คามินัง เอตัง โข สรณัง เขมัง เอตัง สรณะมุตตะมัง เอตัง สรณะมาคัมมะ สัพพะ ทุกขา ปมุจตีติ

มนุษย์ทั้งหลายเป็นอันมากถูกภัยคุกคามแล้วพากันไปถือ ภูเขา ป่า อารามและต้นไม้ ที่เป็นเจดีย์ว่าเป็นที่พึ่ง นั้นไม่ใช่ที่พึ่งอันเกษม นั้นไม่ใช่ที่พึ่งอันอุดม พวกเขาพากันพึ่งสิ่งเหล่านี้แล้วย่อมไม่พ้นจากทุกข์ทั้งปวงไปได้

ส่วนผู้ใดมาถึงพระพุทธเจ้า พระธรรมและพระสงฆ์ ว่าเป็นที่พึ่ง มาเห็นอริยสัจ 4 ด้วยปัญญาอันชอบก้าวล่วงทุกข์ด้วยมรรค 8 นี่แหละ เป็นที่พึ่งอันเกษม นี่แหละ เป็นพึ่งอันอุดม พวกเขาอาศัยที่พึ่งนี้ย่อมพ้นจากทุกข์ทั้งปวงได้

สิ่งที่ไม่ควรมองข้ามอย่างเด็ดขาดก็คือ ศีล ในสถานะอันเป็นพื้นฐาน

หากไม่มี ศีล เป็นพื้นฐานก็ยากยิ่งที่จะมี สมาธิ และ ปัญญา

องค์เอกภาพแห่ง ศีล สมาธิ ปัญญา จึงเป็นองค์เอกภาพอันมีความสัมพันธ์กันอย่างแนบแน่นยิ่งทางการปฏิบัติ

เป็นองค์เอกภาพแห่ง สะอาด สงบ สว่าง

ผู้แสดงความคิดเห็น บัว 4 เหล่า วันที่ตอบ 2009-07-04 22:35:53 IP : 118.172.29.191